YouTubeหรือติ๊กต๊อกทำสายไหนมีโอกาสดัง
1. Vlog ชีวิตประจำวัน
หลายคนเริ่มต้นจากการบันทึกชีวิตประจำวันของตัวเองและแชร์ประสบการณ์ในชีวิตที่ไม่ซับซ้อน ทำให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อมโยงและสนใจช่องที่เน้นความจริงใจและเรียบง่าย เช่น ช่องของ Casey Neistat ที่เริ่มต้นจากการทำ Vlog โดยใช้แค่กล้องและไอเดียในการเล่าเรื่อง
ข้อดี: ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ราคาแพงหรือสตูดิโอที่หรูหรา แต่ต้องมีความคิดสร้างสรรค์และบุคลิกที่โดดเด่น
2. รีวิวสินค้า/การทดลอง (Unboxing)
ช่องที่ทำการรีวิวสินค้าหรือทำการทดลอง (Unboxing) นั้นได้รับความนิยมสูงมาก โดยที่เริ่มต้นอาจจะมีแค่สมาร์ตโฟนกล้องธรรมดาในการถ่ายทำ ตัวอย่างเช่น Unbox Therapy ที่เริ่มต้นจากการรีวิวอุปกรณ์เทคโนโลยี โดยไม่มีสตูดิโอหรูหรา แต่กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ข้อดี: เพียงแค่มีสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่จะรีวิวก็สามารถเริ่มต้นได้เลย อีกทั้งการรีวิวเป็นวิธีที่ช่วยให้ผู้ชมตัดสินใจเลือกซื้อได้
3. เนื้อหาการศึกษา (How-To/Tutorial)
ช่องที่ให้ความรู้ในรูปแบบการสอนหรือแนะนำทักษะ เช่น การสอนการใช้ซอฟต์แวร์, การทำอาหาร หรือการฝึกภาษา ช่องแบบนี้สามารถเริ่มต้นได้ด้วยการอัดวิดีโอจากโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์
ข้อดี: การแชร์ความรู้เป็นสิ่งที่มีค่ามาก ผู้คนมักจะค้นหาความรู้และทักษะใหม่ๆ โดยช่องเหล่านี้สามารถเติบโตได้เร็วหากเนื้อหามีคุณภาพและเป็นประโยชน์
4. การทำคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับการบันเทิง (Comedy, Pranks, หรือ Challenges)
ช่องที่สร้างคอนเทนต์บันเทิง เช่น การทำคลิปตลก, การแกล้งเพื่อน (pranks), หรือการทำชาเลนจ์ต่างๆ ที่เป็นที่นิยมในช่วงเวลานั้น ตัวอย่างเช่นช่อง Dude Perfect ที่สร้างคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับความสนุกสนานและท้าทาย
ข้อดี: ช่องประเภทนี้สามารถดึงดูดผู้ชมได้มากและเติบโตได้เร็ว โดยไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์หรือการตั้งกล้องที่ซับซ้อน
5. ช่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยวหรือที่เที่ยวในท้องถิ่น
การแชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยวหรือการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ของตัวเอง โดยไม่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ ช่องนี้ยังคงได้รับความนิยมสูง ตัวอย่างเช่น The Tim Tracker ที่ทำการท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ โดยใช้อุปกรณ์ที่ไม่แพง
ข้อดี: สามารถทำได้จากการสำรวจและบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ซึ่งสามารถใช้เครื่องมือที่มีอยู่แล้วได้
6. ช่องเกี่ยวกับการเล่นเกม (Gaming)
การสร้างช่องที่เน้นการเล่นเกมและสตรีมมิ่งก็เป็นอีกอาชีพที่คนเริ่มต้นได้ง่ายๆ โดยใช้แค่คอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้วและเกมที่ตัวเองชอบ ตัวอย่างเช่น PewDiePie ที่เริ่มต้นจากการเล่นเกมและสร้างคอนเทนต์ที่แปลกใหม่
ข้อดี: ตลาดเกมมีผู้ชมจำนวนมาก และผู้ที่ทำการเล่นเกมก็สามารถสร้างฐานผู้ชมที่ใหญ่ได้ง่ายหากทำเนื้อหาที่สนุกสนานและน่าสนใจ
7. การทำอาหาร (Cooking)
ช่องที่ทำการสอนทำอาหารก็เป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเริ่มต้นได้จากการใช้กล้องมือถือและวัสดุที่มีอยู่ในบ้าน ตัวอย่างเช่น Binging with Babish ที่เริ่มต้นจากการทำคลิปสอนทำอาหารโดยใช้ทรัพยากรที่ไม่ต้องลงทุนสูง
ข้อดี: ผู้ชมสามารถเรียนรู้วิธีการทำอาหารใหม่ๆ ซึ่งเป็นเนื้อหาที่สามารถทำได้จากบ้าน
---
สรุป
การเลือกสายที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องลงทุนมาก ได้แก่ Vlog ชีวิตประจำวัน, รีวิวสินค้า, คอนเทนต์การศึกษา, หรือ การทำคอนเทนต์บันเทิง (Comedy, Challenges) เนื้อหาประเภทนี้สามารถเริ่มต้นได้ง่าย และสำคัญที่สุดคือต้องมีความสม่ำเสมอในการอัปโหลดและสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า ซึ่งจะช่วยให้ช่องเติบโตได้เร็วขึ้น
1. YouTube:
YouTube Creator Academy: แหล่งข้อมูลที่ช่วยสอนวิธีการสร้างและปรับปรุงช่อง YouTube อย่างมืออาชีพ
ช่อง Creator Tips หรือ YouTube Creators: ช่องเหล่านี้จะให้คำแนะนำการใช้เครื่องมือของ YouTube, การทำ SEO, การเพิ่มผู้ติดตาม, และอื่นๆ
ช่องที่มีคอนเทนต์เกี่ยวกับการทำ YouTube เช่น Think Media, Roberto Blake, หรือ Nick Nimmin ที่มักจะให้คำแนะนำและเคล็ดลับการเติบโตใน YouTube
2. TikTok:
TikTok Creator Portal: เป็นแหล่งข้อมูลอย่างเป็นทางการจาก TikTok ที่สอนวิธีการสร้างคอนเทนต์ที่ประสบความสำเร็จ และเรียนรู้ฟีเจอร์ต่างๆ
TikTok Trends: ติดตามเทรนด์ต่างๆ และเพลงที่กำลังได้รับความนิยมเพื่อให้คอนเทนต์ของคุณทันสมัย
Creator Tips: หลายบัญชีใน TikTok ที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการสร้างคอนเทนต์ เช่น @tiktoktips, @tiktokcreator
3. กลุ่ม Facebook และ Reddit:
กลุ่ม Facebook เช่น "YouTube Creators" หรือ "TikTok Creators" ที่รวบรวมผู้สร้างคอนเทนต์เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเคล็ดลับ
Reddit: subreddit ต่างๆ เช่น r/YouTube