พีอาร์สาวเมืองชุมพรหนีตาย! แฉอดีตผัวโหด ตามทุบตี-ขู่ฆ่า ไม่ยอมหย่า
พีอาร์สาวเมืองชุมพรหนีตาย! แฉอดีตผัวโหด ตามทุบตี-ขู่ฆ่า ไม่ยอมหย่า
หยาดน้ำตาแห่งความช้ำใจรินไหล เมื่อสาวพีอาร์วัย 26 ปี ในจังหวัดชุมพร ต้องเผชิญหน้ากับฝันร้ายที่กลายเป็นจริง ชีวิตคู่ที่เริ่มต้นด้วยความรัก กลับกลายเป็นขุมนรกบนดิน เมื่อเธอตัดสินใจแต่งงานกับชายหนุ่มพนักงานร้านเดียวกัน
(ขอสงวนนาม) หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อ เล่าเรื่องราวสุดสะเทือนใจด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอและชายหนุ่มวัย 28 ปี (ขอสงวนนาม) ซึ่งทำงานที่เดียวกัน ตกลงปลงใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย หวังสร้างครอบครัวที่อบอุ่น
ช่วงแรกเริ่ม ทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้สวย ความรักเบ่งบาน หวานชื่น แต่แล้วเมฆหมอกแห่งความหึงหวงก็เริ่มก่อตัว ฝ่ายชายเริ่มแสดงอาการหวงแหนจนเกินงาม หลายครั้งที่ความหึงหวงนั้นลุกลามจนถึงขั้นถูกทางร้านตำหนิ แต่ก็ยังประคับประคองกันไปได้ ฝ่ายชายตัดสินใจลาออกจากงาน หวังลดแรงเสียดทาน
ทว่า...ความสงบสุขเป็นเพียงภาพลวงตา เมื่อเวลาผ่านไปเพียง 2-3 เดือน สันดานดิบของชายหนุ่มเริ่มเผยออกมา จากการทะเลาะเบาะแว้งด้วยคำพูด เริ่มกลายเป็นการลงไม้ลงมือ แม้จะไม่ถึงกับปางตาย แต่ก็สร้างรอยแผลในใจให้หญิงสาว
ความรุนแรงทวีขึ้นทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ความอดทนของหญิงสาวเริ่มหมดลง เธอตัดสินใจขอหย่า เพื่อยุติความเจ็บปวด แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยินยอม เธอจึงจำใจหนี หอบหัวใจที่บอบช้ำไปพักอาศัยอยู่กับเพื่อนร่วมงาน หวังหลีกหนีจากเงื้อมมือมัจจุราช
แต่เหมือนหนีเสือปะจระเข้ อดีตสามียังคงตามราวี คอยวนเวียนมาหา อ้อนวอนขอคืนดี ด้วยคำหวานและสัญญาว่าจะปรับปรุงตัว ด้วยความใจอ่อน และอาจจะยังหลงเหลือเยื่อใย เธอจึงยอมให้โอกาสอีกครั้ง
แต่แล้ว...วัฏจักรเดิมๆ ก็หวนคืนมา เหมือนบทละครน้ำเน่าที่ฉายซ้ำ ทะเลาะวิวาท ทุบตี รุนแรงและบ่อยครั้ง จนเธอไม่อาจทนได้อีกต่อไป เธอขอหย่าขาด ชายหนุ่มรับปากว่าจะไปหย่าที่อำเภอ หญิงสาวหลงดีใจ คิดว่าในที่สุดก็จะหลุดพ้นจากบ่วงกรรมนี้เสียที
แต่เมื่อถึงวันนัด ชายหนุ่มกลับหายเข้ากลีบเมฆ ทิ้งให้เธอรอเก้อด้วยความผิดหวังและเจ็บปวด
นับจากวันนั้น เธอตัดขาดการติดต่อ ไม่รับโทรศัพท์ ชายหนุ่มเริ่มส่งข้อความข่มขู่ คุกคาม บางครั้งขับรถมาหาที่ห้องเช่า แต่ไม่พบตัว เพื่อนร่วมห้องเล่าว่าเขามาพร้อมอาวุธปืน หัวใจของหญิงสาวหล่นวูบ ความหวาดกลัวเกาะกุม เธอต้องใช้ชีวิตอย่างหลบๆ ซ่อนๆ ไม่เป็นอันกินอันนอน
ค่ำคืนหนึ่ง เวลาประมาณตี 1 ของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ขณะที่เธอกลับจากทำงาน รู้สึกผิดสังเกต ประตูห้องเปิดแง้มไว้ เสื้อผ้าที่เคยแขวนเต็มราว กลับหายเกลี้ยง! สัญชาตญาณบอกเธอทันทีว่า อดีตสามีเข้ามาในห้อง
วินาทีที่เธอกำลังจะก้าวออกจากห้อง ร่างของอดีตสามีก็ปรากฏขึ้น พร้อมกับลากเธอเข้าไปในห้อง ปิดประตูดังปัง! เสียงตะโกนด่าทอ ต่อว่าที่ไม่รับโทรศัพท์ อ้างว่าจะขอยืมรถจักรยานยนต์ ตามมาด้วยการทำร้ายร่างกาย เธอถูกผลักจนล้มลงไปกองกับพื้น
ร่างของเธอสั่นเทาด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัว พยายามจะตะเกียกตะกายขอความช่วยเหลือ แต่เสียงก็แหบแห้งเกินกว่าจะเปล่งออกมาได้ ฝ่ายชายน่าจะตกใจเมื่อเห็นสภาพของเธอ จึงเอ่ยปากว่าจะพาไปหาหมอ แต่เธอปฏิเสธ
เสียงเอะอะโวยวายดังลอดออกไป เพื่อนบ้านเปิดประตูออกมาดู และช่วยพูดจาไกล่เกลี่ย จนชายหนุ่มยอมล่าถอย หนีไปจากที่เกิดเหตุ ทิ้งไว้เพียงร่างที่บอบช้ำและหัวใจที่แตกสลายของหญิงสาว
เช้าวันรุ่งขึ้น เธอไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย และนำใบรับรองแพทย์เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตสามี ข้อหาทำร้ายร่างกาย แม้ญาติของฝ่ายชายจะโทรมาขอโทษ แต่เธอไม่ใจอ่อนอีกต่อไป ตัดสินใจเดินหน้าฟ้องหย่าต่อศาลเยาวชนและครอบครัว
เรื่องราวของพีอาร์สาวรายนี้ เป็นเหมือนกระจกสะท้อนความรุนแรงในครอบครัว ที่ยังคงเป็นปัญหาเรื้อรังในสังคม และเป็นเครื่องเตือนใจให้ผู้หญิงทุกคนลุกขึ้นสู้เพื่อศักดิ์ศรีของตนเอง














