เลี้ยงหลานอย่างไรให้ทั้งรักและเข้าใจ
การได้อยู่กับหลานคือความสุขของคนเป็นปู่ย่าตายาย แต่ในยุคที่โลกหมุนเร็ว เด็กเติบโตมากับเทคโนโลยีและแนวคิดใหม่ ๆ ทำให้หลายครั้งเกิดความต่างระหว่างวัย การเลี้ยงหลานในวันนี้ จึงไม่ใช่แค่การให้อาหารหรือดูแลความปลอดภัย แต่ยังต้อง “เข้าใจ” และ “เปิดใจ” ไปพร้อมกัน
1. ฟังหลานให้มากกว่าพูด
เด็กยุคใหม่มีความคิดของตัวเอง และอยากให้ผู้ใหญ่รับฟัง แทนที่จะรีบบอกว่า “หลานต้องทำแบบนี้” ลองนั่งฟังอย่างตั้งใจว่าเขาคิดอะไร รู้สึกอย่างไร เมื่อหลานรู้ว่าคุณตาคุณยายฟังอย่างเข้าใจ ความสัมพันธ์จะใกล้ชิดขึ้นโดยไม่ต้องฝืน
2. ใช้ความรักแบบไม่บังคับ
คนสูงวัยบางท่านอาจเผลอใช้ความรักในรูปแบบของ “ความคาดหวัง” เช่น อยากให้หลานเรียนเก่ง พูดจาเรียบร้อย หรือเป็นเด็กดีแบบที่ตัวเองเชื่อแต่การรักอย่างแท้จริงคือการเปิดพื้นที่ให้หลานเติบโตในแบบของเขา โดยมีเราอยู่เคียงข้างเป็นที่พึ่ง ไม่ใช่เป็นคนควบคุม
3. ปรับตัวกับเทคโนโลยีบ้าง
เด็กสมัยนี้ใช้มือถือ แท็บเล็ต และเรียนรู้ผ่านโลกออนไลน์ คุณตาคุณยายอาจไม่จำเป็นต้องใช้เก่ง แต่เพียงแค่ไม่ต่อต้านหรือกลัวเทคโนโลยี ก็ทำให้หลานรู้สึกว่า “ผู้ใหญ่เข้าใจเขา”บางทีการขอให้หลานสอนเล่นมือถือ หรือถ่ายรูปให้ ก็อาจเป็นกิจกรรมสนุก ๆ ที่ทำร่วมกันได้
4. เป็นตัวอย่างที่ดีโดยไม่ต้องดุ
เด็กเรียนรู้จากการดูมากกว่าการฟัง หากอยากให้หลานมีน้ำใจ อ่อนน้อม หรือรู้จักใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือ “การเป็นแบบอย่าง” เช่น พูดจาไพเราะ รู้จักให้อภัย แบ่งปันอาหาร หรือดูแลธรรมชาติหลานจะซึมซับสิ่งดี ๆ โดยไม่ต้องบังคับเลย
5. แบ่งเบาภาระพ่อแม่ ไม่ใช่แบกรับทั้งหมด
การเลี้ยงหลานควรเป็นการช่วยดูแลแบบพอดี ไม่ใช่การรับผิดชอบทั้งหมดจนเหนื่อยหรือเครียดหากรู้สึกไม่ไหว ควรพูดคุยกับลูกหลานตรง ๆ ด้วยความเข้าใจ เพื่อให้ทุกคนช่วยกันดูแลหลานในแบบที่เหมาะสม
การเลี้ยงหลานให้ทั้งรักและเข้าใจ คือการสร้างความผูกพันระหว่างวัยด้วยความอ่อนโยน เปิดใจ และเต็มไปด้วยความเมตตา หลานไม่ได้ต้องการแค่ของเล่นหรือคำสั่งสอน แต่ต้องการ “ใจ” ที่พร้อมจะอยู่กับเขาในทุกจังหวะของการเติบโต เมื่อเรารักอย่างเข้าใจ…หลานก็จะเติบโตเป็นคนที่มีความสุขและรู้จักรักผู้อื่นได้เช่นกัน












