อัตราการขึ้นของเหรียญ Bitcoin และความผันผวนของราคา
อัตราการขึ้นของเหรียญ Bitcoin และความผันผวนของราคา
Bitcoin (BTC) เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงที่ราคามีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม หนึ่งในลักษณะสำคัญของ Bitcoin คือ ความผันผวนของราคา ซึ่งทำให้การคาดการณ์แนวโน้มของราคาทำได้ยาก บทความนี้จะกล่าวถึงอัตราการขึ้นของ Bitcoin ในอดีต ปัจจัยที่ส่งผลต่อการปรับตัวของราคา และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากความผันผวน
อัตราการขึ้นของ Bitcoin ในอดีต
Bitcoin มีประวัติของการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสำคัญ โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อตลาด ตัวอย่างเช่น
ปี 2017: ราคา Bitcoin พุ่งจากประมาณ 1,000 ดอลลาร์เป็น เกือบ 20,000 ดอลลาร์ ภายในปีเดียว ก่อนที่จะปรับตัวลงอย่างรุนแรงในปี 2018
ปี 2020-2021: หลังการระบาดของโควิด-19 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทั่วโลก Bitcoin มีราคาพุ่งขึ้นจาก ประมาณ 10,000 ดอลลาร์ในกลางปี 2020 ไปแตะระดับสูงสุดกว่า 64,000 ดอลลาร์ในเมษายน 2021
ปี 2024: Bitcoin ยังคงมีแนวโน้มขาขึ้น เนื่องจากเหตุการณ์ Bitcoin Halving ซึ่งทำให้ปริมาณ Bitcoin ใหม่ที่เข้าสู่ตลาดลดลง ส่งผลให้ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้น
แม้ว่าอัตราการขึ้นของ Bitcoin จะสูงมากในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า หลังจากแต่ละรอบขาขึ้น มักจะเกิดการปรับฐานลงอย่างรุนแรง ซึ่งสะท้อนถึงความผันผวนของตลาด
ปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราการขึ้นของ Bitcoin
1. เหตุการณ์ Halving
Bitcoin Halving เกิดขึ้นทุก 4 ปี โดยเป็นการลดรางวัลจากการขุด Bitcoin ลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ ปริมาณเหรียญใหม่เข้าสู่ตลาดน้อยลง ส่งผลให้ราคามักมีแนวโน้มขาขึ้นในช่วงหลังจาก Halving
2. ความต้องการของนักลงทุนและสถาบันการเงิน
การที่สถาบันการเงิน เช่น บริษัทมหาชน กองทุน และธนาคารกลาง เริ่มถือครอง Bitcoin มากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการเพิ่มขึ้นและทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น
3. นโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ย
ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ นักลงทุนมักมองหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง ทำให้ Bitcoin ได้รับความนิยม แต่หากธนาคารกลางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนอาจโยกเงินกลับไปสู่สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า ส่งผลให้ราคาของ Bitcoin ปรับตัวลง
4. ความเชื่อมั่นในตลาดและข่าวสารทางเศรษฐกิจ
ข่าวสารเชิงบวก เช่น การที่ประเทศหรือองค์กรใหญ่ ๆ ยอมรับ Bitcoin เป็นวิธีการชำระเงิน หรือออกกฎระเบียบที่สนับสนุนคริปโต มักทำให้ราคาปรับตัวขึ้น ในทางตรงกันข้าม ข่าวเชิงลบ เช่น การแบน Bitcoin หรือการปราบปรามคริปโตในบางประเทศ อาจทำให้ราคาลดลงอย่างรุนแรง
5. ปริมาณการซื้อขายและสภาพคล่องของตลาด
ตลาด Bitcoin ยังมีขนาดเล็กกว่าตลาดหุ้นและทองคำ ทำให้ปริมาณการซื้อขายมีผลกระทบต่อราคาอย่างมาก เมื่อมีนักลงทุนรายใหญ่ (Whales) ซื้อหรือขาย Bitcoin จำนวนมาก อาจทำให้ราคาพุ่งขึ้นหรือลดลงในระยะเวลาอันสั้น
แม้ว่า Bitcoin จะมีศักยภาพในการเติบโต แต่ความผันผวนสูงก็ส่งผลกระทบต่อการลงทุน เช่น
1. โอกาสและความเสี่ยงในการทำกำไร
นักลงทุนที่สามารถจับจังหวะการขึ้นลงของราคาได้ดี สามารถทำกำไรจากความผันผวนของ Bitcoin
แต่ในขณะเดียวกัน หากการลงทุนเกิดขึ้นในช่วงที่ราคากำลังปรับฐาน อาจทำให้ขาดทุนได้อย่างรวดเร็ว
2. ผลกระทบต่อการนำ Bitcoin มาใช้เป็นเงินตรา
ความผันผวนสูงทำให้การใช้ Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันยังมีข้อจำกัด เนื่องจากราคาที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอาจทำให้ผู้ถือ Bitcoin ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน
3. การตัดสินใจของนักลงทุนระยะยาว
นักลงทุนระยะยาวที่เชื่อมั่นใน Bitcoin อาจเลือกถือครอง (HODL) โดยไม่สนใจความผันผวนระยะสั้น ขณะที่นักลงทุนที่ไม่ต้องการความเสี่ยงสูงอาจเลือกขาย Bitcoin เมื่อตลาดมีความไม่แน่นอน
Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่มี อัตราการขึ้นสูง เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่นในช่วงเวลาที่ตลาดเป็นขาขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาของ Bitcoin ยังมีความผันผวนสูง ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัย เช่น อุปสงค์-อุปทาน เหตุการณ์ Halving การเก็งกำไรของนักลงทุน และนโยบายทางเศรษฐกิจ
แม้ว่าความผันผวนจะสร้างโอกาสให้กับนักลงทุนที่สามารถจับจังหวะตลาดได้ แต่ก็เป็นความเสี่ยงสำหรับผู้ที่ไม่มีการบริหารพอร์ตการลงทุนที่ดี ดังนั้น การลงทุนใน Bitcoin ควรคำนึงถึงปัจจัยพื้นฐานของตลาด และมีการวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบเพื่อรับมือกับความผันผวนของราคา


















