โรคแวมไพร์ (Vampire Disease) โรคแปลกๆ ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น แต่มีอยู่จริง
โรคแวมไพร์ (Vampire Disease) เป็นภาวะความผิดปกติทางพันธุกรรม มักเกิดกับคนที่อายุเกิน 30 ปี ที่มีความผิดปกติในกระบวนการสร้างเม็ดสีของเซลล์ ทำให้ขาดเอนไซม์บางชนิด ที่จำเป็นในกระบวนการสร้างเม็ดสีฮีม (Heme) ซึ่งเป็นองค์ประกอบของเม็ดเลือดแดง และ เอนไซม์สำคัญต่าง ๆ ในร่างกาย ในฮีมจะมีสาร Porphyrin อยู่ แต่เมื่อมีมากเกินไป และ มาอยู่ใต้ชั้นผิวหนังมาก ๆ ทำให้เวลาโดนแสงแดด จะเกิดปฏิกิริยาอักเสบของผิวขึ้นมา ผิวหนังจะเริ่มตาย ด้วยเหตุนี้จะทำให้ไม่สามารถโดนแสงแดดได้ และ กลัวแสงแดดมาก นานวันเข้าโลหิตจะจางทำให้ผิวดูซีดเผือด ไม่มีแรง โรคนี้จะแสดงออกมา 2 ลักษณะใหญ่ คือ ทางจิต และ ทางผิวหนังของร่างกาย
อาการของโรคแวมไพร์
1.ผิวหนังแพ้แสงมาก เมื่อถูกแสงแดดจะทำให้เกิดผื่นแดง ผิวไหม้ลอก มีแผลพุพองขึ้นหากอยู่ในแสงแดดเพียงแค่ไม่กี่วินาที
2.มีอวัยวะบางส่วนยื่นออกมา ริมฝีปากจะเกิดอาการดึงรั้ง จนมองเห็นฟันชัดเจน ปากและริมฝีปากบวม แดง แตก
3.ผมบางส่วนอาจร่วง
4.ในรายที่รุนแรงอาจมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน
5.ในภาวะแทรกซ้อนรุนแรง อาจมีอาการจากการทำงานผิดปกติของตับและไต
6.ผู้ป่วยจะกลัวแสง และ จะเลือกออกจากบ้านเฉพาะเวลากลางคืน
การวินิจฉัย
วินิจฉัยโดยการตรวจเลือดหาระดับสารพอร์ไฟรินในเลือด และ ตรวจพันธุกรรมหาความผิดปกติของยีนที่เกี่ยวข้อง
วิธีการรักษาโรคแวมไพร์
1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง ป้องกันด้วยการสวมเสื้อผ้ากันแดด ทาครีมกันแดด
2.กินยาช่วยในการรักษา
3.ในรายที่มีอาการรุนแรง อาจต้องได้รับการรักษาด้วยการถ่ายเลือด
โรคแวมไพร์เป็นโรคพันธุกรรมที่หายไม่ได้ แต่สามารถควบคุมอาการได้ด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นและการรักษาตามอาการ การตรวจคัดกรองในครอบครัวที่มีประวัติจะช่วยให้วินิจฉัยได้เร็ว เพื่อจะได้ป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้ทัน


















