กินจุยังไงก็ไม่อ้วน วันนี้ดิฉันมี13วิธีจะมาสรุปให้ฟังคะ
กินจุยังไงก็ไม่อ้วน วันนี้ดิฉันมี13วิธีจะมาสรุปให้ฟังคะ
สวัสดีค่ะทุกคน ดิฉันในวัย 50 ผ่านร้อนผ่านหนาว (และผ่านการลดน้ำหนักมาหลายรูปแบบ) เข้าใจดีเลยค่ะว่า "การกินแล้วไม่อ้วน" เป็นความฝันของหลาย ๆ คน ยิ่งพออายุเยอะขึ้น ระบบเผาผลาญก็ช้าลง แค่หายใจยังรู้สึกอ้วนเลยใช่ไหมคะ แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ วันนี้ดิฉันมี 13 วิธีที่จะช่วยให้คุณกินอร่อยได้เต็มที่โดยไม่ต้องกลัวน้ำหนักขึ้น มาดูกันเลย
1 เลือกกินแต่อาหารที่มีแคลอรีต่ำแต่ทำให้อิ่มนาน
พวกผักใบเขียว อกไก่ ไข่ต้ม เต้าหู้ หรือพวกธัญพืชเต็มเมล็ดล้วนเป็นของกินที่ทำให้อิ่มเร็วแต่ไม่อ้วนค่ะ พยายามเลือกอาหารที่ให้พลังงานต่ำแต่ให้ไฟเบอร์สูง จะช่วยให้เราไม่รู้สึกหิวบ่อย
2 หลีกเลี่ยงน้ำตาลและของหวาน
ข้อนี้สำคัญมาก น้ำตาลเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้อ้วนโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม ชานมไข่มุก ขนมปัง หรือขนมหวานต่าง ๆ พยายามลดให้ได้มากที่สุด หรือเลือกใช้น้ำตาลทางเลือก เช่น หญ้าหวาน (Stevia) แทน
3 ดื่มน้ำมาก ๆ ก่อนมื้ออาหาร
การดื่มน้ำ 1-2 แก้วก่อนมื้ออาหารจะช่วยให้เรารู้สึกอิ่มเร็วขึ้น และยังช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญอีกด้วย แถมยังทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ไม่เหี่ยวเร็วอีกต่างหาก
4 กินโปรตีนให้มากขึ้น
โปรตีนเป็นสารอาหารที่ช่วยให้อิ่มท้องนานและช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ ถ้ามีกล้ามเนื้อมาก ระบบเผาผลาญก็จะดีขึ้น ทำให้กินเยอะแต่ไม่อ้วนค่ะ แหล่งโปรตีนดี ๆ ได้แก่ อกไก่ ไข่ ปลา เต้าหู้ และถั่วต่าง ๆ
5 เคี้ยวอาหารให้ช้าลง
รู้ไหมคะว่าการเคี้ยวช้า ๆ จะช่วยให้สมองมีเวลาส่งสัญญาณว่า "อิ่มแล้ว" ถ้าเรากินเร็วเกินไป เราจะเผลอกินเยอะโดยไม่รู้ตัว ลองฝึกเคี้ยวให้ช้าลงจะช่วยลดปริมาณอาหารที่กินได้เยอะเลยค่ะ
6 นอนหลับให้เพียงพอ
การนอนน้อยจะทำให้ฮอร์โมนหิว (Ghrelin) สูงขึ้น ทำให้เรารู้สึกหิวตลอดเวลา และยังลดฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมความอิ่ม (Leptin) อีกด้วย ดังนั้นควรนอนให้เพียงพอวันละ 7-9 ชั่วโมง จะช่วยให้การเผาผลาญดีขึ้น
7 ออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง (Weight Training)
การออกกำลังกายแบบเวทจะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งจะทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานมากขึ้น แม้แต่ตอนที่เรานั่งเฉย ๆ ร่างกายก็ยังเบิร์นแคลอรีอยู่ นี่แหละค่ะเคล็ดลับของคนที่กินเยอะแต่ไม่อ้วน
8 เดินให้มากขึ้นในแต่ละวัน
การเดินเป็นการออกกำลังกายที่ง่ายและเผาผลาญแคลอรีได้ดี ลองเพิ่มกิจกรรมง่าย ๆ เช่น เดินขึ้นบันไดแทนลิฟต์ หรือเดินเล่นหลังอาหารเย็น ก็ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้นค่ะ
9 งดอาหารแปรรูป
อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม ขนมขบเคี้ยว หรืออาหารสำเร็จรูปมักมีไขมันทรานส์ น้ำตาล และโซเดียมสูงมาก ทำให้ร่างกายสะสมไขมันได้ง่าย ควรเลือกอาหารที่สดใหม่และปรุงเองจะดีกว่าค่ะ
10 ดื่มชาเขียวหรือน้ำมะนาวตอนเช้า
ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ และยังช่วยลดไขมันหน้าท้องได้ดี ส่วนมะนาวมีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและช่วยให้ร่างกายสดชื่นค่ะ
11 ควบคุมปริมาณอาหาร ไม่ใช่ห้ามกิน
หลายคนคิดว่าการลดน้ำหนักคือการ "งด" อาหารบางอย่างไปเลย ซึ่งผิดค่ะ! จริง ๆ แล้วเราสามารถกินได้ทุกอย่าง แต่ต้องกินในปริมาณที่พอเหมาะ เช่น ถ้าอยากกินของหวาน ก็แบ่งกินแค่ครึ่งชิ้น แทนที่จะกินทั้งชิ้นใหญ่
12 ใช้จานขนาดเล็ก
จิตวิทยาบอกว่าถ้าเราใช้จานใบเล็กลง เราจะรู้สึกว่าอาหารในจานเยอะขึ้น ทำให้กินน้อยลงโดยไม่รู้ตัว ลองเปลี่ยนมาใช้จานใบเล็กดูนะคะ วิธีนี้ช่วยได้จริง ๆ ค่ะ
13 มีความสุขกับการกิน และไม่เครียดกับน้ำหนักมากเกินไป
สุดท้ายแล้ว ความเครียดก็มีผลกับน้ำหนักนะคะ ถ้าเรากังวลเรื่องอาหารมากเกินไป ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมา ซึ่งทำให้เราอ้วนง่ายขึ้น ดังนั้นกินให้มีความสุข และใช้วิธีควบคุมที่ยั่งยืนจะดีกว่าค่ะ
สรุปแล้ว กินเยอะแต่ไม่อ้วนทำได้ไหม?
ได้ค่ะ ถ้าเลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
ควบคุมปริมาณและพฤติกรรมการกิน
ออกกำลังกายเสริมเพื่อเผาผลาญพลังงาน
นอนหลับให้พอ และลดความเครียด
ถ้าทำตาม 13 วิธีนี้ รับรองว่าไม่ต้องอดอาหารให้ทรมาน แถมยังสุขภาพดีขึ้นอีกด้วย ใครมีเคล็ดลับดี ๆ เพิ่มเติม มาแชร์กันได้นะคะ
แล้วคุณล่ะ มีวิธีไหนที่ช่วยให้กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนบ้าง คอมเมนต์มาพูดคุยกันได้นะคะ ❤️

















