เปิดความลับ “คุกตวลสเลง” คุกที่แสนจะหดหู่น้อยคนจะรู้จัก
**คุกตวลสเลง (Tuol Sleng Prison): สถานที่ทรมานของระบอบเขมรแดง**
**คุกตวลสเลง** หรือ **"S-21"** (Security Office 21) เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความหมายลึกซึ้งและสะท้อนความโหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศกัมพูชา ซึ่งถูกใช้โดยระบอบ **เขมรแดง** หรือ **Khmer Rouge** ระหว่างปี 1975-1979 ภายใต้การนำของ **โพล พอต** (Pol Pot) และกลุ่มผู้นำคอมมิวนิสต์ที่มีอุดมการณ์การปฏิวัติที่มุ่งเปลี่ยนแปลงสังคมกัมพูชาให้เป็นสังคมเกษตรกรรมตามแบบของลัทธิมาร์กซิสต์
ในระหว่างที่เขมรแดงปกครองกัมพูชา ประเทศประสบกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) และความทารุณกรรมที่ไร้มนุษยธรรม ซึ่งส่งผลให้ผู้คนจำนวนมหาศาลต้องเสียชีวิต ทั้งจากการฆาตกรรม การอดอาหาร การทำงานหนักเกินไป และการทรมานที่เกิดขึ้นในคุกตวลสเลง คุกแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความโหดร้ายในช่วงที่เขมรแดงมีอำนาจครอบงำประเทศ
### **การสร้างและจุดประสงค์ของคุกตวลสเลง**
คุกตวลสเลงเดิมเป็นโรงเรียนมัธยมที่ชื่อว่า **Tuol Svay Pray High School** ตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญ (Phnom Penh) เมืองหลวงของกัมพูชา ก่อนที่เขมรแดงจะเข้ามาควบคุมรัฐบาลในปี 1975 และเปลี่ยนโรงเรียนแห่งนี้ให้กลายเป็นสถานที่กักขังและทรมานนักโทษการเมือง
คุกตวลสเลงถูกใช้โดย **S-21** หน่วยข่าวกรองและหน่วยสืบราชการลับของเขมรแดง ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักโทษถูกกักขังและทรมานก่อนที่จะถูกสังหารหรือถูกส่งไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในที่อื่นๆ สถานที่แห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในกัมพูชา
### **การกักขังและการทรมานในคุกตวลสเลง**
คุกตวลสเลงไม่ได้ถูกใช้แค่เป็นสถานที่สำหรับการคุมขังนักโทษทั่วไป แต่ถูกใช้เป็นสถานที่ที่มีการสอบสวนและทรมานอย่างโหดร้าย นักโทษที่ถูกจับกุมที่นี่ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ถูกสงสัยว่ามีความเกี่ยวข้องกับฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง หรือเป็นผู้ที่อาจจะคัดค้านนโยบายของเขมรแดง โดยเฉพาะในกรณีของผู้ที่มีการศึกษาหรือมีตำแหน่งสูงในสังคม พวกเขาถูกจับกุมและมักจะถูกทรมานเพื่อบังคับให้สารภาพถึงความผิดที่ไม่ได้ก่อขึ้น
การทรมานที่เกิดขึ้นในคุกตวลสเลงมีหลายรูปแบบ เช่น การใช้ไฟฟ้าช็อต การตี การใช้สารเคมีและการหิ้วแขวน นักโทษส่วนใหญ่จะถูกทำให้เสียชีวิตจากการทรมานหรือถูกฆ่าโดยไม่มีการพิจารณาคดี การสอบสวนในคุกตวลสเลงมักจะเกี่ยวข้องกับการใช้การทรมานเพื่อบังคับให้นักโทษสารภาพสิ่งที่ไม่ได้ทำ การทรมานเหล่านี้ทำให้หลายคนต้องเสียชีวิตก่อนที่จะได้รับการพิจารณาคดีหรือมีโอกาสได้ยินเสียงของตนเองในกระบวนการยุติธรรม
### **ชีวิตในคุกตวลสเลง**
การกักขังในคุกตวลสเลงนั้นแสนทรมาน นักโทษที่ถูกจับจะถูกขังในห้องแคบๆ โดยมักจะไม่ได้รับการดูแลสุขภาพที่ดี และไม่ได้รับอาหารหรือการพักผ่อนที่เพียงพอ การขาดแคลนอาหารและการต้องเผชิญกับความเครียดจากการทรมานทางจิตใจทำให้นักโทษหลายคนไม่สามารถทนต่อสภาพที่โหดร้ายได้
นักโทษในคุกตวลสเลงมีจำนวนมากมาย บางรายถูกจับเพียงเพราะความผิดที่ไม่มีสาระ บางรายถูกจับเพียงเพราะอ้างว่าเป็นพวกที่มีแนวคิดต่อต้านหรือเป็น “ศัตรูของประชาชน” หลายคนถูกจับเพราะการให้ความช่วยเหลือแก่ฝ่ายคอมมิวนิสต์ในช่วงสงครามกลางเมือง หรือถูกสงสัยว่าอาจมีการเกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวที่ต่อต้านระบอบเขมรแดง
### **การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และการประหารชีวิต**
นักโทษที่ถูกคุมขังในคุกตวลสเลงมักจะถูกสังหารหลังจากถูกสอบสวนหรือถูกบังคับให้สารภาพ การฆ่าเหล่านี้มักเกิดขึ้นอย่างทารุณและไม่มีความยุติธรรม นักโทษจะถูกขนส่งไปยัง **"ฆ่าสถานที่"** ที่เรียกว่า **"Choeung Ek"** ซึ่งเป็นฟาร์มแห่งหนึ่งที่กลายเป็นที่สำหรับการประหารชีวิตและฝังศพของผู้เสียชีวิต
ตามรายงานจาก **คณะกรรมการพิเศษแห่งสหประชาชาติ** เกี่ยวกับความโหดร้ายของเขมรแดง จำนวนผู้ที่เสียชีวิตในคุกตวลสเลงมีมากถึงประมาณ **20,000 คน** ในช่วงสี่ปีที่เขมรแดงปกครอง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่โหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของกัมพูชา
### **การเปิดเผยและการฟื้นฟูประวัติศาสตร์**
หลังจากที่เขมรแดงถูกโค่นล้มในปี 1979 โดยการบุกรุกของเวียดนาม คุกตวลสเลงถูกทิ้งร้าง และสถานที่นี้ยังคงเก็บรักษาหลักฐานจากช่วงเวลาที่ผ่านไป นับตั้งแต่การยึดครองโดยเขมรแดงจนถึงการถอนตัวออกไป
ในปี 1980 คุกตวลสเลงเริ่มเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชม และในปี 1993 สถานที่นี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น **พิพิธภัณฑ์** และกลายเป็น **"พิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทวลสเลง" (Tuol Sleng Genocide Museum)** ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์การเรียนรู้และการเผยแพร่ความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาของการปกครองของเขมรแดง
พิพิธภัณฑ์นี้จัดแสดงภาพถ่ายของผู้ถูกทรมานและรายชื่อของนักโทษที่เสียชีวิต รวมถึงเครื่องมือที่ใช้ในการทรมานและขังนักโทษ นอกจากนี้ยังมีการบันทึกเรื่องราวของผู้รอดชีวิตที่สามารถหลบหนีออกมาได้ ซึ่งบางคนกลายเป็นผู้ให้ข้อมูลสำคัญในการสืบสวนหาความจริงเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และการกระทำทารุณที่เกิดขึ้นในกัมพูชา
### **ผลกระทบทางสังคมและการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม**
คุกตวลสเลงและการกระทำทารุณกรรมของเขมรแดงได้ทิ้งร่องรอยลึกไว้ในสังคมกัมพูชา ซึ่งยังคงส่งผลกระทบต่อประชาชนในประเทศนี้จนถึงปัจจุบัน ครอบครัวหลายครอบครัวต้องสูญเสียสมาชิกไป และหลายคนที่รอดชีวิตต้องเผชิญกับบาดแผลทางจิตใจจากความทรมานที่เคยประสบ
การสืบสวนหาความจริงและการนำผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำทารุณกรรมมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมยังคงดำเนินอยู่ในศาลระหว่างประเทศ ในกรณีของศาลระหว่างประเทศเพื่อคดีเขมร (ECCC) ซึ่งมีการพิจารณาคดีของผู้นำเขมรแดงหลายคนที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำทารุณกรรม
### **บทสรุป**
คุกตวลสเลงเป็นสถานที่ที่สะท้อนถึงความโหดร้ายและความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นในยุคที่เขมรแดงป