"โสดเรื้อรัง" อยากมีความรัก แต่ก็ไม่เปิดรับใคร สัญญาณอาการโสดเรื้อรัง โสดอย่างไรให้ใคร ๆ อิจฉา
โสดเรื้อรัง หรือ chronically single ไม่ได้เกี่ยวกับความเหงา หรือ ความไม่มีความสุขจากการไม่มีคู่ แต่คือ การเลือกเป็นโสดที่ทำให้ตัวเองสบายใจมากกว่า
3 สัญญาณของอาการโสดเรื้องรัง
1.รักความเป็นอิสระ สนุกกับอิสรภาพที่มาพร้อมกับการเป็นโสด เพราะตัดสินใจได้ว่าอยากทำอะไร เมื่อไหร่ อย่างไร โดยไม่ต้องคำนึงถึงความชอบหรือตารางเวลาของคนอื่น ไม่ใช่เรื่องของความเห็นแก่ตัว แต่เป็นการยอมรับความสันโดษและพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง
การเป็นอิสระไม่ได้หมายความว่า ต่อต้านความสัมพันธ์ แต่หมายความว่า สบายใจกับตัวเอง และไม่รู้สึกว่าต้องพึ่งพาคนอื่นเพื่อความสุขหรือความสมบูรณ์
การเป็นโสด คือ ทางเลือกของชีวิต ไม่ใช่เงื่อนไข และมีความสุขที่ได้เลือกเป็นโสด
2.รักความสงบ
มีการศึกษาทางจิตวิทยา พบว่า คนที่ชอบอยู่เป็นโสดมีแนวโน้มที่จะมีความวิตกกังวล น้อยกว่า คนที่อยู่ในความสัมพันธ์
สบายใจที่จะอยู่คนเดียวกับความคิดของตัวเอง และพบความสงบในการอยู่กับตัวเอง เพื่อไตร่ตรอง สร้างสรรค์ เรียนรู้ และเติบโต เป็นเวลาสำหรับการดูแลและพัฒนาตนเอง
ไม่ได้มองความสงบว่าเป็นความเหงา แต่มองว่าเป็นโอกาสที่จะเชื่อมต่อและเข้าใจตัวเองมากขึ้น
3.มีมาตรฐานสูง
มาตรฐานสูง มาจาก การเคารพคุณค่าของตัวเอง ไม่ยอมรับสิ่งที่ต่ำกว่านั้น ทำให้ยอมเป็นโสด ดีกว่าที่จะอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง
ไม่ได้หมายความว่า กำลังมองหาความสมบูรณ์แบบ แต่พร้อมจะเปิดใจ เมื่อพบคนที่มีค่านิยม ทัศนคติที่สอดคล้องกัน และเคารพซึ่งกันและกัน
การมีมาตรฐานสูงไม่ใช่เรื่องของการเลือกมากเกินไป แต่เป็นเรื่องของการรู้ความต้องการของตัวเองอย่างลึกซึ้ง
โสดอย่างไรให้ใคร ๆ อิจฉา
1.เก็บเงินไว้สำหรับอนาคต เราไม่รู้ว่าอนาคตของเราจะอยู่กับตัวเองไปอีกนานแค่ไหน การดูแลตัวเองคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด และการที่จะดูแลตัวเองให้ดีได้ก็ต้องมีเงินเสียก่อน
แบ่งเงินจากรายได้หลักเดือนละ 10% เป็นขั้นต่ำ เพื่อมาเก็บเงินใน 2 ส่วน คือ เก็บเป็นเงินสด 5% และนำไปลงทุนระยะสั้น/ปานกลาง/ยาวอีก 5% เพื่อแบ่งใช้จ่ายในสองระยะ คือ หากเกิดเหตุฉุกเฉินก็มีเงินสดไว้ใช้จ่าย และมีเงินปันผล เงินกำไรจากการลงทุนมาดูแลตัวเองในระยะยาวได้อีกด้วย
2.รักษาสุขภาพให้แข็งแรง รวมไปถึงสุขภาพกาย สุขภาพใจ และสุขภาพทางสังคม
รักษาสุขภาพกายให้แข็งอยู่เสมอ ไม่เจ็บป่วยบ่อย ไม่ต้องคอยมานั่งเศร้าว่าไม่มีใครดูแลยามเจ็บป่วย
สุขภาพจิตที่เข้มแข็ง สดใส มีชีวิตที่สดชื่น มองโลกในแง่ดี และมีแต่คนอยากคบหา
สุขภาพสังคมที่แข็งแรง คือ มีภาพลักษณ์ที่ดีในกลุ่มเพื่อน ในวงสังคม มีคนเคารพ อยู่ในกลุ่มคนที่เหมาะสมกับเรา
3.หมั่นผูกมิตร และรักษามิตรภาพ แนะนำให้พยายามทำความรู้จักกับผู้คนที่เข้ามาในเส้นทางชีวิต ไม่ว่าจะเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า เพื่อนร่วมทาง ฯลฯ ถึงแม้เราจะไม่ได้รู้จักบุคคลเหล่านั้นดี แต่การมีเพื่อนไว้ก็ไม่ได้สร้างความเสียหาย นอกจากจะสร้างเพื่อนใหม่แล้ว อย่าลืมรักษามิตรภาพกับเพื่อนที่มีอยู่แล้วด้วย
4.ใส่ใจคนในครอบครัวให้มากขึ้น คนที่รักเราเสมอรออยู่ที่บ้าน รักโดยไม่มีเงื่อนไข รักมาตั้งแต่ยังไม่เจอหน้ากัน รักแม้ว่าเราจะพลาดกี่ครั้ง จะผิดกี่หน ไม่ว่าจะผิดหวังในความสัมพันธ์กับใคร กลับไปแสดงความรักกับคนที่บ้าน กลับไปใช้เวลากับคนในครอบครัว จะได้พลังในการชีวิตเพิ่มขึ้นอีกมหาศาล
5.ทำตัวให้ Fresh อยู่เสมอ ลองหาเวลาเพิ่มพูนความรู้ ความรู้มีค่า นอกจากการพัฒนา ฝึกฝนตนเองแล้ว การเปิดรับความรู้ใหม่ ๆ เป็นทางหนึ่งที่ทำให้เราทันโลก ทันสมัย ทันคน ก้าวทันโลกทั้งด้าน Social Media ด้านเทคโนโลยี ด้านเศรษฐกิจ และด้านการใช้ชีวิต เมื่อความรู้ไม่เคยเก่า ตัวของเราก็จะไม่เคยแก่
















