ดัง 15 นาที โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
“แอนดี้ วอร์ฮอล” ศิลปินพอพอาร์ตชื่อดัง เคยพูดไว้ว่า ในช่วงชีวิตของคนเรานั้น ทุกคนมีโอกาส “ดัง” อย่างน้อย 15 นาที
เขาพูดเรื่องนี้ในมุกตลก แต่ผมคิดว่าเป็นคำกล่าวที่คลาสสิก และมีความเป็นจริงอยู่มาก ผู้หญิงคนหนึ่ง ทำธุรกิจค้าขายเล็กๆ ไม่มีคนรู้จัก วันหนึ่งก็ดังไปทั่วประเทศและออกไปทั่วโลกด้วย เมื่อเธอทุบรถที่เพิ่งซื้อมาแล้วมีปัญหาไม่สิ้นสุด เธอดังเกิน 15 นาที แต่ไม่กี่วัน ตอนนี้ผมจำชื่อเธอไม่ได้แล้ว และเธอก็คงจะกลับไปใช้ชีวิตปกติ โอกาสที่จะกลับมาดังต่อเนื่องนั้นไม่ต้องพูดถึงนักร้อง นักแสดง เป็นร้อยเป็นพัน มีผลงานร้องเพลง 1-2 อัลบั้มหรือแสดงหนังเพียงไม่กี่เรื่องแล้วก็หายหน้าหายตาไป นี่ก็บรรลุสิ่งที่แอนดี้ วอร์ฮอลพูดแล้วคือดัง 15 นาที
ประเด็นก็คือ เขาเหล่านั้นอาจยังไม่โดดเด่นจริง แต่ด้วยสถานการณ์และความนิยมบางอย่างมาประจวบกับความพร้อมและความเหมาะสมของเขา ทำให้เขาดังขึ้นมาได้ในช่วงเวลาหนึ่ง
แต่นักร้องหรือดาราอย่าง “เบิร์ด” นั้น ความดังไม่ได้อยู่เพียงและบางคนเริ่มพูดว่าหมดสมัย ทว่าเบิร์ดก็กลับมาดังอีก เป็นอย่างนี้มา15 นาที แต่เป็น 15 ปี และมากกว่านั้น แม้ในบางช่วงจะเงียบลงไปบ้างหลายครั้ง
นี่คือคนที่มีความสามารถโดดเด่นจริงๆ และความดังไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคหรือสถานการณ์เฉพาะบางอย่างที่ทำให้คนบางคนดังขึ้นมาได้ในช่วงเวลาสั้นๆมีอยู่ตลอดเวลาที่คนบางคนดังเป็นข่าวพาดหัวหน้า 1 เพราะถูกลอตเตอรี่ได้เงินเป็นสิบล้าน หรือจับฉลากเปิดฝาจุกชาเขียวได้เงินเป็นล้าน พวกเขาดังและได้เงินกลายเป็นเศรษฐีย่อยๆ เป็นเวลา “15 นาที” หลังจากนั้น ผมไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าหลายคนก็ใช้หมดไปและโอกาสที่จะหาเงินเป็นล้านได้อีกก็ไม่ต้องสงสัย
สำหรับอาจารย์สุวรรณ ซึ่งเป็นนักกฎหมายภาษีชื่อดังจากฮาร์วาร์ดนั้น การทำเงินเป็นล้านเดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า เป็นสิ่งที่แน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย เรื่องของความดัง 15 นาทีนี้ ผมคิดว่าไม่ใช่เกิดขึ้นเฉพาะกับคนแต่กับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ด้วยว่าที่จริงการที่หุ้นทุกตัวจะมีโอกาส “ดัง 15 นาที” นั้น ผมคิดว่ามีสูงยิ่งกว่าคนเสียอีก เพียงแต่ว่านิยามของความดัง ผมอยากเปลี่ยนให้เป็นเรื่องของการทำเงินให้กับผู้ถือหุ้นพูดให้เข้าใจง่ายก็คือ หุ้นทุกตัวเมื่อเข้ามาจดทะเบียนซื้อขายในแค่ไหน ฐานะการเงินเป็นอย่างไร ผู้บริหารมีฝีมือหรือมีบรรษัทภิบาลเป็นตลาดหลักทรัพย์ ไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมไหน บริษัทมีกำไรมากน้อยอย่างไร ก็มีโอกาสที่คนบางคนที่เข้าไปซื้อหุ้นแล้ว ทำกำไรได้อย่างน่าประทับใจ อย่างน้อยก็ช่วงหนึ่งหรือ 15 นาทีนั้นจะมีเสมอ
ในประสบการณ์ที่อยู่กับตลาดหุ้นมานาน ผมเจอหุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นโดดเด่นเพราะเหตุผลบางอย่าง ในบางช่วงเวลา บางทีก็สั้นๆ เพียงไม่กี่วัน ส่วนใหญ่ก็ไม่กี่เดือน และบางตัวก็ไม่กี่ปีอยู่ตลอดเวลาในช่วงที่กำลังดังนั้น บางตัวก็ดังหรือหุ้นปรับตัวขึ้นไม่มาก แต่บางตัวก็ดังระเบิด นักลงทุนกล่าวขวัญกันมาก นักวิเคราะห์ต่างก็ออกบทวิจัยแนะนำให้ซื้อกันทุกสำนัก หุ้นขึ้นไปเป็นสิบเท่าภายในเวลาไม่กี่เดือนก็มีนักเล่นหุ้นที่เข้าไปร่วม “มหกรรม” ต่างก็ร่ำรวยกันทั่วหน้า
แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป โชคชะตาแปรผัน หรือว่าที่จริงก็คือกลับมาอยู่ในสภาวะปกติ หุ้นเหล่านั้นก็มักจะถอยกลับไปที่เดิม ซึ่งทำให้คนที่ “มาสาย” ขาดทุนเป็นจำนวนมากมาแล้ว ในไม่ช้าคนส่วนมากก็จะถือว่าครั้งหนึ่งหุ้นตัวนั้นเคย “ดังระเบิด”
ตรงกันข้าม หุ้นหลายตัวซึ่งก็คงคล้ายๆ กับคุณเบิร์ด หรืออาจารย์สุวรรณนั้นมีความสามารถ หรือมีคุณสมบัติโดดเด่นในตัวเอง หุ้นเหล่านี้เป็นของบริษัทที่มีความสามารถในการทำกำไรสูง ฐานะการเงินเข้มแข็ง ผลิตภัณฑ์มีความเข้มแข็งทางการตลาด ไม่ว่าจะโดยเครื่องหมายการค้าหรืออำนาจผูกขาดอย่างอื่น มีผู้บริหารที่มีความสามารถสูงและมีบรรษัทภิบาลที่ดี กิจการหลายอย่างมีการเติบโตสูงกว่าปกติมาก
ทั้งหมดนี้ ทำให้หุ้นเหล่านั้นโดดเด่นอยู่ได้ยาวนาน แม้ว่าบางช่วงเวลาอาจจะซบเซาลงบ้าง ด้วยเหตุผลหรือสภาพแวดล้อมบางอย่าง แต่ในระยะยาวแล้วพร้อมจะ “ดัง” ได้เสมอ
นักลงทุนที่จะประสบความสำเร็จได้ ผมคิดว่าจำเป็นที่จะต้องรู้ว่าหุ้นตัวไหนเป็นประเภทหุ้นดัง 15 นาที และหุ้นตัวไหนเป็นหุ้นที่ดังเพราะเป็นกิจการที่โดดเด่นแน่นอน นักลงทุนมีโอกาสรวยได้ในหุ้นทั้งสองแบบ แต่สำหรับผมแล้ว ผมชอบ “ถือหาง” บริษัทที่ดังเพราะ “เก่ง” มากกว่าดังเพราะ“เฮง” ครับ