หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

หากร้านอาหารทำระบบ Delivery เอง จะคุ้มไหม ?

เนื้อหาโดย machete007

 

ช่วงที่ผ่านมา ค่า GP 30-35% หรือ Gross Profit ที่ร้านอาหารต้องจ่ายให้แก่บรรดาแอปส่งอาหาร ถูกหยิบขึ้นมาถกเถียงกันอีกครั้ง

 

เพราะในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด 19 รอบใหม่ที่ถือว่าเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดกว่าทุกครั้งและทำให้รัฐบาลมีคำสั่งให้ร้านอาหารทั่วประเทศงดให้ลูกค้านั่งทานในร้าน

 

นั่นแปลว่าร้านอาหารต่าง ๆ ต้องพึ่งพาช่องทางแอปส่งอาหารเพิ่มมากขึ้นแบบมีนัยสำคัญ นอกเหนือจากการขายหน้าร้านแบบ Take Away ก็เลยเกิดข้อเรียกร้องให้บรรดาแอปส่งอาหาร ช่วยลดค่า GP ที่ส่วนใหญ่เรียกเก็บ 30-35%

 

แต่รู้ไหมว่า ถ้าไม่นับรวม Robinhood ที่ใช้งบ CSR ของ SCB ในการเก็บ GP ที่ 0%

เมื่อไปดูงบการเงินของ แอปส่งอาหารรายใหญ่ในตลาด อย่าง Grab, Foodpanda หรือ LINE MAN

แม้แต่ละเดือนพวกเขาจะมีจำนวนออร์เดอร์มหาศาล แต่ก็ยังมีผลประกอบการที่ขาดทุนเป็นหลักพันล้านบาทแทบทุกราย

 

การระบาดของโควิด 19 รอบใหม่ ทำให้ร้านอาหารหลายร้านต้องถูกปิดไม่ให้ทานอาหารในร้าน และให้ซื้อกลับบ้านได้เท่านั้น

 

ถึงแม้ว่าล่าสุด ภาครัฐได้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวและให้ลูกค้าสามารถนั่งทานในร้านได้ถึง 21.00 น.

อย่างไรก็ตามภาครัฐได้จำกัดจำนวนลูกค้าที่นั่งทานในร้าน

เรื่องนี้ทำให้ลูกค้ายังเข้าร้านน้อยลงกว่าในช่วงเวลาก่อนการระบาดรอบนี้อยู่ดี

เพราะหลายคนยังระแวงการนั่งทานในร้าน และพร้อมจ่ายค่าบริการเพื่อไม่ต้องเดินทาง

 

แล้วถ้าเป็นแบบนี้ไปอีกสักระยะ ก็คงมีบางร้านอาหารเกิดคำถามว่า

จะทำระบบ Delivery เอง โดยไม่ต้องพึ่งพาแอปส่งอาหาร ดีหรือไม่

 

แน่นอนเรื่องนี้ย่อมมีทั้งข้อดี และข้อเสีย

 

ก่อนอื่นเรามาดูโมเดลธุรกิจ Food Delivery ในแบบเข้าใจง่าย ๆ

ก็คือการมีบริษัทหนึ่งลงทุนสร้างแพลตฟอร์มซึ่งเป็นเสมือน “คนกลาง”

เพื่อให้ลูกค้าและคนขับส่งอาหารได้เจอกัน

จากนั้นบริษัทที่เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มก็เก็บส่วนแบ่งจากร้านอาหารและค่าบริการจากลูกค้า

 

ฟังดูก็น่าจะแฮปปีกันทุกฝ่าย เจ้าของแพลตฟอร์มมีรายได้, ร้านอาหารขายได้เยอะขึ้น

คนขับก็มีรายได้, ลูกค้าสะดวกสบาย

 

แต่ความจริงมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะแพลตฟอร์มนี้ อาจไม่ใช่ เสือนอนกิน อย่างที่ใครคิด

เพราะรู้หรือไม่ว่า แต่ละรายกว่าจะมาถึงจุดนี้ ต้องลงทุนเทคโนโลยีพัฒนาแอปตัวเอง

อีกทั้งแบกค่าใช้จ่ายทั้งส่วนแบ่งคนขับ, ค่าพนักงาน, ค่าโฆษณา และรายจ่ายอื่น ๆ

 

ผลลัพธ์คือทุกรายต่างขาดทุนกันหมด

Grab ขาดทุน 1,650 ล้านบาท (รวมธุรกิจเรียกรถและส่งอาหาร)

Foodpanda ขาดทุน 1,265 ล้านบาท

Gojek ขาดทุน 1,137 ล้านบาท

LINE MAN ขาดทุน 157 ล้านบาท

(ข้อมูลผลประกอบการในปี 2562)

 

ก็เลยเป็นเงื่อนปมปัญหาคือฝั่ง Food Delivery ไม่สามารถลดค่า GP ให้ต่ำกว่านี้

เพราะ ณ วันนี้นอกจากตัวเองยังไม่มีกำไรแล้วนั้น ก็ยังขาดทุนหนักหน่วง

ส่วนฝั่งร้านอาหารก็มองว่าค่า GP 30-35% ได้ทำลายกำไรจนแทบไม่เหลืออะไรเลย

 

ที่สำคัญหากผลักภาระตรงนี้ไปที่ลูกค้า ด้วยการปรับค่าส่งอาหารที่แพงขึ้น

แน่นอน ลูกค้าก็พร้อมจะเปลี่ยนไปใช้บริการ Food Delivery เจ้าอื่นในทันที

 

แล้วถ้าร้านอาหารจะหาทางออกเรื่องนี้ เพื่อให้ได้กำไรเต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนขายหน้าร้าน

ก็จำเป็นต้อง “ตัดคนกลาง” อย่าง Food Delivery ออกไป

พร้อมกับสร้างระบบส่งอาหารเป็นของตัวเอง

 

หากทำอย่างนั้นจริง สิ่งที่ร้านอาหารจะต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมีอะไรบ้าง ?

 

แน่นอนเรื่องการจะให้ร้านอาหารลงทุนเพื่อสร้างแอปพลิเคชัน ประเด็นนี้ตัดออกไปได้เลย

เพราะเป็นการลงทุนที่สูงและไม่คุ้มค่า ถ้าร้านอาหารยังมีสาขาไม่มากพอ และจะทำให้เสียโฟกัสในธุรกิจไป

 

โมเดลที่ง่ายที่สุดก็คือ การรับออร์เดอร์ทางโทรศัพท์หรือทางแช็ต LINE

สิ่งที่ตามมาก็คือ ร้านอาหารอาจต้องจ้างพนักงานอีก 1 ตำแหน่ง เพื่อทำหน้าที่นี้

 

สิ่งต่อมาคือ การจ้างคนขับส่งอาหาร หากจ้างประจำก็ต้องยอมจ่ายเงินเดือนสูง

เพราะอย่าลืมว่าปัจจุบัน คนขับส่งอาหาร มีตัวเลือกในการหารายได้มากมาย

ทั้งขับให้ Food Delivery, ขับวินมอเตอร์ไซค์, ขับส่งสินค้าให้บริษัทขนส่ง

 

หรืออีกตัวเลือกคือ จ้างวินมอเตอร์ไซค์แถวร้าน แต่ปัญหาก็คือการควบคุมค่าส่งเป็นไปได้ยาก

เพราะวินมอเตอร์ไซค์คิดค่าบริการตามเรตที่กำหนดไว้

หากต้องส่งระยะไกล ๆ ค่าบริการอาจแพงกว่า Food Delivery ก็เป็นได้

 

นอกจากนั้นในช่วงเวลาเร่งรีบ อาจไม่มีวินมอเตอร์ไซค์คนไหน รับงานส่งอาหาร ซึ่งก็ยากต่อการควบคุมเวลาส่งอาหารไปถึงมือลูกค้า

 

เรื่องสุดท้ายคือ หากอยากให้ร้านอาหารเป็นที่รู้จักในวงกว้าง

ก็ต้องควักเงินซื้อโฆษณาสื่อต่าง ๆ

ซึ่งก็อาจต้องลุ้นว่าจะตรงกับกลุ่มเป้าหมายและช่วยสร้างยอดขายให้กับทางร้านได้หรือไม่

 

ทีนี้ เราลองมาดูแพลตฟอร์ม Food Delivery ที่ร้านอาหารจำเป็นต้องแลกด้วยการจ่ายส่วนแบ่ง 30-35%

ให้แก่บรรดาแอปพลิเคชันต่าง ๆ สิ่งที่ร้านอาหารได้คืนกลับมานั้น มีอะไรบ้าง

 

เรื่องแรกคือ ไม่ต้องยุ่งยากหาคนรับออร์เดอร์และหาคนขับส่งอาหารเอง

เพราะแอปส่งอาหารจะมีระบบรับออร์เดอร์พร้อมคำนวณบิล ระบุที่อยู่จัดส่งของลูกค้า

โดยร้านอาหารสามารถรอรับเงินโอนจากแพลตฟอร์ม

ไม่ต้องวุ่นวายหากลูกค้าจะจ่ายผ่านบัตรเครดิต แอปส่งอาหารยังมีข้อได้เปรียบคือการมีฐานคนขับส่งอาหารคอย Standby อยู่ตลอดเวลา

 

นอกจากตัดปัญหาในเรื่องการหาคนขับในช่วงเวลาเร่งด่วนแล้ว ก็ไม่ต้องวุ่นวายกับการจัดการในค่าบริการส่งอาหารกับลูกค้า เพราะแต่ละเจ้ามีอัตราค่าส่งเป็นมาตรฐานที่กำหนดไว้อยู่แล้ว

 

ข้อได้เปรียบสุดท้าย ก็คือการเข้าถึงลูกค้าจำนวนมหาศาลและทำให้คนรู้จักร้านอาหารในวงกว้าง โดยในบางแอปร้านค้าสามารถเข้าถึงลูกค้าเพิ่มเติมด้วยการโฆษณาในแอปอีกด้วย

 

สรุปแล้ว โมเดลไหนดีกว่ากัน ระหว่างร้านอาหารทำระบบ Delivery เองหรืออยู่บนแพลตฟอร์ม Food Delivery ซึ่งเชื่อว่าแต่ละร้านก็คงมีคำตอบแตกต่างกันออกไป

 

ทางออกของเรื่องนี้ก็คือทุกคนที่เกี่ยวข้องควรมองถึงความจริงของแต่ละฝ่าย

เจ้าของแพลตฟอร์ม Food Delivery แม้เกือบทุกรายยังขาดทุน

แต่ลึก ๆ ทุกรายต้องการทำธุรกิจให้มี กำไร

ฝั่งร้านอาหารก็ต้องการเห็นกำไรสมน้ำสมเนื้อในการขาย Delivery

ส่วนคนขับส่งอาหารก็ต้องการรายได้ที่คุ้มค่ากับเวลาทำงานที่เสียไปในแต่ละวัน

ผู้บริโภคก็อยากที่จะจ่ายค่าบริการส่งอาหาร ในราคาสมเหตุสมผล

 

สุดท้ายแล้วก็ต้องทำให้ทุกฝ่าย ได้รับผลประโยชน์ ในขนาดที่สมดุลกัน..

เนื้อหาโดย: machete007
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
machete007's profile


โพสท์โดย: machete007
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
จังหวัดเพียงหนึ่งเดียวในไทย ที่มีจำนวนอำเภอมากถึง 32 อำเภอลาวเปิดพิพิธภัณฑ์ 50 ล้านเหรียญ แต่เขมรดราม่าหนัก! โวยงานศิลป์ ‘นางอัปสรา’ โผล่กลางเวียงจันทน์!วงการไม่ปัง ร้านต้องปัง! ปอ อรรณพ เปิดร้านอาหารใต้ หลังรายได้หดเหลือแสนเลขเด็ด เลขมาแรง เลขดัง "รวมหวยเด็ดสำนักดัง vol.3" งวดวันที่ 1 สิงหาคม 2568เลขเด็ด "เสือตกถัง" สูตรลับ "อ.พล ขอนแก่น" งวดวันที่ 1 สิงหาคม 68..แม่นยำสุดๆ ส่องด่วน!!ผู้แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือ เปิดตัวในวงบอยแบนด์เคป๊อปใหม่ฝรั่งสาวคนนี้ไม่ได้แค่พูดว่าคนไทยน่ารัก... แต่เธอมองลึกถึงหัวใจเราแบบที่ไม่เคยมีใครพูดเลขเด็ด "นกตาทิพย์" งวดวันที่ 1 สิงหาคม 68 บินมาให้โชคแล้ว..รีบส่องด่วน!หญิงเขมรร้องไห้ ยกมือไหว้ทหารไทย ขอเมตตาขออย่าเอาคลิปไปตัดต่อฮามาสเสนอปล่อยตัวประกันทั้งหมดในฉนวนกาซาอีกแล้ว
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ลาวเปิดพิพิธภัณฑ์ 50 ล้านเหรียญ แต่เขมรดราม่าหนัก! โวยงานศิลป์ ‘นางอัปสรา’ โผล่กลางเวียงจันทน์!หากสรุปว่าเป็นระเบิดใหม่ รัฐบาลจะไม่เพิกเฉย จะมีการตอบโต้กลับแน่อำเภอเดียวของจังหวัดในภาคกลาง ที่มีพื้นที่อยู่ติดกับต่างประเทศ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
จังหวัดที่สะอาดที่สุด มีปริมาณขยะน้อยที่สุดในประเทศไทยมนุษย์เพียงคนเดียวในโลก ที่มีบันทึกว่าเคยถูกอุกกาบาตตกใส่ความมั่นใจคือเมคอัพที่ดีที่สุด: วิธีสร้างความสวยด้วยพลังบวกลาวเปิดพิพิธภัณฑ์ 50 ล้านเหรียญ แต่เขมรดราม่าหนัก! โวยงานศิลป์ ‘นางอัปสรา’ โผล่กลางเวียงจันทน์!
ตั้งกระทู้ใหม่