ตดไม่ใช่เรื่องขำ! วิจัยเผยการดมตดอาจดีต่อสุขภาพ
การดมตดอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม หากคุณมีแก๊สมากเกินไป หรือมีแก๊สร่วมกับอาการอื่น ๆ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ก็ได้
ลองจินตนาการว่าคุณนอนอยู่บนเตียง กำลังกอดกับคนรัก แล้วคุณก็ได้ยินเสียงบางอย่าง
อาจจะเป็นเสียงเบาๆ แทบไม่ได้ยิน หรือเสียงดังแบบห้องสะเทือน แต่ไม่ว่าเสียงนั้นจะมาในรูปแบบไหน คุณก็รู้ได้ทันทีว่า... มันมาแล้ว
แก๊ส... การผายลม... หรือที่เราคุ้นกันว่า “ตด”
แต่อย่าเพิ่งกระโดดลงจากเตียงแล้ววิ่งหนีไปหาที่หลบภัยในห้องถัดไปเพียงเพราะกลิ่นเหม็น
เพราะงานวิจัยล่าสุดในสัตว์ทดลองชี้ให้เห็นว่า ไฮโดรเจนซัลไฟด์ — สารหลักในตดที่ทำให้มีกลิ่นเหมือนไข่เน่า — อาจให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมนุษย์ เช่น การช่วยป้องกันโรคหัวใจ ไปจนถึงไตวาย
มาลองสำรวจแนวคิดที่เหมือนจะไม่น่าเชื่อนี้กันว่า... วิทยาศาสตร์เขาว่ายังไงบ้าง
ผลการวิจัยว่าอย่างไรบ้าง?
มีงานวิจัยหนึ่งในปี 2014 ที่จัดทำโดยทีมวิจัยร่วมจากมหาวิทยาลัยเอ็กซีเตอร์ในสหราชอาณาจักร และมหาวิทยาลัยเท็กซัสในสหรัฐอเมริกา ซึ่งให้ข้อมูลสนับสนุนแนวคิดที่ว่า การดมก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์อาจเป็นผลดีต่อสุขภาพ
งานวิจัยนี้ตั้งอยู่บนแนวคิดที่ว่า ไมโทคอนเดรีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเซลล์ที่ช่วยผลิตพลังงาน อาจได้รับประโยชน์จากก๊าซนี้
นักวิจัยพบว่า เมื่อเซลล์ในหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดดำเกิดความเสียหายหรือเผชิญกับความเครียดที่เกี่ยวข้องกับโรคบางชนิด เซลล์เหล่านี้จะใช้เอนไซม์ของร่างกายสร้างก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ขึ้นมาเอง
ก๊าซนี้จะช่วยให้เซลล์ควบคุมความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน (oxidative stress) ได้ดีขึ้น ซึ่งความเครียดจากออกซิเดชันนั้นมักจะนำไปสู่การอักเสบ และอาจทำให้เซลล์ตายในที่สุด
แต่เมื่อโรครุนแรงขึ้น ไมโทคอนเดรียก็จะไม่สามารถผลิตก๊าซนี้ได้เพียงพอ ส่งผลให้โรคทรุดลงเรื่อย ๆ
นักวิจัยจึงตั้งสมมติฐานว่า: ถ้าเราให้เซลล์สัมผัสกับไฮโดรเจนซัลไฟด์จากภายนอก จะช่วยให้ไมโทคอนเดรียแข็งแรงขึ้นและชะลอการทรุดของโรคได้ไหม?
พวกเขาจึงสร้างสารประกอบหนึ่งขึ้นมา เรียกว่า AP39 ซึ่งเลียนแบบคุณสมบัติของไฮโดรเจนซัลไฟด์ และนำมาใช้กับเซลล์ในหลอดเลือดเพื่อทดสอบผล
---
ผลลัพธ์เบื้องต้นชี้ให้เห็นว่า ก๊าซนี้สามารถช่วยรักษาไมโทคอนเดรียไว้ได้มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อไมโทคอนเดรียสัมผัสกับ AP39 ซึ่งอาจส่งผลอย่างกว้างขวางต่อหลายภาวะที่เกี่ยวข้องกับการตายของเซลล์ที่เกิดจากการทำงานผิดปกติของไมโทคอนเดรีย
แม้ว่าจะยังต้องมีการศึกษาต่อเพิ่มเติมเกี่ยวกับปฏิกิริยาของ AP39 หรือไฮโดรเจนซัลไฟด์กับระบบอื่น ๆ ในร่างกาย แต่ผลลัพธ์เบื้องต้นก็นับว่ามีแนวโน้มที่ดี
และผลลัพธ์นี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นแค่บังเอิญ เพราะในปีเดียวกันนั้นเอง ทีมวิจัยซึ่งมีนักวิจัยบางคนชุดเดียวกัน ยังพบว่า AP39 สามารถปกป้องไมโทคอนเดรียจากความเสียหายที่เกิดจากการอักเสบ ได้อีกด้วย
---
ประโยชน์ที่เป็นไปได้
จนถึงตอนนี้ การศึกษาทางคลินิกเกี่ยวกับ AP39 ยังทำเฉพาะในสัตว์ทดลองเท่านั้น แต่งานวิจัยที่มีอยู่ก็ชี้ให้เห็นว่า สารประกอบนี้ อาจ ให้ประโยชน์ต่อมนุษย์ในหลายด้าน ดังนี้:
ลดความดันโลหิต: งานวิจัยในปี 2015 พบว่า AP39 อาจช่วยให้ผนังหลอดเลือดมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่แข็งตัวจนเกินไป
รักษาอาการหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke): งานวิจัยในปี 2018 ชี้ว่า AP39 อาจช่วยขยายหลอดเลือด และทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งอาจช่วยรักษาอาการหัวใจวาย หรือ ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองได้
ฟื้นฟูสุขภาพไต: งานวิจัยในปี 2016 ชี้ว่า AP39 อาจช่วยรักษาไตที่ได้รับความเสียหายจากการอักเสบ
ปกป้องสมอง: งานวิจัยในปี 2015 พบว่า AP39 อาจช่วยป้องกันความเสียหายของสมองหลังจากหัวใจวาย และงานวิจัยอีกชิ้นในปี 2016 ยังเสนอว่าอาจช่วยชะลอหรือป้องกันภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์ได้
ลดผลกระทบของความชรา: งานวิจัยในปี 2018 พบว่า AP39 อาจช่วยปกป้องโครงสร้างของเซลล์ที่มักเสื่อมลงเมื่อเวลาผ่านไป
แนวคิดหลักที่อยู่เบื้องหลังงานวิจัยทั้งหมดนี้ก็คือ ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์สามารถลดผลกระทบของภาวะเครียดจากออกซิเดชันต่อเซลล์ ซึ่งช่วยให้เซลล์แข็งแรงขึ้น และมีอายุยืนยาวมากขึ้น
งานวิจัยล่าสุดในสัตว์ทดลองชี้ว่า ไฮโดรเจนซัลไฟด์ (หนึ่งในส่วนประกอบหลักของแก๊สที่มีกลิ่น) อาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพบางประการ เช่น การรักษาสุขภาพหัวใจ หรือการป้องกันภาวะสมองเสื่อม
อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมีการวิจัยในมนุษย์เพิ่มเติมเพื่อสำรวจศักยภาพในการรักษานี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น














