หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ทำไมไฟจราจรถึงต้องเป็นสีเขียว เหลือง และแดง?

เนื้อหาโดย เรื่องลับรอบโลก

ทำไมไฟจราจรถึงต้องเป็นสีเขียว เหลือง และแดง?

ทุกครั้งที่เราขับขี่บนท้องถนนหรือเดินทางไปยังที่ต่างๆ บนโลกนี้ สิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้คือสัญญาณไฟจราจรที่มีสีเขียว เหลือง และแดง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการช่วยควบคุมการเคลื่อนที่ของยานพาหนะและคนเดินเท้า ด้วยเหตุผลที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่เบื้องหลังการเลือกใช้สีเหล่านี้มีความหมายที่ลึกซึ้งและน่าสนใจมากกว่าที่คิด

 

1. ประวัติศาสตร์การสร้างไฟจราจร

 

สัญญาณไฟจราจรเริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในปี 1868 ในประเทศอังกฤษ โดยมีการประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อควบคุมการจราจรของรถม้าและคนเดินเท้า จุดประสงค์คือการป้องกันอุบัติเหตุและทำให้การจราจรเป็นระเบียบมากขึ้น แต่ความสำเร็จที่แท้จริงของการใช้ไฟจราจรนั้นเกิดขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เมื่อรถยนต์เริ่มเข้ามามีบทบาทในสังคมเมืองอย่างมาก

 

2. การเลือกใช้สี: ทำไมต้องเป็นสีแดง เหลือง และเขียว?

 

การเลือกใช้สีทั้งสามนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มีเหตุผลทางประวัติศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่รองรับ

สีแดง: สีที่ถูกเลือกให้เป็นสัญญาณ “หยุด” หรือ “อันตราย” เนื่องจากมันมีความสามารถในการดึงดูดความสนใจได้ดีกว่าค่าสีอื่น ๆ ดังนั้น สีแดงจึงถูกใช้เป็นสัญญาณหยุดในทุกวงการ ตั้งแต่สัญญาณไฟจราจรไปจนถึงไฟเตือนภัยในภาคการแพทย์

 

สีเขียว: เป็นสีที่สื่อถึง “ปลอดภัย” หรือ “ไปได้” โดยสีเขียวไม่เพียงแค่มีความหมายที่ชัดเจนในแง่ของการอนุญาตให้ดำเนินการต่อ แต่ยังเกี่ยวข้องกับธรรมชาติและความสงบ ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่และคนเดินเท้ารู้สึกสบายใจเมื่อเห็นไฟเขียว

 

สีเหลือง: หลายคนอาจไม่ค่อยแน่ใจในความหมายของสีเหลือง แต่จริงๆ แล้วมันคือสัญญาณที่บ่งบอกให้เตรียมพร้อมที่จะหยุดหรือชะลอความเร็ว เพราะสีเหลืองแสดงถึงความระมัดระวังและความตื่นตัว เพื่อให้ผู้ขับขี่เตรียมตัวรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น

 

3. เหตุผลทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยา

 

การเลือกใช้สีทั้งสามในสัญญาณไฟจราจรนั้นไม่เพียงแค่เป็นผลจากประสบการณ์ที่ผ่านมา แต่ยังมีหลักวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาเข้ามามีบทบาทด้วย

 

การมองเห็นสีแดง: ร่างกายมนุษย์สามารถรับรู้สีแดงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเหมาะสำหรับการเตือนให้หยุดและลดความเร็วในสถานการณ์ที่อาจจะเกิดอันตรายได้ ดังนั้นสีแดงจึงถูกเลือกให้เป็นสีสัญญาณ “หยุด” ในการจราจร

 

การรับรู้สีเขียว: ในทางจิตวิทยา สีเขียวถูกเชื่อมโยงกับความรู้สึกของความปลอดภัยและความสงบ การเลือกสีเขียวให้เป็นสัญญาณ “ไปได้” จึงเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนให้ผู้ขับขี่รู้สึกปลอดภัยในการเคลื่อนที่

 

สีเหลืองเป็นการเตือนให้ระมัดระวัง: สีเหลืองถูกมองว่าเป็นสีที่ช่วยกระตุ้นการรับรู้และการเตรียมตัวสำหรับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งในกรณีของไฟจราจร หมายถึงการเตือนให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วและเตรียมตัวหยุด

 

4. มุมมองทางสังคมและวัฒนธรรม

 

ในการเลือกสีในสัญญาณไฟจราจร ยังมีบทบาทของมุมมองทางสังคมและวัฒนธรรมที่มีผลต่อการรับรู้สีเหล่านั้น ในบางประเทศ สีแดงไม่ได้แปลว่า "หยุด" เสมอไป แต่การใช้สัญลักษณ์สีแดงในการหยุดก็ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั่วโลก เพราะทุกคนเข้าใจได้ง่ายและเร็วที่สุด

 

5. การพัฒนาของเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

 

ในปัจจุบัน การพัฒนาของเทคโนโลยีทำให้สัญญาณไฟจราจรมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาไปในทางที่ทันสมัยขึ้น เช่น ระบบไฟจราจรอัจฉริยะที่สามารถปรับเปลี่ยนเวลาไฟเขียว-แดงอัตโนมัติตามความหนาแน่นของการจราจร ในอนาคตเราอาจเห็นการพัฒนาไฟจราจรที่สามารถใช้สีหรือสัญลักษณ์อื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการการจราจรได้อย่างดียิ่งขึ้น

 

การเลือกใช้สีเขียว เหลือง และแดงในสัญญาณไฟจราจรมีที่มาที่ไปที่ไม่ใช่แค่การเลือกสีโดยบังเอิญ แต่เป็นการพิจารณาหลายปัจจัยทั้งทางประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ จิตวิทยา และมุมมองทางสังคมเพื่อให้การจราจรเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย ดังนั้นครั้งหน้าที่คุณมองไปยังไฟจราจร คุณจะเข้าใจถึงเหตุผลเบื้องหลังสัญญาณเหล่านี้มากขึ้น และอาจจะรู้สึกขอบคุณการเลือกสีที่ถูกต้องในการควบคุมการเดินทางของมนุษย์บนท้องถนนที่ยุ่งเหยิงนี้

เนื้อหาโดย: เรื่องลับรอบโลก
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: lo73l1
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวนถล่มอุโมงค์ลับ เนิน 350 ทัพฟ้าส่ง F-16 เสิร์ฟไข่ 6 รอบติดเครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจคลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญมารู้จัก DP-20 โดรนสอดแนมสัญชาติไทยยูเนสโก โดน แก๊งสแกมเมอร์ แอบอ้างหลอก เอาเงินลงทะเบียนแฉเรือทุนไทยขายน้ำมันให้เขมร อดีต สว ประกาศ เตือน ทัพเรือสั่ง 'จมเรือ' ได้ทันที เพราะประกาศกฎอัยการศึกย้อนวันวาน “ศูนย์อาหารมาบุญครอง พ.ศ. 2535” ต้นแบบฟู้ดคอร์ทไทย จากคูปองเงินสด สู่ยุคสแกนจ่ายในปลายนิ้ว"เขมร" เย้ย! "ไทย" ใช้กำลังทหารมากมาย..แต่ไม่สามารถยึดดินแดนกัมพูชาได้สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่นสื่อนอกอวย ทหารไทยสุดเจ๋ง ไม่ใช่แค่รบ แต่ถล่ม 'เมืองสแกมเมอร์' พังท่อน้ำเลี้ยงโจรได้สิ้นซาก
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ยูเนสโก โดน แก๊งสแกมเมอร์ แอบอ้างหลอก เอาเงินลงทะเบียนมารู้จัก DP-20 โดรนสอดแนมสัญชาติไทยเขมรระแวงหนัก! คุมเข้มห้ามบิน “โดรน” ทั่วกรุงพนมเปญ หวั่นแผนลอบโจมตี “ฮุน เซน” กระแสโซเชียลไทยถล่มยับ"อันวาร์" ร้ายลึก "ปานเทพ" แฉเส้นทางอาวุธใหม่จีน ที่ไทยยึดได้จากเขมร พบจีนขายให้แค่ "มาเลย์ฯ"ดาราดัง "ยุน ซอก ฮวา" เสียชีวิตแล้วอย่าเพิ่งทิ้ง! ถูกลอตเตอรี่แต่ลืมไปขึ้นเงิน เช็กให้ชัดระยะเวลา 2 ปี นับจากวันไหนกันแน่?
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
มารู้จักหน่วย BHQ หน่วยองครักษ์ พิทักษ์ฮุนเซนรู้หรือไม่ ? ที่มาและประวัติของ "สุกี้ยากี้" เป็นมาอย่างไร ?ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีนทึ่งทั่วไทย : "น้ำตกแม่กาษา" น้ำตกลำธารใส Unseen แม่สอด จังหวัดตาก
ตั้งกระทู้ใหม่