โบกระชับรูขุมขน คืออะไร? เคล็ดลับเผยผิวเรียบเนียน เห็นผลจริง
โบกระชับรูขุมขน คืออะไร? เคล็ดลับเผยผิวเรียบเนียน เห็นผลจริง
การฉีดโบท็อกซ์เพื่อกระชับรูขุมขน เป็นเทคนิคทางการแพทย์ที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ลดความมัน และทำให้รูขุมขนดูเล็กลง ซึ่งเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้าดูสดใสขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาวิธีการรุกรานที่ซับซ้อน
โบกระชับรูขุมขน คืออะไร?
โบกระชับรูขุมขนคือการใช้สาร โบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) ฉีดเข้าสู่ชั้นผิวบริเวณที่มีรูขุมขนกว้าง เพื่อช่วยลดการทำงานของต่อมไขมันและช่วยให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าผ่อนคลาย ส่งผลให้รูขุมขนดูเล็กลง ผิวหน้าเรียบเนียน และช่วยลดความมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว
สาเหตุของปัญหารูขุมขนกว้าง – ทำไมรูขุมขนถึงไม่กระชับ?
ปัญหารูขุมขนกว้างเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อย และอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายในร่างกาย หรือปัจจัยภายนอกที่เราสัมผัสในชีวิตประจำวัน การเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงของรูขุมขนกว้าง จะช่วยให้สามารถแก้ไขและป้องกันปัญหานี้ได้อย่างตรงจุด
- พันธุกรรม – รูขุมขนกว้างอาจเป็นกรรมพันธุ์
หากพ่อแม่หรือสมาชิกในครอบครัวมีลักษณะผิวที่มีรูขุมขนกว้าง คุณก็อาจมีโอกาสสูงที่จะได้รับลักษณะผิวเช่นเดียวกัน คนที่มีผิวมันมักจะมีรูขุมขนกว้างกว่าคนที่มีผิวแห้ง เนื่องจากต่อมไขมันทำงานมากกว่าปกติ
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น – คอลลาเจนและอีลาสตินลดลง
เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิต คอลลาเจนและอีลาสตินลดลง ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น รูขุมขนจึงมีแนวโน้มขยายตัวและมองเห็นชัดขึ้น ผิวเริ่มหย่อนคล้อย ทำให้รูขุมขนดูใหญ่ขึ้นกว่าปกติ
- ฮอร์โมนที่มากเกินไป – ตัวการกระตุ้นต่อมไขมัน
ฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) มีผลต่อการผลิตน้ำมันบนผิว หากมีฮอร์โมนมากเกินไป ต่อมไขมันจะทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้รูขุมขนกว้าง ปัญหานี้พบได้มากในช่วงวัยรุ่น วัยทอง หรือช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น การตั้งครรภ์ หรือการใช้ยาคุมกำเนิด
- การอักเสบของผิว – สิวและการระคายเคือง
สิวอักเสบ หรือการติดเชื้อที่รูขุมขน อาจทำให้รูขุมขนขยายตัวหลังจากสิวหาย การบีบสิวหรือการขัดผิวแรงเกินไป อาจทำให้ผิวระคายเคือง ส่งผลให้รูขุมขนกว้างขึ้น
- การดูแลผิวไม่ถูกวิธี – ล้างหน้ามากเกินไป
การล้างหน้าบ่อยเกินไป หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรง ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น กระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น การขัดผิวหรือใช้สครับแรงเกินไป อาจทำให้รูขุมขนขยายตัวแทนที่จะกระชับ
- แสงแดด – ศัตรูของคอลลาเจน
รังสียูวีจากแสงแดดทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวสูญเสียความกระชับ รูขุมขนจึงขยายกว้างขึ้น ผิวที่สัมผัสแดดมาก ๆ อาจเกิดภาวะ Hyperkeratosis ซึ่งทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นเพราะผิวหนาขึ้นและหยาบกร้าน
- มลภาวะ – ฝุ่น PM2.5 และสิ่งสกปรก
ฝุ่นละออง ควัน และสิ่งสกปรกในอากาศ สามารถเข้าไปสะสมในรูขุมขน ทำให้เกิดการอุดตันและทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น
- เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะสม
การใช้ เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมันมากเกินไป อาจทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน และทำให้รูขุมขนขยายใหญ่ขึ้น การแต่งหน้าเป็นเวลานาน หรือ การล้างเครื่องสำอางไม่สะอาด ทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกในรูขุมขน
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
ผู้หญิงที่อยู่ในช่วง มีประจำเดือน ตั้งครรภ์ หรือวัยหมดประจำเดือน อาจมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ซึ่งอาจกระตุ้นให้ ต่อมไขมันทำงานหนักขึ้น และทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต – พักผ่อนไม่เพียงพอ
การนอนน้อย หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้กระบวนการฟื้นฟูผิวลดลง ส่งผลให้รูขุมขนกว้างขึ้น การสูบบุหรี่ ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี ผิวขาดออกซิเจน และคอลลาเจนถูกทำลายเร็วขึ้น
- โรคบางชนิดที่ส่งผลต่อรูขุมขน
โรคทางผิวหนัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคผิวหนังอักเสบ อาจทำให้รูขุมขนขยายตัวมากกว่าปกติ ปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต อาจทำให้ผิวดูซีดเซียวและรูขุมขนเด่นชัดขึ้น
หลักการทำงานของโบกระชับรูขุมขน
การฉีดโบกระชับรูขุมขนเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมในวงการความงาม เพื่อช่วยให้รูขุมขนเล็กลง ผิวดูเรียบเนียน และลดความมันส่วนเกิน โดยหลักการทำงานของ Botulinum Toxin ในการกระชับรูขุมขนมี ดังนี้
- ลดการทำงานของต่อมไขมัน
เมื่อฉีดโบท็อกซ์เข้าไปบริเวณที่มีรูขุมขนกว้าง สารนี้จะออกฤทธิ์ไปลดการทำงานของ ต่อมไขมัน (Sebaceous Gland) ทำให้ผิวหน้าผลิตน้ำมันลดลง ลดโอกาสที่รูขุมขนจะอุดตันและทำให้ขนาดของรูขุมขนเล็กลง
- ช่วยให้ผิวเรียบเนียน
โบท็อกซ์ช่วยให้กล้ามเนื้อและผิวบริเวณที่ฉีด ผ่อนคลาย ส่งผลให้รูขุมขนที่เคยขยายตัวเกิดการหดเล็กลง ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียนและละเอียดขึ้น
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว
นอกจากช่วยลดความมันแล้ว โบท็อกซ์ยังมีผลช่วยกระตุ้น การสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง คอลลาเจนช่วยให้ผิวดูเต่งตึงและกระชับขึ้น ทำให้รูขุมขนค่อย ๆ หดตัวลงอย่างเป็นธรรมชาติ
- ช่วยลดการเกิดสิว
ความมันส่วนเกินเป็นหนึ่งในสาเหตุของ สิวอุดตันและสิวอักเสบ เมื่อผิวหน้ามันลดลง โอกาสที่รูขุมขนจะอุดตันและเกิดสิวก็ลดลงตามไปด้วย
- เพิ่มความกระจ่างใสให้ใบหน้า
ผิวที่มีรูขุมขนกว้างมักดูไม่เรียบเนียนและหมองคล้ำ การฉีดโบช่วยให้ผิวดูละเอียดขึ้น เมื่อรูขุมขนเล็กลง แสงสะท้อนบนผิวจะกระจายตัวได้ดีขึ้น ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและกระจ่างใสมากขึ้น ช่วยให้ แต่งหน้าติดทนนานขึ้น เพราะน้ำมันส่วนเกินที่ทำให้เครื่องสำอางหลุดง่ายลดลง
อ่านเพิ่มเติม : https://www.romrawin.com/tighten-pores-bo/
บริเวณที่สามารถฉีดโบกระชับรูขุมขนได้
การฉีดโบกระชับรูขุมขนสามารถทำได้ในบริเวณที่มีปัญหารูขุมขนกว้างมากที่สุด ได้แก่
- แก้ม – เป็นบริเวณที่มักพบปัญหารูขุมขนกว้างจากผิวมัน
- จมูก – รูขุมขนบริเวณนี้มักกว้างและผลิตน้ำมันมาก
- คาง – โดยเฉพาะบริเวณใต้คางที่มีปัญหาผิวมัน
- หน้าผาก – ช่วยลดความมันและทำให้ผิวดูเรียบเนียน
โบกระชับรูขุมขน เหมาะกับใคร?
- คนที่มีผิวมัน และมีปัญหาหน้ามันเยิ้มระหว่างวัน
- คนที่มีรูขุมขนกว้าง จนทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียน
- คนที่ต้องการลดการเกิดสิวอุดตัน และสิวอักเสบ
- คนที่ต้องการให้ผิวหน้าเรียบเนียนและแต่งหน้าติดทนนาน
- คนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว โดยไม่ต้องผ่าตัด
โบกระชับรูขุมขน ไม่เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
- หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือโรคทางระบบประสาท
- ผู้ที่แพ้สารโบทูลินัม ท็อกซิน
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ถาวร (โบท็อกซ์จะสลายไปตามธรรมชาติ)
ข้อดีและข้อเสียของโบกระชับรูขุมขน
ข้อดี
- ช่วยให้รูขุมขนเล็กลง ทำให้ผิวดูละเอียดขึ้น
- ลดความมันส่วนเกิน บนใบหน้า ลดปัญหาสิวอุดตัน
- ช่วยให้เครื่องสำอางติดทนมากขึ้น ไม่หลุดลอกระหว่างวัน
- ผลลัพธ์รวดเร็ว เห็นผลใน 7-14 วัน หลังฉีด
- ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที
ข้อเสีย
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องฉีดซ้ำทุก 3-4 เดือน
- อาจเกิดอาการบวม แดง หรือรอยช้ำ เล็กน้อยหลังฉีด
- หากฉีดมากเกินไป อาจทำให้ใบหน้าดูแข็งเกินไป
โบกระชับรูขุมขนอยู่ได้นานแค่ไหน?
ผลลัพธ์จากการฉีดโบกระชับรูขุมขนจะเริ่มเห็นผล ใน 7-14 วัน และคงอยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้และการดูแลผิวหลังฉีด
เปรียบเทียบการฉีดโบกระชับรูขุมขน VS วิธีรักษารูขุมขนกว้างอื่น ๆ
ปัญหารูขุมขนกว้างทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน เครื่องสำอางติดไม่ทน และอาจทำให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น วิธีการรักษาทางการแพทย์ในปัจจุบันมีหลากหลายวิธีที่สามารถช่วยลดขนาดรูขุมขน และช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น
- โบกระชับรูขุมขน
การฉีดโบท็อกซ์ช่วยลดการทำงานของต่อมไขมันและกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า ทำให้รูขุมขนหดเล็กลง ผิวเรียบเนียนขึ้น และลดความมันบนใบหน้า ผลลัพธ์เริ่มเห็นได้ใน 7-14 วัน แต่ต้องฉีดซ้ำทุก 3-4 เดือน เนื่องจากผลลัพธ์ไม่ถาวร - Fractional CO2 Laser
เลเซอร์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นบนและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้รูขุมขนเล็กลงและผิวเรียบเนียนขึ้น ข้อดีคือช่วยกระชับรูขุมขนได้ดี แต่มีรอยแดงและสะเก็ดหลังทำ ต้องใช้เวลาฟื้นตัวประมาณ 1-2 สัปดาห์ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน - Picosecond Laser
ใช้พลังงานสูงกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวและช่วยลดปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ เหมาะสำหรับรักษารอยดำและกระชับรูขุมขน ข้อดีคือฟื้นตัวเร็ว แต่ต้องทำหลายครั้งเพื่อเห็นผลชัดเจน ราคาค่อนข้างสูง และผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน - IPL (Intense Pulsed Light)
การใช้พลังงานแสงเข้มข้นกระตุ้นคอลลาเจน ลดรอยแดงและรอยดำ พร้อมช่วยกระชับรูขุมขน ข้อดีคือช่วยลดการผลิตน้ำมันบนผิวหน้า แต่เห็นผลช้า และต้องทำหลายครั้ง ผลลัพธ์เริ่มเห็นใน 3-4 สัปดาห์ และอยู่ได้นาน 3-6 เดือน - Dual Yellow Laser
เลเซอร์ที่ใช้แสงสีเหลืองช่วยลดการอักเสบของผิว ลดรอยแดงและรอยดำ พร้อมช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้รูขุมขนเล็กลง ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน แต่ต้องทำหลายครั้งเพื่อเห็นผลชัดเจน และราคาสูง - HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound)
เทคโนโลยีคลื่นเสียงความถี่สูงที่ช่วยยกกระชับผิว พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระชับใบหน้าโดยไม่มีแผลและไม่ต้องพักฟื้น แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีรูขุมขนกว้างมาก และมีราคาค่อนข้างสูง ผลลัพธ์เริ่มเห็นใน 1-2 เดือน และอยู่ได้นาน 6-12 เดือน - RF (Radio Frequency)
ใช้พลังงานคลื่นวิทยุกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้รูขุมขนดูเล็กลงและผิวกระชับขึ้น เหมาะกับทุกสภาพผิว ข้อเสียคือเห็นผลช้าและต้องทำหลายครั้ง ผลลัพธ์เริ่มเห็นใน 4-6 สัปดาห์ และอยู่ได้นาน 6-12 เดือน - ฉีดวิตามินผิว
เป็นการฉีดสารอาหารที่ช่วยบำรุงผิว ให้ผิวแข็งแรงและกระจ่างใสขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยกระชับรูขุมขนโดยตรง และต้องฉีดซ้ำเป็นประจำเพื่อรักษาผลลัพธ์ ผลลัพธ์เริ่มเห็นใน 1-2 สัปดาห์ และอยู่ได้นาน 1-3 เดือน - ฉีดฟิลเลอร์
การเติมเต็มร่องลึกเพื่อให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีรูขุมขนกว้างจากปัญหาผิวไม่เรียบ ผลลัพธ์เห็นได้ทันที แต่มีราคาสูง และไม่ได้ช่วยลดการทำงานของต่อมไขมันโดยตรง ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-18 เดือน
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ปมปริศนาการจากไป! พ่อแม่ 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' อายัดศพ หลังทราบผลชันสูตร
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
"ตระกูลฮุน" ถึงคราวอวสาน! คนในชิ่งหนีปิดฮุยวัน-ปชช.หมดตัวเงินในบัญชีถอนไม่ได้
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
ปมปริศนาการจากไป! พ่อแม่ 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' อายัดศพ หลังทราบผลชันสูตร
กองกำลังพิเศษ BHQ ทรยศฮุนเซน แอบไปซบ อก สมรังสี
เหนือความเชื่อ! "ซูเปอร์ฟูลมูน" เรื่องที่เราอาจไม่เคยรู้...
“ย้อนวันวานอาหารจานละ 2-3 บาท กินอิ่มทั้งบ้านด้วยเงินไม่กี่บาท ราคาน่ารักที่วันนี้หาไม่ได้แล้ว”
ทำไมต้องหย่ากัน หลังถูกคดีความ? เหตุผลที่ฟังดูดราม่า…แต่จริงกว่าที่คิด
ภาพ 3 มิติ คืออะไร? เทคนิคสร้างภาพเสมือนจริงสำหรับมือใหม่
Microsoft Fabric คืออะไร? แนะนำเครื่องมือใหม่จาก Microsoft สำหรับองค์กรยุคดิจิทัล
ทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ ESG คืออะไร และทำไมถึงสำคัญต่อองค์กร
ดึงหน้า (Facelift) คืออะไร? มีกี่เทคนิค รวมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
