รู้จักเกม FiveM! ทำไมดราม่าคนเลิกคบเพราะเกมนี้ถึงเกิดบ่อย?
รู้จัก GTA FiveM เกมยอดฮิตที่มาพร้อมดราม่าในโลกออนไลน์
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “เกม FiveM” หรือที่ชาวเกมเมอร์บ้านเราเรียกกันว่า “ไฟว์เอ็ม” กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีข่าวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคู่รักเกมเมอร์ที่ต้องยุติลงเพราะพฤติกรรมในเกมนี้ หรือแม้แต่ปัญหาดราม่าระหว่างผู้เล่นที่ลุกลามไปสู่ชีวิตจริง
FiveM คืออะไร? เหตุใดถึงสร้างปัญหาและดราม่าในความสัมพันธ์มากมาย วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักเกมนี้ให้ครบทุกมิติ ตั้งแต่ที่มา วิธีการเล่น ไปจนถึงเหตุผลว่าทำไมเกมนี้ถึงมีภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดีในสายตาคนทั่วไป
FiveM คืออะไร?
FiveM ไม่ใช่เกมที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่จากศูนย์ แต่เป็นหนึ่งใน MOD (Modification) ที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับเกมดังระดับโลกอย่าง Grand Theft Auto V (GTA V) ซึ่งเป็นเกมแนวโอเพ่นเวิลด์ยอดนิยมที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2013 และถูกพอร์ตลงสู่ PC อย่างเป็นทางการในวันที่ 14 เมษายน 2015
ใน GTA V ผู้เล่นจะได้รับบทบาทเป็นตัวละครในโลกสมมุติที่จำลองบรรยากาศคล้ายกับประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีจุดเด่นที่อิสระในการเล่น ผู้เล่นสามารถเลือกเดินเส้นทางของตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นเจ้าพ่ออาชญากร หรือการทำงานสุจริตเพื่อสร้างชีวิตที่มั่นคง
เมื่อเข้าสู่โหมด GTA Online เกมจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถเชื่อมต่อกับผู้เล่นคนอื่น ๆ ผ่านภารกิจต่าง ๆ ทว่าด้วยความเป็นเกมพีซี ผู้เล่นหลายคนจึงเริ่มสร้าง MOD ขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลงไฟล์เกมให้แตกต่างจากเดิม ซึ่ง FiveM ก็คือหนึ่งใน MOD ที่โด่งดังที่สุดในปัจจุบัน
FiveM กับความแตกต่างจาก GTA Online
FiveM เป็น MOD ที่ให้ผู้เล่นสามารถเปิดเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวสำหรับเล่นออนไลน์ร่วมกับคนอื่นได้ ซึ่งแตกต่างจาก GTA Online ตรงที่ผู้เปิดเซิร์ฟเวอร์สามารถตั้งกฎเกณฑ์หรือปรับแต่งระบบการเล่นได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มระบบแต่งงาน การตั้งกฎหมายในเกม หรือแม้แต่การจำลองบทบาทสมมุติที่เรียกว่า Roleplay
Roleplay: หัวใจของ FiveM
หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ FiveM เป็นที่นิยมในหมู่ผู้เล่นชาวไทยคือโหมด Roleplay หรือการเล่นบทบาทสมมุติ โดยผู้เล่นจะต้องสวมบทบาทเป็นตัวละครที่ได้รับมอบหมายมา เช่น ตำรวจ แพทย์ นักข่าว หรือประชาชนทั่วไป และปฏิบัติหน้าที่ในเกมให้เหมือนกับโลกจริงที่สุด
ในเกม FiveM จะมีคำศัพท์สำคัญที่ผู้เล่นต้องเข้าใจ ได้แก่
IC (In Character): การแสดงบทบาทสมมุติในเกมตามตัวละครที่ได้รับ เช่น หากคุณเป็นตำรวจ คุณต้องทำหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิดตามกฎหมายในเกม
OOC (Out Of Character): ชีวิตจริงนอกจอเกม ซึ่งผู้เล่นต้องแยกแยะระหว่างชีวิตจริงกับตัวละครในเกมให้ได้
ปัญหาที่ตามมาจากการเล่น FiveM
แม้การเล่นเกมแบบ Roleplay จะดูสนุกและสร้างสรรค์ แต่ก็มีผู้เล่นบางกลุ่มที่อินกับบทบาทสมมุติมากเกินไปจนส่งผลกระทบต่อชีวิตจริง ตัวอย่างเช่น การแต่งงานในเกมที่ทำให้ผู้เล่นบางคนเกิดความรู้สึกผูกพันกับตัวละครของผู้เล่นคนอื่น และกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งในความสัมพันธ์ชีวิตจริง
กรณีตัวอย่างที่เป็นประเด็นใหญ่ในไทยคือการเลิกรากันของคู่รักเกมเมอร์ชื่อดัง “โปเต้” และ “แพทตี้” ซึ่งฝ่ายชายออกมาระบุว่าแฟนสาวมีพฤติกรรมนอกใจในเกม โดยมีการแอบสนิทสนมกับผู้เล่นคนอื่นในเซิร์ฟเวอร์ FiveM แม้แพทตี้จะออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีมือที่สาม แต่ยอมรับว่าตนเองติดเกมมากเกินไป
ทำไม FiveM ถึงมีภาพลักษณ์แง่ลบ?
1. ความอินเกินเหตุของผู้เล่น:
บางคนแยกแยะโลกสมมุติในเกมกับชีวิตจริงไม่ออก จนเกิดความขัดแย้งกับคนรอบข้าง
2. พฤติกรรมนอกใจในเกม:
FiveM มักมีระบบแต่งงานหรือความสัมพันธ์ในเกม ซึ่งบางครั้งทำให้ผู้เล่นเกิดความผูกพันกับตัวละครของผู้เล่นคนอื่น
3. สังคมในเกมที่มีความ Toxic:
ด้วยความที่เซิร์ฟเวอร์ FiveM เปิดให้ผู้เล่นตั้งกฎกันเอง บางครั้งสังคมในเกมจึงเต็มไปด้วยความขัดแย้ง การกลั่นแกล้ง หรือการใช้อำนาจในทางที่ผิด
4. อาชญากรรมทางไซเบอร์:
มีผู้ไม่หวังดีแฝงตัวเข้ามาในเกมเพื่อหลอกลวงผู้เล่นคนอื่น โดยเฉพาะเยาวชน
ข้อดีและข้อเสียของ FiveM
ข้อดี:
สร้างสรรค์: ผู้เล่นสามารถปรับแต่งระบบการเล่นได้อย่างอิสระ
สร้างความสนุก: Roleplay ช่วยให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ
สร้างชุมชน: FiveM เปิดโอกาสให้ผู้เล่นพบปะเพื่อนใหม่
ข้อเสีย:
มีความเสี่ยงต่อพฤติกรรมไม่เหมาะสม
ใช้เวลาเล่นมากเกินไปจนส่งผลต่อชีวิตจริง
สังคม Toxic อาจส่งผลกระทบต่อจิตใจผู้เล่น
FiveM เป็นเกมที่มีศักยภาพในการมอบความสนุกและความสร้างสรรค์ให้กับผู้เล่น แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาหากผู้เล่นขาดการแยกแยะระหว่างโลกเกมกับชีวิตจริง
หากคุณสนใจที่จะลองเล่น FiveM ควรเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจในบทบาทสมมุติ และเล่นเกมอย่างมีขอบเขต เพื่อให้เกมนี้เป็นเพียงกิจกรรมที่สร้างความ
สนุกโดยไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของคุณและคนรอบข้าง