ไขปริศนามัมมี่แห่งแอ่งทาริม ชนเผ่าลึกลับผู้มาก่อนกาลและดีเอ็นเอที่เล่าขานเรื่องราวอันน่าทึ่ง
ท่ามกลางผืนทรายอันแห้งแล้งและกว้างใหญ่ของแอ่งทาริมในประเทศจีน ตะวันออกกลางของเอเชีย ทรายที่ร้อนระอุได้กักเก็บความลับของอดีตไว้เป็นเวลานับพันปี นั่นคือ มัมมี่แห่งแอ่งทาริม ร่างกายที่แห้งเหือดแต่ยังคงร่องรอยของชีวิตเมื่อหลายพันปีก่อน กำลังเผยเรื่องราวอันน่าทึ่งผ่านสายใย DNA และร่องรอยทางโบราณคดี ที่อาจพลิกโฉมความเข้าใจของเราเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การอพยพและการผสมผสานทางวัฒนธรรมในทวีปยูเรเชีย
ลองจินตนาการถึงร่างมนุษย์โบราณที่มีใบหน้าคมสัน ผมสีอ่อน และสวมใส่เสื้อผ้าที่ทอจากขนแกะลวดลายซับซ้อน ราวกับหลุดออกมาจากภาพวาดบนผนังถ้ำในยุโรป พวกเขาเหล่านี้คือมัมมี่แห่งแอ่งทาริม ที่ถูกค้นพบในสุสานโบราณ เช่น สุสานเซียวเหอ ซึ่งมีอายุเก่าแก่กว่า 4,000 ปี การค้นพบนี้สร้างความประหลาดใจให้กับนักโบราณคดีมานานนับทศวรรษ เพราะลักษณะทางกายภาพและวัฒนธรรมของพวกเขาดูแตกต่างจากผู้คนที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคนี้ในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง
และแล้ว ปริศนาก็ค่อยๆ คลี่คลายลงด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย นั่นคือ การวิเคราะห์ DNA ทีมวิจัยนานาชาติได้ทำการถอดรหัสพันธุกรรมของมัมมี่เหล่านี้ และผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าทึ่งยิ่งกว่าเดิม! แทนที่จะเป็นผู้ที่อพยพมาจากเอเชียกลางอย่างที่เคยคาดการณ์ไว้ DNA กลับชี้ชัดว่า พวกเขาคือ ลูกหลานของชาวยูเรเชียเหนือโบราณ กลุ่มคนที่เคยร่อนเร่ไปทั่วยูเรเชียมาตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง นั่นหมายความว่า พวกเขาหยั่งรากลึกอยู่ในดินแดนแห่งนี้มานานนับหมื่นปี ก่อนที่การอพยพครั้งใหญ่จากภูมิภาคอื่นจะเกิดขึ้น
เรื่องราวไม่ได้จบลงเพียงแค่ต้นกำเนิดเท่านั้น หลักฐานทางโบราณคดียังเผยให้เห็นถึงความน่าสนใจในวิถีชีวิตของพวกเขา แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้ง แต่พวกเขากลับมีความรู้ความสามารถในการเกษตรที่ก้าวหน้า โดยนำเอาเทคนิคและพืชพรรณจากดินแดนตะวันตกมาปรับใช้ นอกจากนี้ การพบข้าวของเครื่องใช้จากต่างแดนในสุสานยังบ่งบอกถึงเครือข่ายการติดต่อและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่กว้างขวางในอดีต
อย่างไรก็ตาม ปริศนาที่ยังคงทิ้งร่องรอยความสงสัยไว้คือ การหายตัวไปของชนเผ่าลึกลับเหล่านี้ เหตุใดชุมชนที่เคยรุ่งเรืองและมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์จึงหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ทำให้แหล่งน้ำสำคัญเหือดแห้ง อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การอพยพหรือการล่มสลายของพวกเขา
มัมมี่แห่งแอ่งทาริมจึงไม่ใช่เพียงแค่ซากศพโบราณ แต่เป็น หน้าต่างแห่งกาลเวลา ที่เปิดให้เราได้มองเห็นเรื่องราวอันซับซ้อนของการเดินทางของมนุษยชาติ การผสมผสานทางวัฒนธรรม และความท้าทายของการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่เติมเต็มช่องว่างในประวัติศาสตร์เอเชียกลาง แต่ยังกระตุ้นให้เราตั้งคำถามใหม่ๆ เกี่ยวกับอดีตอันไกลโพ้น และความเชื่อมโยงอันน่าทึ่งระหว่างผู้คนและดินแดนต่างๆ ทั่วโลก เรื่องราวของพวกเขาจะยังคงถูกขุดค้นและตีความต่อไป เพื่อไขความลับที่ซ่อนอยู่ในผืนทรายแห่งแอ่งทาริมต่อไปในอนาคต
ที่มา: CNN
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
เขมร ยอมมาโต๊ะเจรจาที่จันทบุรี หลังไทยดัดหลัง "ไม่ย้ายประเทศ"
"DJ Sakura Soh" กับบทบาทใหม่ในวงการ JAV
หนุ่มรัสเซียฉีดวาสลีน 6 ลิตรเข้าแขนเพื่อ "กล้ามใหญ่ไว" สุดท้ายกลายเป็นป๊อปอายเวอร์ชั่นสยองขวัญ แขนเน่า-แข็งเหมือนไม้!
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
เตือนแล้วนะ! 3 ผลไม้ที่ "เซลล์มะเร็ง" โปรดปราน หมอยังไม่กล้าแตะ แต่หลายคนกินทุกวันโดยไม่รู้ตัว
10 ประเด็นร้อนฉ่าที่คนไทยให้ความสนใจสูงสุดในปี 2568
คุกกี้เสี่ยงทาย... ทายนิสัยความขี้อ้อนของคนเกิดทั้ง 7 วัน
เงินเดือนผู้ประกาศข่าว
ปลาย พรายกระซิบ ยัน "ไม่ใช่ผู้วิเศษ" ต้องหาอาชีพอื่นสำรองไว้ด้วย
พชร์ อานนท์ การันตี "หอแต๋วแตก" ภาคล่าสุด เส้นเรื่องแน่น มุกสดใหม่ทันเหตุการณ์
"จีน-รัสเซีย" ผนึกกำลังรุมบดขยี้ "สหรัฐ" ส่งเรือรบยึดน้ำมัน ใช้กำลังทหารรุกราน "เวเนซุเอลา"
เตือนแล้วนะ! 3 ผลไม้ที่ "เซลล์มะเร็ง" โปรดปราน หมอยังไม่กล้าแตะ แต่หลายคนกินทุกวันโดยไม่รู้ตัว
เปิดตำนานคุณลุงซานต้า: จากนักบุญใจบุญยุคโบราณ สู่ชายชุดแดงพุงพลุ้ยที่โคคา-โคล่าช่วยปั้น! 🎅🦌
อันตรายใกล้ตัว เตือน 3 ประเภท ชามใส่อาหาร ที่หลายบ้านยังใช้ เสี่ยงสารพิษสะสมไม่รู้ตัว
ทึ่งทั่วโลก :แม่น้ำสองสี "อารากวี" (Aragvi) ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามน่าทึ่งในประเทศจอร์เจีย


