เดินก้มตัวแบบไทยดังไกล ญี่ปุ่น-อาเซียนแห่แชร์วัฒนธรรมเหมือนที่บ้านฉันก็มี
เปิดโลกวัฒนธรรม “ก้มตัว” กับการแสดงความเคารพในแบบไทย ๆ
เมื่อไม่กี่วันก่อน ผมบังเอิญเจอคลิปในโลกออนไลน์ที่ชาวต่างชาติและสาวไทยทำขึ้นมาเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย จุดเด่นของคลิปนี้คือการแสดงพฤติกรรมที่ดูจะเรียบง่าย แต่สะท้อนวัฒนธรรมลึกซึ้ง นั่นก็คือ "การก้มตัวลงเล็กน้อยเมื่อเดินผ่านหน้าผู้อื่น" เพื่อแสดงความเคารพโดยเฉพาะกับคนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ หรืออยู่ในระยะประชิด
คลิปดังกล่าวถึงแม้จะถูกนำเสนอในเชิงขบขัน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือตัวมันเองกลายเป็นประตูให้คนในโซเชียลมีเดียจากหลากหลายชาติ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้มาแชร์ประสบการณ์และวัฒนธรรมของพวกเขาที่คล้ายคลึงกัน!
มาดูกันครับว่า คนในอาเซียนและเอเชียพูดถึงวัฒนธรรมนี้ยังไงบ้าง รวมถึงพฤติกรรม “ก้มตัว” ของเราคล้ายหรือแตกต่างจากชาติอื่น ๆ แค่ไหน
คนไทยกับ “ก้มตัว” การแสดงความนอบน้อมที่งดงาม
เริ่มกันที่มุมมองคนไทยเราก่อนครับ หลาย ๆ คนยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า “ก้มตัว” นี่แหละคือหนึ่งใน มารยาทไทย ที่ถูกปลูกฝังกันมาตั้งแต่เด็ก เช่น หากเราเดินผ่านผู้อาวุโส คนที่ยืนสนทนากัน หรือแม้แต่ในสถานการณ์ที่เราต้องเดินผ่านกลุ่มคนในพื้นที่แคบ เราก็จะก้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพ
ผู้ใหญ่ไทยหลายคนบอกว่า การแสดงความเคารพผ่านการก้มตัวนี่แหละคือสิ่งที่สะท้อน ความนอบน้อมถ่อมตน ของคนไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่น่ารักของวัฒนธรรมเรา
คนอาเซียนคิดยังไง? แชร์มุมมองสุดน่ารักจากประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อผมลองไปดูคอมเมนต์ในคลิปดังกล่าว ก็ได้เจอกับเรื่องราวน่าสนใจจากเพื่อนบ้านในอาเซียนที่แชร์วัฒนธรรมของตัวเองซึ่งใกล้เคียงกับของไทย
-
เมียนมาร์:
ชาวเมียนมาร์เล่าว่า ที่ประเทศของพวกเขาก็มีการก้มตัวเหมือนกัน โดยเฉพาะเมื่อเดินผ่านคนที่อายุมากกว่า หรือคนที่พวกเขาให้ความเคารพ เช่น พ่อแม่ ครู หรือผู้ใหญ่ในครอบครัว การก้มตัวของพวกเขาถือเป็นวิธีแสดงความเคารพอย่างหนึ่ง ซึ่งถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ยังเล็ก -
กัมพูชา:
เพื่อนบ้านกัมพูชาเองก็แชร์คล้าย ๆ กัน พวกเขาจะก้มตัวเล็กน้อยเมื่อเดินผ่านผู้อาวุโส หรือแม้แต่ในสถานการณ์ที่ต้องเดินฝ่าระหว่างกลุ่มคนที่กำลังสนทนา -
ฟิลิปปินส์:
ชาวฟิลิปปินส์มีความคล้ายกันมาก! พวกเขาบอกว่า การก้มตัวเป็นสัญลักษณ์ของความเคารพ และยังใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนสายตาคนอื่น โดยเฉพาะเวลาที่ต้องเดินผ่านคนสองคนที่กำลังสนทนากัน -
มาเลเซีย:
ที่มาเลเซีย พวกเขาจะก้มตัวแบบสุภาพ โดยเฉพาะเมื่อเดินผ่านคนในครอบครัว เช่น พ่อแม่ หรือผู้อาวุโสที่รู้จัก บางครั้งอาจเพิ่มการสัมผัสมือหรือจูบมือเพื่อแสดงความเคารพที่มากขึ้น -
อินโดนีเซีย:
ชาวอินโดนีเซียก็แชร์ว่า การก้มตัวเพื่อแสดงความเคารพส่วนใหญ่จะทำเฉพาะกับคนในครอบครัว หรือคนรู้จักที่มีอายุมากกว่า แต่ถ้าเป็นคนแปลกหน้า พวกเขาอาจแสดงออกด้วยการพูด “ขอโทษ” แทน
ญี่ปุ่นกับวัฒนธรรม “ก้มตัว” ที่ลงรายละเอียด
แน่นอนว่าคลิปนี้ดึงดูดชาวญี่ปุ่นให้เข้ามาแชร์มุมมองด้วยเช่นกัน ชาวญี่ปุ่นเล่าว่า การก้มตัวในญี่ปุ่นนั้นใช้กันหลากหลายสถานการณ์ ตั้งแต่การแสดงความเคารพ ทักทาย ขอบคุณ ไปจนถึงขอโทษ
ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ พวกเขามักจะก้มตัวลงเมื่อเดินผ่านหน้ากล้องของคนที่กำลังถ่ายรูป เพื่อไม่ให้ใบหน้าของตัวเองไปบังภาพ ซึ่งถือเป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจคนอื่นในแบบเฉพาะตัว
วัฒนธรรม “ก้มตัว” ไม่ใช่แค่เรื่องมารยาท แต่คือการสื่อสารแบบไร้คำพูด
จากมุมมองที่ได้อ่าน ผมว่ามันน่าทึ่งมากที่วัฒนธรรมการก้มตัวนี้ไม่ได้มีแค่ในประเทศไทย แต่ยังพบเห็นได้ในหลายประเทศในอาเซียน รวมถึงเอเชียตะวันออก โดยทุกคนต่างมองว่าการก้มตัวนี้คือ การแสดงออกถึงความสุภาพ ความเคารพ และความนอบน้อม
ที่สำคัญ มันยังเป็นภาษากายที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบุคคลอีกด้วย แม้บางคนอาจจะไม่ได้ตั้งใจสื่อสารด้วยคำพูด แต่เพียงการก้มตัวลงเล็กน้อยก็ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกถึงความใส่ใจและให้เกียรติ
แล้วเพื่อน ๆ คิดว่ายังไงบ้างครับ
มาถึงตรงนี้ อยากชวนเพื่อน ๆ มาแชร์กันครับว่า
- คุณเคยสังเกตไหมว่าตัวเองหรือคนรอบข้างทำสิ่งนี้กันอยู่?
- ถ้าไปเจอวัฒนธรรมนี้ในประเทศอื่น ๆ คุณรู้สึกยังไง?
- หรือบางที คุณอาจมีเรื่องราวเกี่ยวกับการ “ก้มตัว” ในชีวิตประจำวันที่อยากเล่าให้ฟังก็ได้
มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในคอมเมนต์ได้เลยครับ
สุดท้ายนี้ ผมเชื่อว่าวัฒนธรรมการแสดงความเคารพผ่านการก้มตัวนี้คือสิ่งเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ ที่สามารถสะท้อนตัวตนของแต่ละชาติได้อย่างน่าภาคภูมิใจ
วัฒนธรรมการก้มตัวของไทยและเอเชียไม่ใช่แค่เรื่องมารยาท แต่คือ มรดกทางวัฒนธรรม ที่สร้างความนอบน้อมและความเคารพให้แก่สังคมเรา และถ้าคุณเคยรู้สึกภูมิใจในมารยาทแบบไทย ๆ ลองแชร์กันได้นะครับว่ามันทำให้คุณมองตัวเองหรือคนรอบข้างในมุมมองใหม่ยังไง
พบกันในกระทู้หน้านะครับ สวัสดีครับ
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
หลังหยุดยิง จีนบริจาคเงินและของให้เขมร มูลค่า 20 ล้านหยวน
จะว่าไปแล้ว "น้ำผึ้ง" นั้นคือ อุจจาระของผึ้งหรือไม่ ?
แม่ดีใจที่ลูกชายเป็นหนี้มหาศาล
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
เซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 2568
อินฟลูเอนเซอร์ด้านความงาม ของเกาหลีรุ่นแรกๆ "ดาโตอา" เสียแล้ว!!
สิบเลขขายดีแม่จำเนียร งวด 2/1/69
หลังหยุดยิง จีนบริจาคเงินและของให้เขมร มูลค่า 20 ล้านหยวน
โพชฌงค์ 7 คืออะไร ?
บทเรียนรักกลางสมุทร: อดีตลูกเรือสำราญเตือนสติ ทำไม "ความรักในที่ทำงาน" บนเรือถึงเป็นดราม่าที่หนีไม่พ้น
แม่ทัพภาคที่ 4 ประกอบพิธีถวายราชสักการะและบวงสรวงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันปราบดาภิเษก
กองทัพภาคที่ 2 ประกาศเตือนภัยชายแดน สั่งห้ามแตะต้องหรือครอบครองยุทธภัณฑ์ตกค้างเพื่อความปลอดภัย
โศกนาฏกรรมแม่ทัพ"หยวนฉงฮ่วน"ผู้ถูกกิน: เมื่อวีรบุรุษผู้ปกป้องแผ่นดิน ถูกชาวบ้าน "แล่เนื้อ" แกล้มเหล้าเพราะคำลวง
“แอ่งดานาคิล” ราวกับอยู่บนต่างดาว สถานที่สุดโหดร้ายแห่งหนึ่งของโลก
ภาพของเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงหรือทีมทำความสะอาด ที่กำลังปฏิบัติงานบริเวณ "ดวงตา" ขององค์พระพุทธรูปอุชิคุ ไดบุตสึ
เผยโฉม "Dracula’s Chivito": จานก่อกำเนิดดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลเท่าที่เคยพบ
“ทำไมคนขยันหลายคนยังไม่ประสบความสำเร็จ? ความจริงที่ไม่มีใครบอกคุณ”