ปลาหมอคางดำ สัตว์น้ำเอเลี่ยนมหันตภัยที่ทำให้ธุรกิจการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งของไทยเดือดร้อนอย่างหนัก !!!
ในห้วงน้ำกร่อยตามแนวชายฝั่งไทย มีภัยคุกคามเงียบที่กำลังคืบคลานเข้าสู่ระบบนิเวศอย่างไม่รู้ตัว ปลาหมอคางดำ สายพันธุ์ต่างถิ่นที่เดิมอาศัยอยู่ในแถบอเมริกากลางและแคริบเบียน ได้เข้ามาสู่ธรรมชาติของไทยและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ความสามารถในการปรับตัวของมันน่าทึ่งจนเกินคาด เพราะไม่เพียงแต่อยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเท่านั้น แต่ยังสามารถขยายพันธุ์ได้เองโดยไม่ต้องอาศัยคู่ ผสมพันธุ์และเติบโตจนกลายเป็นเงามืดที่คุกคามการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายทะเล
เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งและปลาทะเลเริ่มสังเกตถึงความผิดปกติในบ่อของพวกเขา ลูกกุ้งกุลาดำที่เคยเติบโตอย่างแข็งแรงกลับลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว ในบางบ่ออัตราการรอดเหลือเพียงครึ่งเดียว โดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด จนกระทั่งพบว่าภายในบ่อนั้นมีปลาหมอคางดำแอบแฝงอยู่ มันไม่เพียงแต่กินไข่และลูกอ่อนของสัตว์น้ำเท่านั้น แต่ยังแย่งอาหารและพื้นที่อยู่อาศัยจากสัตว์น้ำพื้นถิ่น ปลาหมอคางดำมีพฤติกรรมที่แตกต่างจากปลาทั่วไป เพราะสามารถอยู่รอดได้แม้ในสภาวะที่ไม่มีน้ำเป็นเวลานาน มันคลานขึ้นจากบ่อหนึ่งไปยังบ่ออีกแห่ง เคลื่อนที่ข้ามคันดินในยามค่ำคืนเหมือนเงามืดที่แฝงตัวเงียบๆ และเมื่อรุ่งเช้ามาถึง เกษตรกรก็พบว่าฝูงกุ้งและปลาของเขาลดลงไปอย่างไร้ร่องรอย
แม้จะพยายามกำจัด ปลาหมอคางดำกลับไม่ใช่สัตว์น้ำที่จัดการได้ง่าย เมื่อตาข่ายและกับดักทั่วไปไม่สามารถหยุดพวกมันได้ และการระบายน้ำออกจากบ่อก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะพวกมันสามารถขุดรูซ่อนตัวอยู่ในดินโคลน หรือซ่อนตัวใต้กองวัชพืชรอคอยเวลาที่เหมาะสมในการกลับลงสู่ผืนน้ำอีกครั้ง การใช้สารเคมีเพื่อกำจัดก็เป็นเรื่องที่ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอื่นในระบบนิเวศ
สถานการณ์นี้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เกษตรกรหลายรายต้องเผชิญกับภาวะขาดทุน กุ้งที่เคยเป็นสินค้าส่งออกสำคัญกลับมีผลผลิตลดลง ขณะที่ปลาเศรษฐกิจอย่างปลากะพงขาวและปูทะเลก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แม้ว่าจะมีความพยายามในการหาทางควบคุมการแพร่ระบาด แต่ดูเหมือนว่ายังไม่มีมาตรการใดที่สามารถหยุดยั้งปลาชนิดนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำเป็นตัวอย่างของผลกระทบจากสัตว์น้ำต่างถิ่นที่ถูกนำเข้ามาโดยไม่ได้รับการควบคุมอย่างรัดกุม มันสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบนิเวศชายฝั่งไทยที่ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ อยู่เสมอ หากไม่สามารถควบคุมการแพร่กระจายของมันได้อย่างทันท่วงที อนาคตของอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของไทยอาจตกอยู่ในภาวะที่ยากลำบากกว่าที่เคยเป็นมา




















