โรคที่มีโอกาสเป็นได้น้อยที่สุดบนโลก
1. โรคสโตนแมน (Fibrodysplasia Ossificans Progressiva - FOP)
โอกาสเกิด: ประมาณ 1 ใน 2 ล้านคน
รายละเอียด:
โรคนี้เกิดจากการกลายพันธุ์ในยีน ACVR1 ซึ่งควบคุมการเจริญเติบโตของกระดูก ทำให้เนื้อเยื่ออ่อน เช่น กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และเส้นประสาท กลายเป็นกระดูกทีละน้อย ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของร่างกายถูกจำกัด และอวัยวะที่สำคัญอาจถูกทำลายจนเสียชีวิต
ลักษณะเฉพาะ:
ผู้ป่วยมักเริ่มมีอาการตั้งแต่วัยเด็ก โดยเฉพาะที่บริเวณคอ ไหล่ และหลัง ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาที่หายขาด
2. โรคซีโรเดอร์มา พิกเมนโตซัม (Xeroderma Pigmentosum)
โอกาสเกิด: ประมาณ 1 ใน 1 ล้านคนในยุโรป และพบได้บ่อยกว่านั้นในญี่ปุ่น (1 ใน 20,000 คน)
รายละเอียด:
โรคนี้เกิดจากความผิดปกติของระบบซ่อมแซม DNA ทำให้ผิวหนังไวต่อรังสี UV อย่างมาก ผู้ป่วยที่ได้รับแสงแดดเพียงเล็กน้อยก็อาจเกิดแผลหรือมะเร็งผิวหนังได้
ลักษณะเฉพาะ:
อาการเริ่มต้นมักปรากฏตั้งแต่วัยเด็ก เช่น ผิวไหม้ง่าย จุดด่างดำ หรือการเสื่อมสภาพของดวงตา
การดูแล:
ผู้ป่วยต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยสิ้นเชิง และสวมเสื้อผ้าที่ปกป้องผิวหนังอย่างมิดชิด
3. โรคฮัทชินสัน-กิลฟอร์ด โพรเจเรีย (Hutchinson-Gilford Progeria Syndrome)
โอกาสเกิด: ประมาณ 1 ใน 4-8 ล้านคน
รายละเอียด:
โรคนี้เกิดจากการกลายพันธุ์ในยีน LMNA ซึ่งทำให้เซลล์เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ เด็กที่เป็นโรคนี้จะมีลักษณะชราตั้งแต่ยังเล็ก เช่น ศีรษะล้าน ผิวบาง และกระดูกเปราะ
ลักษณะเฉพาะ:
อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยอยู่ที่ประมาณ 13 ปี โดยมักเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ
ความก้าวหน้าทางการแพทย์:
การรักษาในปัจจุบันเน้นการบรรเทาอาการ เช่น การใช้ยาลดการอักเสบและยาที่ปรับปรุงระบบหลอดเลือด
4. โรคเมโธไซโทมา (Methaemoglobinaemia)
โอกาสเกิด: หายากมากในรูปแบบพันธุกรรม พบได้น้อยกว่า 1 ใน 1 ล้านคน
รายละเอียด:
เป็นโรคที่ร่างกายมีระดับเมโธฮีโมโกลบินในเลือดสูง ทำให้เลือดไม่สามารถจับออกซิเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผิวหนังของผู้ป่วยอาจมีสีออกน้ำเงินหรือม่วง
ลักษณะเฉพาะ:
รูปแบบพันธุกรรมที่พบได้น้อยที่สุดเกิดจากการกลายพันธุ์ในยีนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเอนไซม์ที่สำคัญต่อการแปลงฮีโมโกลบิน
การรักษา:
ใช้ยาเมทิลีนบลู (Methylene Blue) เพื่อช่วยลดระดับเมโธฮีโมโกลบินในเลือด
5. โรคเซ็นทรัล มิดไลน์ ซินโดรม (Central Midline Syndrome)
โอกาสเกิด: หายากมาก อาจพบ 1 ใน 10 ล้านคน
รายละเอียด:
โรคนี้เกี่ยวข้องกับความผิดปกติในกระดูกสันหลังส่วนกลาง (central axis) และระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดปัญหาด้านการพัฒนาร่างกายและสมอง
ลักษณะเฉพาะ:
ผู้ป่วยอาจมีภาวะร่างกายผิดรูป การเจริญเติบโตช้าหรือหยุดชะงัก และปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว
การดูแล:
มุ่งเน้นที่การฟื้นฟูร่างกายและปรับปรุงคุณภาพชีวิตผ่านกายภาพบำบัดและการรักษาตามอาการ
National Organization for Rare Disorders (NORD): rarediseases.org
Orphanet (Rare Diseases): orpha.net