Deep Seek AI: ม้ามืดจากแดนมังกร เขย่าบัลลังก์ AI อเมริกา ด้วยต้นทุนสุดประหยัด
DeepSeek AI: ม้ามืดจากแดนมังกร เขย่าบัลลังก์ AI อเมริกา ด้วยต้นทุนสุดประหยัด
ในโลกเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) การแข่งขันระหว่างชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาและจีนนั้นดุเดือดเข้มข้นมาโดยตลอด ฝั่งอเมริกา นำโดยบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ทุ่มเม็ดเงินมหาศาลเพื่อพัฒนาโมเดล AI ที่ซับซ้อนและทรงพลัง ในขณะที่อีกฟากฝั่งของโลก จีนกลับปรากฏตัวพร้อมกับผู้ท้าชิงรายใหม่นามว่า DeepSeek AI ที่กำลังสร้างปรากฏการณ์สะเทือนวงการด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
DeepSeek AI ไม่ใช่ผู้เล่นหน้าใหม่ที่ไร้ประสบการณ์ แต่เป็นม้ามืดที่ซุ่มซ่อนพลังมาอย่างเงียบๆ ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2023 โดยคุณเหลียงหวนเฟิง นักลงทุนผู้มากประสบการณ์และมีวิสัยทัศน์กว้างไกลในเทคโนโลยี AI เบื้องหลังความสำเร็จของ DeepSeek นั้นน่าสนใจยิ่งกว่า เพราะพวกเขาสามารถพัฒนาโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพเทียบเคียงกับคู่แข่งระดับโลก อย่าง OpenAI เจ้าของ ChatGPT ได้ ด้วยเม็ดเงินลงทุนที่น้อยกว่าอย่างไม่น่าเชื่อ
เมื่อ "น้อยแต่มาก" กลายเป็นอาวุธลับ
เมื่อเปรียบเทียบกันในเชิงตัวเลข ความแตกต่างด้านงบประมาณการพัฒนานั้นน่าตกใจ DeepSeek AI ใช้เงินลงทุนเพียง 190 ล้านบาท ในขณะที่ OpenAI ทุ่มงบประมาณต่อปีสูงถึง 168,000 ล้านบาท! พนักงานของ DeepSeek มีเพียง 200 คน เทียบกับ OpenAI ที่มีถึง 4,500 คน คำถามคือ DeepSeek ทำได้อย่างไร?
เบื้องหลังความสำเร็จอยู่ที่แนวคิด "Mixture of Experts" (MoE)
แทนที่จะเดินตามแนวทางการพัฒนา AI แบบดั้งเดิมที่เน้นความซับซ้อนและทรัพยากรจำนวนมหาศาล DeepSeek เลือกใช้แนวทาง Mixture of Experts (MoE) หรือการผสมผสานผู้เชี่ยวชาญ แนวคิดนี้เปรียบเสมือนการมีทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่พร้อมให้คำตอบในแต่ละเรื่อง เมื่อมีคำถามเข้ามา DeepSeek จะวิเคราะห์และเลือกใช้ "โหมด expert" ที่เหมาะสมที่สุดในการตอบคำถามนั้นๆ อย่างแม่นยำ วิธีการนี้ทำให้ DeepSeek สามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และยังคงรักษาคุณภาพของคำตอบไว้ได้
นอกจากนี้ DeepSeek ยังกล้าที่จะ "แหวกขนบ" โดยหันมาใช้ชิปประมวลผลจาก AMD แทนที่จะพึ่งพา Nvidia เจ้าตลาดชิป AI ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า การพัฒนา AI ที่มีประสิทธิภาพ ไม่จำเป็นต้องผูกขาดอยู่กับเทคโนโลยีราคาแพงเสมอไป
ประสิทธิภาพที่ท้าทาย และราคาที่เข้าถึงได้
ผลลัพธ์ที่ได้จากแนวทางของ DeepSeek นั้นน่าทึ่ง โมเดล AI ของพวกเขาสามารถแก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนได้ แสดงถึงความสามารถในการคิดวิเคราะห์และตรรกะที่ไม่ด้อยกว่าใคร ยิ่งไปกว่านั้น DeepSeek ยัง "ตบหน้า" คู่แข่งจากอเมริกาด้วยการเปิดให้ทุกคนเข้าถึงโมเดล AI ของพวกเขาในราคาที่ถูกกว่าหลายร้อยเท่า! ราคาเริ่มต้นชุดโปรแกรม API ของ DeepSeek อยู่ที่เพียง 1-2 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ OpenAI เริ่มต้นที่ 15-60 ดอลลาร์สหรัฐ ความแตกต่างนี้เปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี AI ล้ำสมัยได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงลิ่ว
Open Source: หัวใจสำคัญของการเติบโตแบบก้าวกระโดด
อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ DeepSeek สามารถลดต้นทุนและเร่งการพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว คือการเลือกใช้โมเดลแบบ Open Source การเปิดให้นักพัฒนาภายนอกเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาต่อยอด ไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระการพัฒนาของ DeepSeek เอง แต่ยังเป็นการสร้างระบบนิเวศของนักพัฒนาที่แข็งแกร่ง เป็นการระดมสมองและความสามารถจากทั่วโลก เพื่อยกระดับขีดความสามารถของ DeepSeek AI ให้ก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และเกมที่เปลี่ยนไป
การปรากฏตัวของ DeepSeek AI ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จของบริษัทเล็กๆ จากจีน แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในอเมริกา ที่เคยชินกับการทุ่มเม็ดเงินมหาศาลเพื่อครองความเป็นผู้นำในวงการ AI DeepSeek ได้แสดงให้เห็นว่า "ประสิทธิภาพ" ไม่จำเป็นต้องมาพร้อมกับ "ราคาแพง" เสมอไป และในเกมระยะยาว กลยุทธ์การพัฒนา AI ที่เน้นความคุ้มค่าและเข้าถึงได้ง่าย อาจกลายเป็นกุญแจสำคัญในการครองตลาดในอนาคต
อย่างไรก็ตาม DeepSeek AI ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายอีกมากมาย ทั้งในเรื่องของความโปร่งใส ความปลอดภัยของข้อมูล และการพิสูจน์ตัวเองในเชิงพาณิชย์ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า การมาถึงของ DeepSeek ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการ AI อย่างแท้จริง และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมนี้ จากนี้ไป เราคงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่า ม้ามืดจากแดนมังกรตัวนี้ จะสามารถ "พลิกเกม" และสร้างปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่ในโลก AI ได้หรือไม่
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในเทคโนโลยี AI: ปัจจุบันมีช่องทางการลงทุนที่หลากหลาย เช่น กองทุน Meat AI ของ บลจ.ทิสโก้ ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนไทย สามารถร่วมเป็นเจ้าของบริษัทเทคโนโลยี AI ชั้นนำระดับโลกได้ เป็นการเปิดประตูสู่โอกาสการเติบโตไปพร้อมกับเทคโนโลยีแห่งอนาคต















