หากปล่อยให้น้ำตาลในเลือดสูง จะเกิดอะไรขึ้น
น้ำตาลในเลือดสูง คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินกว่าเกณฑ์ค่าปกติ คือ มากกว่า 99 มก./ดล. หลังอดอาหาร 8 ชม. และ เกิน 140 มก./ดล. หลังมื้ออาหาร 2 ชม. ภาวะเช่นนี้จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง และ ไม่ได้รับการรักษา อาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ส่งผลให้เส้นประสาท หลอดเลือด อวัยวะต่างๆ ถูกทำลายจนมีปัญหาสุขภาพร้ายแรงตามมา
สาเหตุของภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
มักเกิดจากโรคเบาหวานเป็นหลักเพราะ มีระดับน้ำตาลสูงขึ้นได้ง่าย เนื่องจากร่างกายมีฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ หรือเกิดภาวะดื้ออินซูลิน ทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลผิดปกติ ส่วนผู้ที่ไม่ได้เป็นโรคเบาหวานก็เกิดภาวะนี้ได้เช่นกัน โดยอาจมีสาเหตุมาจากโรคหรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่าง เช่น
- การกินอาหารที่มีน้ำตาล และ คาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบมากเกินไป
- โรคเครียด มีภาวะเครียดตลอดเวลา
- ไม่ชอบ หรือ ไม่เคยออกกำลังกาย
- การติดเชื้อมีไข้
- เป็นโรคเกี่ยวกับตับอ่อน ทำให้ร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้
- การกินยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์ ยากดภูมิต้านทาน
หากปล่อยให้น้ำตาลในเลือดสูงจะเกิดอาการเหล่านี้
1.คอแห้ง หิวน้ำบ่อย เมื่อร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูง ร่างกายจะสูญเสียน้ำออกมาทางปัสสาวะ เมื่อปัสสาวะบ่อย ร่างกายจึงขาดน้ำ ทำให้หิวน้ำบ่อย แต่อาการโดยทั่วไปไม่ได้แตกต่างจากการหิวน้ำปกติ
2.ปัสสาวะบ่อย เพราะน้ำตาลในเลือดจะไปที่ไต จึงขับปัสสาวะออกมาเยอะ สังเกตได้ง่าย ๆ ว่าต้องลุกมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน 2-4 ครั้ง อาจเป็นสัญญาณของโรคเบาหวานได้ โดยปกติคนทั่วไปจะลุกมาเข้าห้องน้ำไม่เกิน 1-2 ครั้ง ส่วนจำนวนครั้งของการปัสสาวะต่อวันก็ไม่ได้มีตัวเลขที่แน่นอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่ดื่มเข้าไป
3.น้ำหนักลดลง
4.ผิวแห้ง
5.รู้สึกหิวแม้จะเพิ่งกิน
6.อ่อนเพลีย
7.สายตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัด
ซึ่งภาวะน้ำตาลในเลือดสูง บางทีไม่ได้แสดงอาการให้เห็นเสมอไป การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยบอกถึงภาวะน้ำตาลในเลือดสูงได้
วิธีดูแลตัวเองเพื่อป้องกัน ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
1.เลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลเชิงเดี่ยว เช่น น้ำหวาน น้ำผลไม้ ขนมหวาน
2.ลดอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต เช่น จำกัดปริมาณข้าวที่กิน
3.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน
4.ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน เพราะน้ำจะช่วยขจัดน้ำตาลออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะ และ ป้องกันภาวะขาดน้ำ
อ้างอิงจาก: https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/ภาว�%b
8%b0%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b9%83%e0
%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%aa%e0%b8%b9%e
0%b8%87%e0%b8%88%e0%b8%b0/
https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/ภาว�%B
8%B0%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%83%E0
%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B9
%E0%B8%87















