20 สายพันธุ์แมวที่แพงที่สุดในโลก
20 สายพันธุ์แมวที่แพงที่สุดในโลก
1. Ashera แมวแอชร่า
ราคาสูงสุดประมาณ $125,000 (ประมาณ 4.3 ล้านบาท)
ลักษณะเด่น:
- Ashera เป็นแมวลูกผสมที่หายากที่สุดในโลก เกิดจากการผสมระหว่าง Asian Leopard Cat, Serval (สัตว์ป่าจากแอฟริกา) และแมวบ้าน
- มีรูปร่างใหญ่กว่าปกติ และลวดลายคล้ายเสือดาวที่โดดเด่น
- มีขนสั้น เรียบลื่น และมีสีที่หลากหลาย เช่น ลายจุดหรือลายหินอ่อน
ลักษณะนิสัย:
- แม้จะมีรูปลักษณ์เหมือนสัตว์ป่า แต่ Ashera กลับมีนิสัยสงบและสามารถปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในบ้านได้ดี
- เป็นแมวที่ฉลาดและชอบการเล่น
ความพิเศษของสายพันธุ์ Ashera และจำนวนที่ผลิตในแต่ละปีมีอย่างจำกัด ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในแมวที่มีราคาแพงและเป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลก และสิ่งที่ทำให้ Ashera โดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีกคือนิสัยของมัน ซึ่งว่ากันว่ามีลักษณะคล้ายสุนัขมากกว่าลักษณะนิสัยทั่วไปของแมว โดยมีความเป็นมิตรและชอบเข้าสังคมมากกว่าแมวส่วนใหญ่
2. Savannah แมวซาวันนา หรือ แมวซาวานนา
ราคา 10,000–50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 340,000–1,700,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
- อาหาร: แมว Savannah ไม่กินอาหารแมวทั่วไป แต่ต้องการอาหารเป็นเนื้อดิบ
- นิสัย: ไม่ชอบคนแปลกหน้าและไม่ใช้กระบะทรายเหมือนแมวบ้านทั่วไป
- การดูแล: การเลี้ยง Savannah คล้ายกับการดูแลสัตว์ป่า เพราะนิสัยและความต้องการที่เฉพาะเจาะจง
แมวซาวันนา หรือ แมวซาวานนา ยังคงความเป็นแมวป่าไว้อย่างชัดเจน ด้วยความแปลกใหม่และลักษณะพิเศษ ทำให้แมวสายพันธุ์นี้ไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นแมวบ้านทั่วไป เนื่องจากธรรมชาติที่ใกล้เคียงกับสัตว์ป่า Savannah ถูกสั่งห้ามเลี้ยงในกว่า 12 รัฐของสหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะมีการเพาะเลี้ยงในกรงเลี้ยงมานานเกือบ 100 ปี เหมาะสำหรับผู้เลี้ยงที่มีประสบการณ์และเข้าใจในธรรมชาติของแมวป่าอย่างลึกซึ้ง ความงดงามที่แปลกใหม่และนิสัยอิสระของมันทำให้เป็นที่ต้องการสำหรับคนรักแมวที่มองหาเอกลักษณ์เฉพาะตัว
3. Bengal แมวเบงกอล ราคา 10,000–25,000 ดอลลาร์สหรัฐ (340,000–860,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
- บรรพบุรุษป่า: เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับสัตว์ป่า ทำให้บางพื้นที่ห้ามเลี้ยงแมว Bengal เช่น ในฮาวายและนครนิวยอร์ก
- ราคา: แมว Bengal เป็นแมวที่หายากและมีราคาสูง โดยราคาอาจอยู่ระหว่าง 340,000–860,000 บาท (10,000–25,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ขึ้นอยู่กับลักษณะพันธุกรรมและคุณภาพ
แมวเบงกอล หรือบางครั้งเรียกว่า แมวเสือดาวเบงกอล เป็นแมวที่มีลักษณะโดดเด่นด้วยลายจุดคล้ายเสือดาวและรูปลักษณ์ที่มีความเป็นสัตว์ป่าชัดเจน แมว Bengal ต้องมีสายเลือดไม่เกิน 4 รุ่นจากแมวป่า เพื่อที่จะถือเป็น Bengal แท้ โดยแมวตัวแรกๆ ของสายพันธุ์นี้ถูกพัฒนาขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970 โดยการผสมพันธุ์ระหว่างแมวบ้านและ Asian Leopard Cat ลักษณะที่สวยงามและมีความเป็นสัตว์ป่าของ Bengal ทำให้มันเป็นที่ต้องการอย่างมาก แต่ก็มีความท้าทายในการเลี้ยงดู เนื่องจากต้องการการดูแลและความเอาใจใส่เป็นพิเศษ
4. Khao Manee แมวขาวมณี หรือ แมวตาเพชร
ราคา 10,000–11,000 ดอลลาร์สหรัฐ (340,000–380,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
- ขน: ขนของแมว Khao Manee มีสีขาวสะอาดตา
- ดวงตา: ดวงตาของมันมีความพิเศษ มักจะมีสีที่แตกต่างกัน (ตาสองสี) หรืออาจจะมีสีที่แวววาวเหมือนอัญมณี
- ประวัติ: แมว Khao Manee ถูกกล่าวถึงในงานเขียนตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 และได้รับชื่อว่า "Diamond Eye Cat" หรือ แมวตาเพชร
แมวขาวมณี เป็นแมวที่หายากและมีลักษณะเด่นคือขนสีขาวสะอาดตาและดวงตาที่แวววาวเหมือนอัญมณี ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของสายพันธุ์นี้ แม้ว่าอาจจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ แต่แมว Khao Manee เป็นสายพันธุ์ที่เก่าแก่และได้รับการเลี้ยงดูอย่างลับ ๆ โดยคนไทยมาหลายร้อยปีแล้ว และเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความพิเศษไม่เพียงแค่ในเรื่องของรูปลักษณ์ แต่ยังมีความเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภในวัฒนธรรมไทย
5. Sphynx แมวสฟิงซ์
ราคา 1,800–9,800 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 60,000–330,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
- ลักษณะร่างกาย: แมว Sphynx ไม่มีขนและมีผิวหนังที่เรียบเนียน และมีดวงตากลมโต
- ต้นกำเนิด: ถึงแม้ชื่อของมันจะทำให้คิดถึงอียิปต์ แต่สายพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดมาจากเมือง โตรอนโต ประเทศแคนาดา
- ราคา: ราคาของ Sphynx ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่าง $1,800 ถึง $4,400 แต่บางตัวที่มีคุณภาพสูงหรือสีหายากอาจมีราคาสูงถึง $9,800
แมวสฟิงซ์ หรือบางครั้งเรียกว่า แมวไร้ขนสฟิงซ์ เป็นแมวที่โดดเด่นและง่ายต่อการจดจำ ด้วยลักษณะที่ไม่มีขนและดวงตากลมโตที่ดึงดูดความสนใจ ความไม่มีขนของ Sphynx เกิดจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมตามธรรมชาติ ซึ่งไม่ทำให้พวกมันมีปัญหาสุขภาพแต่อย่างใด แมว Sphynx เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้เลี้ยงแมวที่ชื่นชอบความแปลกใหม่และดูแลได้ง่ายแม้จะไม่มีขน
6. Persian แมวเปอร์เซีย
ราคา 1,500–5,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 51,000–187,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
- ลักษณะใบหน้า: หน้าของแมว Persian มีลักษณะแบนราบและดวงตากลมโตที่ดูโดดเด่น
- ขน: ขนยาวนุ่มและหรูหราซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสายพันธุ์นี้
- อารมณ์: แมว Persian มีอารมณ์ที่อ่อนโยนและเป็นมิตร ทำให้เป็นแมวที่นิยมเลี้ยงในบ้าน
แมวเปอร์เซียเป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมวที่มีอายุยาวนานที่สุดในโลก โดยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ยืนยันว่าแมวพันธุ์นี้มีการเลี้ยงดูมาเป็นพันๆ ปี แมวพันธุ์ Persian เป็นที่รู้จักในด้านความน่ารักและอ่อนโยน พร้อมทั้งขนยาวนุ่มที่เพิ่มเสน่ห์ให้กับลุคที่โดดเด่นของมัน
7. Toyger แมวทอยเกอร์
ราคา 3,000–5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 102,000–170,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
- ลายเสือ: มีลายเสือที่โดดเด่นบนขนของมัน
- นิสัย: แมว Toyger มีนิสัยที่เป็นมิตรและผ่อนคลาย ทำให้เลี้ยงดูได้ง่าย โดยไม่ต้องมีพฤติกรรมที่ยากจะจัดการเหมือนกับแมวพันธุ์ป่าบางตัว
- รูปลักษณ์: แม้จะมีลักษณะภายนอกคล้ายเสือ แต่มันเป็นแมวบ้านที่มีบุคลิกอ่อนโยนและน่ารัก
แมวทอยเกอร์เป็นแมวที่มีลักษณะคล้ายเสือจากธรรมชาติ แต่เป็นแมวบ้านที่ไม่ได้มาจากสัตว์ป่า Toyger ถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มผู้เพาะพันธุ์เดียวกับที่สร้าง Bengal โดยการผสมพันธุ์ระหว่างแมวบ้านพันธุ์สั้นและแมว Bengal ที่มีลายเสือ จุดเด่นของ Toyger คือ ลายเสือที่คล้ายเสือจริง ๆ แม้ว่ามันจะเป็นแมวที่ไม่เหมือนสัตว์ป่าก็ตาม แมว Toyger เป็นที่ต้องการสำหรับผู้เลี้ยงที่ชอบลักษณะภายนอกที่ดูแปลกใหม่และน่าสนใจ แต่ต้องการแมวที่มีอารมณ์ดีและไม่ยากต่อการดูแล
8. Peterbald แมวปีเตอร์บอลด์
ราคา 2,500–5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 85,000–170,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
- ผิวหนัง: บางตัวไม่มีขน ส่วนบางตัวมีขนอ่อนที่คล้ายผิวลูกพีช
- ต้นกำเนิด: แมว Peterbald มีต้นกำเนิดจากรัสเซีย และเป็นพันธุ์ที่ใหม่พอสมควร
- ความหลากหลาย: พวกมันมีลักษณะผิวที่แตกต่างกันตั้งแต่ไม่มีขนไปจนถึงมีขนอ่อนหรือขนหยาบ
แมวปีเตอร์บอลด์เป็นแมวที่มีความหลากหลายในการลักษณะร่างกาย บางตัวไม่มีขนเลย ขณะที่บางตัวมีขนอ่อน ๆ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนผิวของลูกพีช แม้ว่าในบางตัวจะมีขนหยาบที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับผิวหน้าเมื่อเครากำลังขึ้น แมวพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดจากรัสเซียและเพิ่งเริ่มได้รับความนิยม โดยเริ่มมีการรายงานครั้งแรกในปี 1988 เมื่อแมวพันธุ์ Russian Donskoy ผสมกับ Oriental Shorthair ทำให้เกิดแมวพันธุ์ Peterbald ตัวแรกขึ้นมา แมวปีเตอร์บอลด์เป็นแมวที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบแมวที่มีลักษณะไม่เหมือนใครและต้องการแมวที่มีการดูแลไม่เหมือนแมวทั่วไป
9. Ragdoll แมวแร็กดอลล์
ราคา 1,000–5,000+ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 34,000–170,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
- บุคลิก: แมว Ragdoll มีบุคลิกที่อ่อนโยนและเป็นมิตร มักจะอยู่ในท่าทางที่ผ่อนคลายและทำให้ผู้เลี้ยงรู้สึกว่ามันเหมือนตุ๊กตาผ้าระหว่างการจับตัว
- ขนาด: Ragdoll เป็นแมวขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างมีกล้ามเนื้อและขนหนานุ่ม
- ความนิยม: เนื่องจากมีนิสัยที่รักการเข้าสังคมและท่าทางที่น่ารัก จึงทำให้เป็นหนึ่งในแมวที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้เลี้ยง
แมวแร็กดอลล์เป็นแมวที่มีหลากหลายราคา โดยแมวแร็กดอลล์ที่เป็นสัตว์เลี้ยงทั่วไปจะมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ $1,000 และอาจสูงขึ้นถึง $2,500 หากเป็นแมวแร็กดอลล์ที่มีคุณภาพสำหรับการแสดง (show-quality) ซึ่งราคาจะเริ่มต้นที่ $1,500 และอาจสูงถึง $4,000 สำหรับ Ragdoll ที่เหมาะสำหรับการผสมพันธุ์ ราคาจะเริ่มต้นที่ $2,000 และสามารถพุ่งสูงกว่า $5,000 แมวแร็กดอลล์เป็นที่ชื่นชอบสำหรับผู้ที่ต้องการแมวที่มีบุคลิกอ่อนโยนและเป็นมิตร ซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัวหรือผู้ที่ต้องการเพื่อนซี้ขนยาว
10. Siberian แมวไซบีเรียน
ราคา 1,200–4,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 40,000–136,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
- ขนาด: Siberian เป็นแมวพันธุ์ขนาดใหญ่ แต่ยังคงเล็กกว่า Maine Coon
- ขน: ขนหนา 2 ชั้นเพื่อป้องกันความหนาวเย็น
- นิสัย: แมว Siberian เป็นแมวที่มีบุคลิกอ่อนโยนและขี้เล่น สามารถเข้ากับคนและสัตว์เลี้ยงอื่นได้ดี
- เหมาะสำหรับภูมิแพ้: เป็นแมวที่ถือว่าเป็นพันธุ์ที่มีอาการภูมิแพ้น้อย เนื่องจากมีสารก่อภูมิแพ้น้อยกว่า
เป็นหนึ่งในแมวพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด แม้ว่าจะยังคงมีขนาดเล็กกว่าพันธุ์ Maine Coon พวกมันมีชื่อเสียงในเรื่องของความเป็นมิตรและขี้เล่น สามารถเข้ากับเด็ก แขก และแม้แต่สุนัขได้ดี นอกจากนี้แมว Siberian ยังมีขนหนา 2 ชั้นที่ช่วยป้องกันความหนาวเย็นจากฤดูหนาวในไซบีเรีย แต่กลับกลายเป็นพันธุ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ เพราะน้ำลายของพวกมันผลิตสารก่อภูมิแพ้น้อยกว่าพันธุ์อื่น ๆ เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่มองหาสัตว์เลี้ยงที่มีลักษณะภายนอกสวยงามและมีนิสัยดี สามารถเป็นเพื่อนเล่นได้ทั้งกับเด็กและสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ
11. Maine Coon แมวเมนคูน
ราคา 1,000–4,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 34,000–136,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
- ขนาด: เป็นแมวขนาดใหญ่ที่สุดพันธุ์หนึ่ง มีทั้งน้ำหนักและความยาวที่น่าประทับใจ
- ราคา: ราคาของ แมวเมนคูน เริ่มต้นที่ประมาณ $1,000 สำหรับแมวที่เลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงทั่วไป แต่สำหรับแมวที่มีคุณภาพสำหรับการแสดงหรือพันธุ์ที่มีคุณสมบัติพิเศษ อาจต้องใช้เงินหลายพันดอลลาร์
- นิสัย: แมวพันธุ์นี้มีบุคลิกที่เป็นมิตรและรักการเข้าสังคม มักจะเข้ากับเด็กและสัตว์เลี้ยงอื่นได้ดี
แมวเมนคูนเป็นแมวพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาแมวพันธุ์บ้าน โดยบางตัวสามารถมีน้ำหนักเกิน 30 ปอนด์ (ประมาณ 13.6 กิโลกรัม) จึงทำให้มันเป็นหนึ่งในแมวพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แมวเมนคูน ยังเคยทำลายสถิติโลกสำหรับแมวที่ยาวที่สุด ซึ่งแมวตัวหนึ่งชื่อ Stewie วัดความยาวได้ถึง 48.5 นิ้ว (ประมาณ 123 เซนติเมตร)
12. Scottish Fold แมวสกอตติชโฟลด์
ราคา 500–3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 17,000–102,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
- หูพับ: หูของ แมวสกอตติชโฟลด์ จะพับลงไปข้างหน้าและแบนบนศีรษะ
- ต้นกำเนิด: แมวพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดจากแมวฟาร์มในสกอตแลนด์และเป็นผลจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม
- นิสัย: แมว แมวสกอตติชโฟลด์ เป็นแมวที่อ่อนโยนและมักจะมีบุคลิกที่สงบ ชอบที่จะอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าของ
แมวสกอตติชโฟลด์ เป็นแมวที่มีลักษณะคล้ายแมวบ้านทั่วไป แต่มีความโดดเด่นที่หูของมันซึ่งพับลงไปข้างหน้าและแบนบนศีรษะเนื่องจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมที่เกิดขึ้นเองในแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงในฟาร์มในสกอตแลนด์ แมวพันธุ์นี้ถูกตั้งชื่อตามลักษณะของหูที่พับลงไป และแมวทุกตัวที่เป็น แมวสกอตติชโฟลด์สามารถย้อนกลับไปถึงแมวตัวแรกชื่อ Susie ซึ่งเป็นต้นตระกูลของพันธุ์นี้
13. Russian Blue แมวรัสเซียนบลู
ราคา 500–3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 17,000–102,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
- ขนสีเทาน้ำเงิน: ขนของ Russian Blue มีสีเทาที่ให้ความรู้สึกเหมือนน้ำเงินในแสง
- เหมาะสำหรับภูมิแพ้: เป็นแมวที่ถือว่าเป็นพันธุ์ที่ไม่ก่อภูมิแพ้หรือก่อภูมิแพ้น้อย
- นิสัย: แมวพันธุ์นี้มีลักษณะขี้เล่นแต่ก็สงบ และเข้ากับครอบครัวได้ดี
แมวรัสเซียนบลู หรือที่รู้จักกันในชื่อ แมวอาร์คแองเจล เป็นแมวพันธุ์ที่มีขนสีเทาที่ให้ความรู้สึกเหมือนสีน้ำเงินเมื่ออยู่ภายใต้แสง แมวพันธุ์นี้ถือเป็นแมวที่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ เนื่องจากมันมีอาการภูมิแพ้น้อยและถูกจัดให้เป็นพันธุ์ที่ไม่ก่อภูมิแพ้มาก พวกมันเป็นแมวที่มีพลังและขี้เล่น แต่ก็มีนิสัยที่สงบและเป็นมิตร แมวรัสเซียนบลูเป็นที่นิยมในผู้ที่มองหาแมวที่มีลักษณะสวยงามและเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้
14. British Shorthair บริติชชอร์ตแฮร์
ราคา 800–2,000ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 27,000–68,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
- รูปร่างกลม: British Shorthair มีลำตัวที่กลมและหนา มีลักษณะค่อนข้างใหญ่และมีมัดกล้ามเนื้อที่แข็งแรง
- ใบหน้าและหู: มีใบหน้ากลมและกว้าง หูของมันมีขนาดปานกลางและตั้งตรง ไม่ใหญ่เกินไป
- ขนสั้นและหนา: ขนของ British Shorthair เป็นขนสั้นและหนา ทำให้มันมีลักษณะที่ดูอ้วนพีแต่ไม่ทำให้รู้สึกหนักเกินไป ขนของมันเนียนนุ่มและดูแลง่าย
แมวบริติชชอร์ตแฮร์ เป็นแมวที่มีลักษณะหนาและขนสั้นที่น่ารัก ซึ่งมีลักษณะใบหน้ากว้างและบุคลิกที่รักการเข้าสังคม แมวพันธุ์นี้มาจากแมวบ้านในยุคโรมันและพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน นอกจากรูปลักษณ์ที่น่ารักแล้ว พวกมันยังเป็นแมวที่รักและอยู่กับผู้คนได้ดี ราคาของแมวพันธุ์นี้จะเริ่มต้นที่ประมาณ $800 แต่บางตัวอาจมีราคาสูงถึง $2,000 ขึ้นอยู่กับคุณภาพและสายพันธุ์
15. Egyptian Mau แมวพันธุ์อียิปเตียนโม
ราคา 800–1,800 ดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 27,000–61,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
- ขนลายจุด: มีขนที่มีลายจุดตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพันธุ์นี้ ลายจุดที่มีลักษณะเฉพาะและกระจายทั่วทั้งตัวทำให้มันมีรูปลักษณ์ที่คล้ายกับแมวป่ามาก
- ขนาดและรูปร่าง: แมวพันธุ์นี้มีขนาดกลางถึงใหญ่ ลำตัวเพรียวและมีมัดกล้ามเนื้อที่กระชับ ขาทั้งสี่แข็งแรงและทำให้มันสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว
- ใบหน้า: มักมีหน้าที่เพรียวและดวงตากลมใหญ่ ตาสีเขียวเป็นอีกหนึ่งลักษณะที่เด่น
แมวพันธุ์อียิปเตียนโมเป็นแมวพันธุ์ที่มีขนลายจุด ซึ่งทำให้มันดูเหมือนแมวป่า พวกมันเป็นพันธุ์เดียวที่มีขนลายจุดตามธรรมชาติ และมีความนิยมสูงเนื่องจากรูปลักษณ์ที่สวยงามและความภักดีที่มีต่อเจ้าของ แมวพันธุ์นี้สามารถมีราคาได้สูงถึง $1,800 ขึ้นอยู่กับคุณภาพ
16. Norwegian Forest Cat แมวป่านอร์เวย์
ราคา 800–1,500ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 27,000–51,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
- ขนหนาและยาว: พันธุ์นี้มีขนหนาและยาวที่ช่วยป้องกันอุณหภูมิที่หนาวเย็น ขนสองชั้นทำให้มันสามารถทนทานต่อสภาพอากาศที่หนาวได้ดี ขนยาวจะมีความนุ่มและฟู มีทั้งสีขาว สีดำ สีน้ำตาล หรือสีที่ผสมกัน
- ใบหน้าและหู: มีใบหน้าที่ค่อนข้างกว้างและคางที่ชัดเจน หูมักจะมีขนาดใหญ่และปลายแหลมซึ่งเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมธรรมชาติ
- ดวงตากลมโต: ดวงตาของพันธุ์นี้มีขนาดใหญ่และสีสันที่สดใส เช่น สีเขียวหรือสีทอง
แมวป่านอร์เวย์ เป็นพันธุ์แมวที่มีลักษณะเด่นจากขนาดใหญ่และขนหนาฟูเหมาะสมกับสภาพอากาศหนาวเย็นของประเทศนอร์เวย์ พันธุ์นี้มีลักษณะทางกายภาพและบุคลิกที่น่าสนใจ และมีประวัติยาวนานในภูมิภาคเหนือของยุโรป แมวพันธุ์นี้เป็นแมวที่มีทักษะการปีนต้นไม้และสามารถล่าสัตว์ได้ดี
17. Selkirk Rex แมวเซลเคิร์กเร็กซ์ หรือ แมวขนหยิกเซลเคิร์ก
ราคา 600–1,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 20,000–51,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
- ขนหยิก: ลักษณะเด่นที่สุดของ Selkirk Rex คือขนที่หยิกหรือม้วนไปมา ซึ่งเกิดจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม ขนของมันสามารถหยิกได้ทั้งในระดับที่นุ่มนวลและหยิกมาก ส่วนมากจะมีขนหยิกทั้งตัวและมีความนุ่มเหมือนขนของลูกแมว
- ใบหน้ากลมและขากรรไกรแข็งแรง: พวกมันมีใบหน้ากลมและขากรรไกรที่แข็งแรง ทำให้ใบหน้าของมันดูอ้วนและน่ารัก พวกมันมีดวงตากลมโตที่ทำให้หน้าตาดูน่ารักและเป็นมิตร
- ทนต่ออุณหภูมิ: ขนหยิกของ Selkirk Rex ช่วยให้พวกมันสามารถทนต่ออุณหภูมิที่หลากหลายได้ดี แม้ว่ามันจะไม่หนาเท่ากับแมวพันธุ์ขนยาว เช่น Norwegian Forest Cat แต่ก็มีความยืดหยุ่นในการปรับตัว
แมวเซลเคิร์กเร็กซ์ หรือ แมวขนหยิกเซลเคิร์ก เป็นพันธุ์แมวที่มีลักษณะเด่นจากขนที่หยิกและม้วนไปมา ซึ่งแตกต่างจากแมวพันธุ์อื่นๆ ที่มีขนตรงหรือขนยาว พันธุ์นี้เป็นพันธุ์แมวที่มีลักษณะพิเศษและเป็นที่นิยมในหมู่คนรักแมวที่ชอบแมวขนหยิก
18. American Curl อเมริกันเคิร์ล
ราคา 800–1,200 ดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 27,000–41,000 บาท)
ลักษณะเด่น:
- หูงอ: ลักษณะเด่นที่สุดของอเมริกันเคิร์ล คือหูที่งอไปข้างหลัง แมวทุกตัวที่เกิดจากพันธุ์นี้จะมีหูตรงๆ เมื่อแรกเกิด และจะเริ่มงอหลังจากไม่กี่วัน โดยหูจะงอไปข้างหลังในลักษณะที่มีความโค้งงอที่สวยงาม
- ขน: ขนของอเมริกันเคิร์ล สามารถเป็นขนสั้นหรือขนยาวก็ได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละตัว โดยขนของมันมีความนุ่มและสวยงาม
- รูปร่าง: มีร่างกายที่เพรียวบางและกล้ามเนื้อที่ดี ขาและหางของมันยาวและแข็งแรง มีใบหน้าทรงกลมและดวงตากลมโตที่ดูเป็นมิตร
อเมริกันเคิร์ล เป็นพันธุ์แมวที่มีลักษณะเด่นคือ หูที่งอ ซึ่งเป็นคุณลักษณะเฉพาะของพันธุ์นี้ โดยหูของแมวพันธุ์นี้จะงอไปข้างหลังตั้งแต่เกิดและยังคงงอตลอดชีวิต
19. American Wirehair แมวอเมริกันไวร์แฮร์
ราคา 800–1,200ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 27,000–41,000 บาท)
ลักษณะเด่นของ :
- ใบหน้า: หน้าของมันจะค่อนข้างกลมและมีหูที่ยกขึ้น ซึ่งทำให้มีความเป็นเอกลักษณ์
- รูปร่าง: ค่อนข้างกลมและมีร่างกายที่กระทัดรัด ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่น้ำหนักมักอยู่ในช่วง 8–12 ปอนด์
- บุคลิก: พันธุ์นี้มีบุคลิกขี้เล่นและรักการเข้าสังคม แมวพันธุ์นี้มักจะเป็นมิตรและชอบอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าของ รวมถึงมักจะสนุกกับการเล่นและค่อนข้างขี้สงสัย
- ขนาดและน้ำหนัก: น้ำหนักของแมวพันธุ์นี้จะอยู่ที่ประมาณ 8-12 ปอนด์และมีอายุเฉลี่ย 7–12 ปี
- ขนหยิก: ขนของแมวพันธุ์นี้มีลักษณะหยิกและเหมือนลวด ซึ่งเป็นผลมาจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม พวกมันมีขนที่มีความยืดหยุ่นและแตกต่างจากแมวทั่วไปที่มีขนตรง
แมวขนสั้นอเมริกันเป็นแมวที่หายากและมีขนหยาบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งแตกต่างจากแมวพันธุ์อื่นๆ ทั่วไป แมวพันธุ์นี้ค่อนข้างขี้อายในตอนแรก แต่ผูกพันกับครอบครัวอย่างแนบแน่นและรักเด็ก
20. American Shorthair อเมริกันชอร์ตแฮร์
ราคา 600–1,200 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 20,000–41,000 บาท)
ลักษณะเด่นของ :
- ขนสั้น: ขนของแมวพันธุ์นี้สั้นและเรียบง่าย การดูแลรักษาง่าย เนื่องจากขนไม่ยาวและไม่ยุ่งเหยิง
- รูปร่าง: รูปร่างค่อนข้างกลมและลำตัวมีความหนาและแข็งแรง แมวพันธุ์นี้มีขนาดกลางถึงใหญ่ พวกมันมีลำตัวที่แข็งแรงและมีกล้ามเนื้อที่เห็นได้ชัดเจน
- ใบหน้า: ใบหน้าของ American Shorthair จะมีลักษณะกลมและดูเป็นมิตร
- บุคลิก: พวกมันมีบุคลิกขี้เล่นและรักเจ้าของ แต่ไม่ซุกซนเกินไป เป็นแมวที่มีความสงบและสามารถอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ได้ดี รวมถึงเด็ก ๆ ด้วย
แมวอเมริกันช็อตแฮร์ เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมจากบุคลิกที่รักการเข้าสังคมและมีการดูแลง่าย มีต้นกำเนิดจากแมวที่เดินทางมาพร้อมกับผู้ตั้งถิ่นฐานในอเมริกา














