วิธีรับมือกับหนุ่มหล่อที่มาขอมีอะไรด้วย
ดิฉันมีประสบการณ์ชีวิตมาไม่น้อย แต่ก็ยังเชื่อในความสุภาพและความสง่างามแบบกุลสตรีไทยในสมัยก่อน วันนี้ดิฉันไม่ได้มาเล่าเรื่องนี้เพื่อยั่วยุหรือชวนให้ตื่นเต้นนะคะ แต่ในฐานะพี่สาวคนหนึ่งที่อยากเตือนน้องๆ และเล่าสู่กันฟังอย่างมีสติ ดิฉันจึงขอพูดเรื่องนี้แบบเปิดอกในสไตล์ "คุณหนูผู้ดี" ที่ยังรักศักดิ์ศรีของตนเองค่ะ
ลองจินตนาการดูสิคะ…
คุณเดินคนเดียวในมุมเเคบๆ ของโรงแรมหรือสวนสาธารณะตอนกลางคืนแล้วจู่ๆ ก็มีผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งเดินเข้ามา รูปร่างสูง หล่อ กล้ามแน่น ตาเจ้าเสน่ห์พูดจาหวานหู และเขาก็ตรงเข้ามาแล้วชมว่าคุณสวย จากนั้นก็มาขออะไรกับคุณ
โอ๊ย…ถ้าเป็นเมื่อสมัยสาวๆ ดิฉันอาจจะใจสั่นอยู่บ้างนะคะ แต่ถึงจะใจสั่นยังไง “สติ” ต้องมาก่อน “ความรู้สึก” เสมอค่ะ
แล้วถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับคุณ…คุณจะทำอย่างไร วันนี้ดิฉันจะมาแนะนำในฐานะพี่สาววัย50นะคะ
1. ตั้งสติให้ไว แล้วยิ้มอย่างมีมารยาท
จำไว้นะคะ ผู้หญิงมีสิทธิ์ใจเต้น แต่ไม่มีหน้าที่ต้องตอบรับทุกคำชม อย่าเผลอใจหรือเผลอกายเพียงเพราะเขาหล่อค่ะ
เราสามารถยิ้มได้ค่ะ แต่ให้เป็น “ยิ้มของคุณหนูในละคร” คือ ยิ้มอย่างสุภาพ แล้วตอบอย่างนุ่มนวลว่า…
“ขอโทษนะคะ ดิฉันไม่ค่อยสะดวกใจที่จะคุยกับคนแปลกหน้าเท่าไร”
หรือ
“คุณดูดีค่ะ แต่ดิฉันขออนุญาตไม่รับคำชวนนะคะ”
พูดอย่างนี้ สง่างาม ไม่เสียมารยาท แถมยังเซฟใจเราไว้ด้วยค่ะ
2. ใช้ภาษากายให้มีพลัง ถอยหนึ่งก้าว ยืดหลัง ยกคาง
การแสดงออกอย่างมั่นใจช่วยให้ผู้ชายรู้ว่า “ฉันไม่ใช่เหยื่อ” นะคะ ถ้าเราแสดงท่าทางว่าไม่โอเค พวกเขาส่วนใหญ่จะไม่กล้าล้ำเส้น
ดิฉันเคยใช้วิธีนี้มาแล้วค่ะ ตอนสมัยยังทำงานในกรุงเทพฯ เจอคนแปลกหน้าเข้ามาทำท่าจีบแบบจู่โจม ดิฉันเพียงแค่ “สบตานิ่งๆ แล้วพูดช้าๆ” ก็เอาอยู่ค่ะ
3. หากยังไม่ถอย ให้ย้ายที่ อย่าปะทะ
การเถียงหรือเสียงดังอาจจะทำให้สถานการณ์บานปลาย ลองใช้วิธี “เดินออก” โดยไม่ต้องตอบโต้
คุณหนูในละครหลังข่าวเขาจะทำอย่างไรคะ เขาจะเดินนวยนาดออกไปอย่างมีเกียรติค่ะ ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะ “รู้คุณค่าของตัวเอง”
จำไว้นะคะ…เรามีสิทธิ์ปฏิเสธอย่างสุภาพ โดยไม่ต้องรู้สึกผิด
4. บอกคนใกล้ตัวไว้เสมอ ว่าคุณอยู่ที่ไหน
ไม่ว่าคุณจะไปไหนคนเดียว อย่าลืมบอกเพื่อน บอกครอบครัว หรือแชร์โลเคชันไว้ค่ะ เพราะเราไม่รู้เลยว่าเสน่ห์เราจะทำให้ใครเผลอตัวเผลอใจอีกบ้าง โดยเฉพาะคนแปลกหน้าที่หวังอะไรมากกว่าการชวนคุย
5. ถ้าคุณใจไหว…ให้นึกถึงตัวเองในอีก 3 วันข้างหน้า
ดิฉันขอฝากไว้ว่า...ความหล่อกล้ามแน่นไม่ใช่ใบเบิกทางสู่ความสุขเสมอไปค่ะ ลองถามตัวเองว่า “ถ้าฉันเผลอใจ แล้วตื่นมาในพรุ่งนี้…ฉันจะรู้สึกยังไง”
ถ้าคำตอบคือ “เสียใจ อับอาย หรือรู้สึกไม่ใช่เรา” งั้นก็อย่าเลยค่ะ อย่าให้แค่ค่ำคืนหนึ่งมาทำลายคุณค่าทั้งชีวิตที่คุณรักษามา
ดิฉันไม่ได้ห้ามให้น้องๆ หลงเสน่ห์ใคร แต่ขอให้รักตัวเองให้มากกว่าใจที่หวั่นไหวค่ะ
ถ้ามีหนุ่มหล่อเข้ามาขอมีอะไรด้วย อย่าตกใจค่ะ
ให้ใจสงบ ใช้สตินำทาง และตอบอย่างงดงามในแบบผู้หญิงที่รู้คุณค่าของตัวเอง
ขอให้ทุกคนเจอแต่ความรักที่ดีนะคะ ไม่ใช่เพียงแค่ความเร้าใจชั่วคราวค่ะ
ใครเคยเจอสถานการณ์แบบนี้บ้าง มาแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ ดิฉันยินดีนั่งจิบชานมไข่มุกร่วมวิเคราะห์ด้วยความห่วงใยค่ะ















