13 มีนาคม วันช้างไทย : มรดกแห่งป่าและสายใยแห่งแผ่นดิน
เสียงกึกก้องของช้างไทย ไม่ใช่เพียงเสียงก้าวเดินของสัตว์ใหญ่แห่งป่าไม้ แต่คือเสียงสะท้อนของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และจิตวิญญาณของแผ่นดินไทยที่สืบทอดกันมาเนิ่นนาน ในทุกจังหวะก้าวของช้าง เปรียบได้กับจังหวะหัวใจของผู้คนที่เติบโตเคียงข้างกัน วันช้างไทยจึงไม่ใช่เพียงวันสำคัญในปฏิทิน หากแต่เป็นวันแห่งการรำลึกถึงบทบาทของช้างที่ผูกพันกับชาติไทยมาอย่างลึกซึ้ง
ต้นกำเนิดแห่งวันช้างไทย
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 คณะรัฐมนตรีไทยมีมติเห็นชอบให้วันที่ 13 มีนาคม ของทุกปีเป็น “วันช้างไทย” โดยมีจุดเริ่มต้นจากความคิดริเริ่มของคณะอนุกรรมการประสานงานการอนุรักษ์ช้างไทย ซึ่งเล็งเห็นว่าช้างกำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการลดลงของถิ่นที่อยู่อาศัย ปัญหาการล่าช้างอย่างผิดกฎหมาย หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตผู้เลี้ยงช้าง การกำหนดวันช้างไทยขึ้นมาจึงเป็นความพยายามที่จะปลุกจิตสำนึกของคนไทยให้หันมาให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ช้างมากขึ้น
ช้าง: สัตว์คู่แผ่นดินไทย
ในอดีต ช้างไทยเป็นมากกว่าสัตว์ป่า พวกมันเป็นพาหนะของกษัตริย์ นักรบ และเป็นกำลังสำคัญในสนามรบ โดยเฉพาะเมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีเพื่อปกป้องเอกราชของแผ่นดิน ทว่าในปัจจุบัน บทบาทของช้างอาจเปลี่ยนไปจากยุคก่อน แต่คุณค่าของพวกมันยังคงยิ่งใหญ่เสมอ
ช้างเผือก ได้รับการยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศมาตั้งแต่สมัยโบราณ ปรากฏอยู่ในธงชาติไทยยุคแรก ๆ และยังคงเป็นสัตว์คู่พระบารมีของพระมหากษัตริย์ไทยมาจนถึงปัจจุบัน ความเชื่อของไทยถือว่าช้างเผือกเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นมงคลแก่แผ่นดิน การที่วันที่ 13 มีนาคมได้รับเลือกให้เป็นวันช้างไทยก็เพราะเป็นวันที่คณะกรรมการคัดเลือกสัตว์ประจำชาติ มีมติให้ช้างเผือกเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย
ความท้าทายในปัจจุบันและอนาคตของช้างไทย
แม้ช้างไทยจะได้รับเกียรติและการยกย่องมาอย่างยาวนาน แต่ปัจจุบันพวกมันต้องเผชิญกับภัยคุกคามมากมาย อาทิ การลดลงของแหล่งที่อยู่อาศัย การขัดแย้งระหว่างช้างป่ากับชุมชน การลักลอบค้าช้าง และภาวะการท่องเที่ยวที่อาจส่งผลต่อสวัสดิภาพของช้าง หากไม่มีมาตรการดูแลอย่างเหมาะสม วันช้างไทยจึงเป็นเครื่องเตือนใจให้คนไทยทุกคนหันมามองปัญหานี้อย่างจริงจังและร่วมกันหาทางแก้ไข






















