หม่าล่า กินบ่อยๆ อันตรายต่อร่างกายหรือไม่?

หม่าล่า คือ พริกจากมณฑลเสฉวน ในประเทศจีน เคี่ยวกับน้ำมันจนทำให้เกิดสีสัน รสชาติที่เป็นรสชาติเผ็ดร้อนจนทำให้เกิดการชาแบบสะสมต่อเนื่องยาวนานที่บริเวณลิ้น หรือ บางครั้งเมื่อรับประทานหม่าล่าเข้าไปก็ทำให้เกิดความรู้สึกชาไปถึงคอกันเลยทีเดียว

กินผิดเสี่ยงอันตราย เสี่ยงเกิดโรค อะไรบ้าง 

• ปากและลิ้นเกิดการระคายเคือง เกิดจากรสชาติที่แสบร้อนจนทำให้เกิดอาการชาบริเวณผิว และ ผิวบริเวณแรก ๆ ที่สัมผัสเมื่อรับประทานอาหาร คือ ปากและลิ้น นั่นเอง

• อาการเสียดท้องอาการแสบร้อนกลางอก แน่นหน้าอก เกิดจากพริกในหม่าล่ามีสารแคปไซซินที่มีฤทธิ์เป็นกรด การที่มีปริมาณของกรดที่มากเกินไป โดยกรดเหล่านี้ถูกกระตุ้นออกมาได้จากการรับประทานหม่าล่า

• ท้องเสีย เหมือนการรับประทานอาหารที่มีรสชาติเผ็ดชนิดอื่น ๆ เกิดมาจากการตอบสนองของกลไกตามธรรมชาติของร่างกาย

• โรคกระเพาะ  เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบที่เกิดจากร่างกายได้รับสารแคบไซซินจากการรับประทานหม่าล่า กรดในกระเพาะอาหารและกรดจากอาหารรสเผ็ดที่รับประทานมากเกินไป อาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร และอาจทำให้เกิดความเจ็บปวดเมื่อกระเพาะอาหารเกิดการระคายเคืองจากอาหารรสเผ็ด 

• ตัวบวม  การรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดก็ทำให้ตัวบวมได้

• อาการคลื่นไส้หรืออาเจียน  เป็นอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้จากการที่ภายในระบบย่อยอาหารมีปริมาณของกรดที่เกินพอดี

• โรคภูมิแพ้จมูกจากอาหาร  พบได้น้อย แต่ยังสามารถพบได้ในผู้ที่รับประทานหม่าล่าในปริมาณที่เกินพอดี หรือ รับประทานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ

• โรคกรดไหลย้อน (GERD)  กรดไหลย้อนอาจทำให้ทางเดินอาหารระคายเคืองและอาจทำลายเยื่อบุหลอดอาหาร โดยเฉพาะหากรับประทานอาหารรที่มีรสเผ็ด อาจส่งผลให้เกิดอาการปวดท้องส่วนบนและเสียดท้อง

• อาการลำไส้แปรปรวน (IBS) การรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดมากเกินไปและเป็นเวลานานอาจมีความเสี่ยงในการเกิดอาการลำไส้แปรปรวนมากขึ้น รวมถึงอาจทำให้มีอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องร่วง และท้องผูกได้

พฤติกรรมการกินหม่าล่าแบบผิด ๆ

• การกินหม่าล่าทุกวัน  ทำให้ร่างกายโดยเฉพาะระบบย่อยอาหารเกิดการระคายเคืองอย่างต่อเนื่อง

• การซดน้ำหม่าล่าแบบเพียว ๆ  การรับประทานหม่าล่าแบบดั้งเดิมจะใช้น้ำซุปหม่าล่าในการลวกเนื้อให้สุกเท่านั้น ไม่ได้มีน้ำซุปสำหรับการซด โดยเฉพาะการซดน้ำซุปโดยตรงจะยิ่งทำให้เกิดการระคายเคืองที่รุนแรงขึ้น

กินหม่าล่ายังไงให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ

• เว้นช่วงการรับประทาน  การรับประทานสิ่งใดสิ่งหนึ่งติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไปก็นำมาซึ่งผลเสียต่อร่างกายได้ การรับประทานหม่าล่าอย่างปลอดภัย คือ การเว้นระยะการรับประทานในแต่ละครั้ง

• หลีกเลี่ยงการซดน้ำซุปหม่าล่าโดยตรง  หากต้องการซดน้ำซุปหม่าล่าควรผสมกับน้ำซุปชนิดอื่นก่อนซด

• เพิ่มสัดส่วนผัก  ในส่วนของเมนูปิ้งย่าง หรือ ชาบู ควรปรับเพิ่มสัดส่วนของผัด และ ลดสัดส่วนของเนื้อโดยเฉพาะเนื้อที่ติดมัน

• การเลือกเครื่องดื่ม  ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของ Alcohol หรือ เครื่องดื่มอัดแก๊ส เพราะเครื่องดื่มสองประเภทนี้สามารถเพิ่มอัตราการดูดซึมของระบบทางเดินอาหาร  ยิ่งไปเร่งการแพ้หรือระคายเคืองของหม่าล่าต่อระบบทางเดินอาหารได้ เครื่องดื่มที่เหมาะสมสำหรับดื่มคู่กับการรับประทานหม่าล่า คือ น้ำเปล่า หรือ เครื่องดื่มประเภทชา

• ปรุงอาหารอย่างพอเหมาะ  ในการปรุงหม่าล่าไม่ว่าจะเป็นเมนูปิ้งย่าง หรือ เมนูชาบู ไม่ควรที่จะปรุงหม่าล่าแบบเข้มข้นจัดจ้านจนเกินไป เพราะรสชาติของหม่าล่านี้มีความเข้มข้นในตัวอยู่แล้ว