ลดน้ำหนัก ด้วยอาหารสีฟ้า สีน้ำเงิน เคล็ดลับลดน้ำหนักด้วย “สีฟ้า”
เหตุใด “สีน้ำเงิน” หรือ “สีฟ้า” จึงเป็นสีที่ไม่น่ารับประทาน?
ในอดีตอาหารสีน้ำเงิน กับ สีฟ้า ตามธรรมชาติเป็นสิ่งที่หาได้ยาก และมนุษย์เราพัฒนาการมาท่ามกลางธรรมชาติที่ไม่ได้มอบพืชผักผลไม้หรือเนื้อสัตว์สีน้ำเงินมาเป็นอาหาร
อาหารสีน้ำเงิน มีน้อยมากจนนับได้เพียงไม่กี่อย่าง อย่างเช่น บลูเบอร์รี่ มันม่วง กะหล่ำปลีม่วง อัญชัน สัดส่วนของอาหารเหล่านี้มีน้อยมาก หากเทียบกับอาหารสีอื่น ๆ อย่าง ผักใบเขียว หรือผลไม้สีส้ม เหลือง และแดง บรรพบุรุษของเราจึงไม่ได้จดจำด้วยซ้ำว่าสีเฉดนี้เป็นส่วนหนึ่งของอาหารตามธรรมชาติ นี่เป็นเหตุผลว่า เหตุใดสมองจึงไม่มีการตอบสนองโดยอัตโนมัติเมื่อพบอาหารสีน้ำเงิน
ระบบประสาทของเรา พัฒนาสัญชาตญาณการหลีกเลี่ยงอาหารเป็นพิษร่วมกับสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์อื่น ๆ อาหาร สีน้ำเงิน สีม่วง และสีดำ เป็นสีแห่ง “สัญญาณเตือน” ที่สื่อว่า อาหารเหล่านั้นมีแนวโน้มเป็นพิษ และอาจอันตรายถึงชีวิต
ลดน้ำหนัก ด้วยอาหารสีฟ้า
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Appetite ระบุว่า ผู้ที่รับประทานอาหารภายใต้แสงสีน้ำเงิน หรือ จานสีน้ำเงิน จะบริโภคอาหารน้อยกว่าผู้ที่รับประทานอาหารจานสีแดง หรือ สีเหลือง
วิจัย เผยว่า อาหารสีฟ้า ส่งผลต่อความรู้สึกอยากอาหาร “น้อยที่สุด” ช่วยลดความอยากอาหารลง เพราะสีฟ้ามีผลทำให้สมองตอบสนองรู้ว่ากินไม่ได้และเป็นพิษ
สีน้ำเงินหรือสีฟ้า ให้ความรู้สึกที่ปลอดโปร่ง สบาย เป็นอิสระ ผ่อนคลายเป็นเหตุให้สมองผ่อนคลาย ทำให้สมองลดความอยากกินอาหารลง
เทรนด์ลดน้ำหนักใหม่มาแรงของสาวญี่ปุ่น โดยผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการญี่ปุ่น ได้ทำการผสมสีฟ้าและสีน้ำเงินลงไปในอาหาร เน้นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการลดน้ำหนักโดยเฉพาะ มีผลออกมาแล้วว่าจริง
เคล็ดลับลดน้ำหนักด้วย “สีฟ้า”
- อุปกรณ์อาหารบนโต๊ะเป็นสีฟ้า จาน ชาม ช้อน ส้อม อุปกรณ์ตกแต่งบนโต๊ะอาหาร อย่างเช่น เชิงเทียน แจกัน กระดาษเช็ดปาก
- สีผสมอาหารสีฟ้า รับรองว่าความรู้สึกที่มีต่ออาหารจะไม่เหมือนเดิม เพราะคงไม่น่ากินสักเท่าไหร่เมื่อเป็นสีฟ้าอยู่บนอาหารจานโปรด
- แว่นตาสีฟ้า ลองสวมแว่นตาสีฟ้าขณะทานอาหารต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันแน่นอนว่าความรู้สึกของหน้าตาและรสชาติที่แปลก ๆ





















