โต๊ะทำงานส่วนใหญ่สกปรกกว่าฝารองนั่งชักโครกถึง 400 เท่า จัดโต๊ะทำงานอย่างไรให้เฮลท์ตี้ ปัง เฮง แถมดีต่อสุขภาพการทำงาน
แบคทีเรียมากกว่า 10 ล้านตัวแฝงอยู่บนโต๊ะทำงาน
ผลการวิจัยพบว่า มีแบคทีเรียมากกว่า 10 ล้านตัวแฝงอยู่บนโต๊ะทำงาน 7,500 ตัวซ่อนอยู่ในคีย์บอร์ด ซึ่ง 70 – 80 % ของแบคทีเรียเหล่านั้นมีแหล่งกำเนิดจากมนุษย์ โดยเฉพาะจากผิวหนัง ปาก และ ลำไส้ ทั้งนี้หลังจากทำความสะอาดโต๊ะไปแล้ว แบคทีเรียและเชื้อโรคสามารถกลับมาอาศัยอยู่ที่เดิมได้ภายในไม่กี่วัน
โต๊ะทำงานส่วนใหญ่สกปรกกว่าฝารองนั่งชักโครกถึง 400 เท่า และ 1 ใน 5 ของคนทำงานมักกินอาหารบนโต๊ะทำงานโดยไม่ทำความสะอาดก่อน การทำความสะอาดโต๊ะสม่ำเสมอจึงมีความสำคัญมาก
นอกจากนี้การ จัดโต๊ะทำงานที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น แสงสว่างไม่เพียงพอ การวางคอมพิวเตอร์ไม่ถูกตำแหน่ง เก้าอี้สูงหรือเตี้ยเกินไปต่างส่งผลต่อสุขภาพได้ทั้งสิ้น
การทำความสะอาดโต๊ะทำงาน
- นำอุปกรณ์ทั้งหมดออกจากโต๊ะ ปัดฝุ่น ทำความสะอาดโต๊ะด้วยผ้าแห้ง จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดเช็ดโต๊ะให้สะอาดทุกซอกทุกมุม ทิ้งไว้จนโต๊ะแห้งสนิทค่อยจัดเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ กลับขึ้นโต๊ะอีกครั้ง
- คัดแยกสิ่งของตามหมวดหมู่ เช่น เอกสาร หนังสือ เครื่องเขียน เครื่องใช้ไฟฟ้า
- แยกขยะ เอกสารเก่าเก็บ ของใช้ไม่จำเป็น เช่น ของโชว์ ตุ๊กตา ซึ่งเป็นที่สะสมฝุ่น ควรโละทิ้งให้หมด
- ทำความสะอาดคอมพิวเตอร์ ด้วยน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะ ถอดสายไฟต่าง ๆ และ ปิดเครื่องให้เรียบร้อย สำหรับการทำความสะอาดคีย์บอร์ด ควรคว่ำแป้นคีย์บอร์ดเขย่าเบา ๆ เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกตามซอก จากนั้นใช้สำลีหรือคัตตอลบัดชุบน้ำยาทำความสะอาดเช็ดบริเวณแป้นตัวอักษร
- ควรมีแก้วน้ำและถ้วยกาแฟส่วนตัว ล้างให้สะอาดทุกครั้งหลังใช้เสร็จ และเก็บคว่ำให้แห้งในบริเวณที่สะอาด เพราะมากกว่า 90% ของแก้วน้ำเป็นที่สะสมเชื้อโรค และ 20% ปนเปื้อนแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคทางเดินอาหาร
- ปากกา ดินสอก็ต้องทำความสะอาด เช็ดด้วย Alcohol หรือผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาด เนื่องจากถูกใช้ด้วยมือที่หยิบจับสิ่งต่าง ๆ มาตลอดทั้งวัน จึงเป็นแหล่งอาศัยของแบคทีเรียและเชื้อโรคมากมาย
- จัดโต๊ะและทำความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นประจำสม่ำเสมอ
จัดโต๊ะทำงาน ให้ถูกสุขลักษณะ
- โต๊ะทำงานควรมีแสงสว่างเพียงพอ เลือกโคมไฟที่เคลื่อนย้ายสะดวก สามารถปรับทิศทางได้ง่าย รวมถึงใช้ไฟแสงอ่อน เพื่อช่วยให้สบายตาขึ้น
- จัดวางคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม จอคอมพิวเตอร์ควรอยู่ในระดับสายตา ระยะจากจอภาพถึงตาผู้ใช้ควรอยู่ระหว่าง 0.4-0.50 เมตร คีย์บอร์ดและเมาส์อยู่ในระดับต่ำลงเล็กน้อย ขณะพิมพ์งานจะได้ไม่ต้องยกไหล่มากเกินไปหรือต่ำจนต้องงอหลัง
- ลดแสงจ้าของจอคอมพิวเตอร์ลงให้รู้สึกสบายตา ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาจใส่แว่นตาที่ป้องกันแสงยูวี หรือติดฟิล์มช่วยลดแสง UV400/UVA1 บริเวณหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้ดวงตาสัมผัสแสงโดยตรง และควรพักสายตาประมาณ 5 นาที ทุก 2 ชั่วโมง
- เก้าอี้ควรเหมาะกับโต๊ะทำงาน ขณะทำงานควรนั่งให้เต็มก้น โดยหลังพิงพนักพอดี ปรับเก้าอี้ให้สูงพอเหมาะกับโต๊ะทำงาน ไม่สูงหรือต่ำเกินไป หากนั่งแล้วเท้าลอย ควรหาที่รองเท้าหนุนให้ระดับเท้างอเป็นธรรมชาติ
จัดโต๊ะทำงาน ให้ปัง เฮง
- ไม่ควรจัดโต๊ะทำงานติดเสา เสา คาน ทำหน้าที่รับน้ำหนักของสิ่งก่อสร้าง และ โครงสร้างต่าง ๆ ตามหลักฮวงจุ้ย เสาคือสัญลักษณ์ของสิ่งที่แบกรับ ภาระ แรงกดดัน การทำงานข้าง ๆ เสา หรือ จัดโต๊ะทำงานที่ติดเสา จะทำให้การทำงานมีแต่ความกดดัน ความอึดอัด ทำงานไม่เป็นสุข ยังทำให้โต๊ะทำงานดูไม่โปร่ง ไม่น่าทำงาน
- ไม่ควรจัดโต๊ะทำงานตรงกับประตู เพราะประตูเป็นตัวเปิดรับพลังงานต่าง ๆ ที่ไหลเขา-ออก การทำงานตรงกับประตู จึงเป็นเหมือนกับการกีดขวางการไหลของพลังงาน จะทำให้การทำงานมีแต่ความวุ่นวาย อยู่ไม่เป็นสุข แก้ปัญหาด้วยการพยายามจัดโต๊ะทำงานให้มีความเยื้อง ๆ จากประตู หรือ ติดม่านบริเวณระหว่างประตูกับห้อง ทำให้ห้องนี้ลดความวุ่นวาย และ ความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยของคนที่อยู่ในห้อง
- จัดโต๊ะทำงานโดยมีที่ประจำสำหรับของทุกอย่าง แบ่งโซนของโต๊ะทำงานออกเป็น 3 โซน
ตำแหน่งกลาง : เรียกว่าตำแหน่งหงส์ ควรวางหน้าจอคอมพิวเตอร์ไว้ตรงกลาง หรือ เป็นการวางสมุดจดสำหรับการทำงาน
ตำแหน่งซ้าย : เป็นตำแหน่งเกี่ยวกับสติปัญญา ความรู้ จึงควรจะใช้วางเอกสารและหนังสือต่าง ๆ หรือโน้ตบุ๊กเสริม หน่วยความจำต่าง ๆ
ตำแหน่งขวา : เป็นตำแหน่งเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ควรวางอุปกรณ์ขีดเขียน เช่นปากกา ดินสอ สามารถของใช้ตามอัธยาศัย เช่น กรอบรูปของคนที่รัก ต้นไม้ รูปปั้น ตุ๊กตา ให้วางของทั้งหมดไว้ตรงด้านขวา
การดูแลตัวเองด้วยอาหารที่ดี พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ส่งเสริมให้มีสุขภาพดี การรักษาความสะอาดของร่างกาย ที่พักอาศัย และ สิ่งแวดล้อมรอบตัว โดยเฉพาะโต๊ะทำงานย่อมมีความสำคัญเช่นกัน เนื่องจากสิ่งแวดล้อมไม่ถูกสุขลักษณะในที่ทำงาน อาจส่งผลให้การทำงานแต่ละวันกลายเป็นการสะสมความเจ็บป่วยโดยไม่จำเป็น
















