รีวิวหนังดัง Joker: Folie à Deux โจ๊กเกอร์ โฟลีย์ อา เดอ
Folie à Deux คือภาวะโรคจิตเภทร่วมที่มีลักษณะของการถ่ายทอดอาการผิดปกติทางจิตให้กันได้ระหว่างคนสองคน นี่คือธีมหลักที่ใช้ถ่ายทอดในภาคนี้
เหตุการณ์สืบเนื่องจากภาคแรก Arthur Fleck บันดาลโทสะก่อเหตุยิงผู้ประกาศข่าวกลางรายการสดแบบ Hard Talk อย่าง Murray ตาย ทำให้ Arthur ตัดสินถูกจำคุกพร้อมกับอาการป่วยทางจิตที่เป็นไม่รู้จักหาย
เรื่องย่อ
Arthur Fleck ถูกขังในเรือนจำฐานฆ่าคน 5 คน โดยเฉพาะการฆ่า Murray Franklin กลางรายการสด เขาได้ถูกพัศดีคุมนักโทษอย่าง Jackie Sullivan และนั่นทำให้ Arthur ได้พบกับชมรมร้องเพลงของผู้ต้องขังโซน B โดยมี Lee Quinzel อยู่ในชมรมนั้น
เธอหลงรักเขา และเขาก็หลงรักเธอ จากเดิมที่เขาอยากตาย ตอนนี้เขาเปลี่ยนไป อยากมีชีวิตอยู่กับเธอ ไม่หดหู่เหมือนก่อน
การพิจารณาคดีในชั้นศาล Arthur ได้ Maryanne Stewart เป็นทนายว่าความให้ โดยผู้ช่วยอัยการอย่าง Harvey Dent ก็ดูแลคดีนี้เช่นกัน
นักแสดงนำ
- Joaquin Phoenix รับบทเป็น Arthur Fleck
- Lady Gaga รับบทเป็น Lee Quinzel
- Brendan Gleeson รับบทเป็น Jackie Sullivan
- Catherine Keener รับบทเป็น Maryanne Stewart
- Steve Coogan รับบทเป็น Paddy Meyers
- Harry Lawtey รับบทเป็น Harvey Dent
- Zazie Beetz รับบทเป็น Sophie Dumond
- Leigh Gill รับบทเป็น Gary Puddles
- Ken Leung รับบทเป็น Victor Liu
ความชื่นชอบและประทับใจของครีเอเตอร์
1.ทั้งที่ได้นักแสดงนำคนเดิม ผู้กำกับก็ยังเป็นคนเดิมอย่าง Todd Phillips แต่รูปแบบการถ่ายทอดกลับไม่ขลังเหมือนอย่างภาคแรก ทำไม ?...ก็เพราะมันมีความน่าเบื่อสูงมาก ในช่วงแรกเรายังรู้สึกถึงความทุกข์ของคนในเรือนจำ เราจึงอยากติดตาม แต่หนังกลับไม่ถ่ายทอดในแง่นั้นเลย ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายมาก หนังใช้การถ่ายทอดด้วยการร้องเพลงพรรณนาความคิด ความรู้สึกแทน
2.หนังใช้ความเป็น Musical ในการถ่ายทอดอารมณ์ของ Arthur และ Lee ซึ่งทั้งคู่ก็ร้องเพลงได้ดีไม่ได้รู้สึกติดขัดแต่อย่างใด เช่นเดียวกับทักษะการแสดง เพราะทั้งคู่ก็มีความสามารถอยู่แล้ว โดยเฉพาะ Lady Gaga ที่รับบทเป็น Lee ที่เป็นนักร้องอยู่ก่อนแล้ว แต่คนที่ไม่ชอบหนังแนว Musical ก็จะไม่ชอบเรื่องนี้ด้วยเหตุผลประการหนึ่ง
3.ความน่าเบื่อของหนังคือขาดประเด็นให้อยากติดตาม ความง่วงของคนดูจึงเข้ามาเยือน แม้หนังพยายามชูประเด็นสำคัญเข้ามาบ้างแล้ว แต่ไม่มีน้ำหนักมากพอ ต่างจากภาคแรกที่เหตุการณ์แต่ละฉากมีที่มาที่ไป...ส่งผลให้เกิดเหตุถัดไปที่สำคัญ คนดูจึงอยากติดตาม
4.การแสดงของ Joaquin Phoenix และ Lady Gaga ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด แม้ทิศทางของเรื่องจะมีความต่างจากภาคที่แล้วอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
5.ฉากร้องเพลงเกิดขึ้นจากภาพในหัว สิ่งที่ตัวเอกคิดในใจ ทำให้ฉากร้องเพลงเป็นองค์ประกอบหลักเหมือน MV เพลงที่มีหลายบริบทเหมือนหนัง Disney สิ่งนี้หนังทำได้ดี ถ้าคนชอบก็จะรักเลยทีเดียว สิ่งนี้ทำให้หนังไม่หดหู่เหมือนอย่างภาคแรก แต่ทิศทางการนำเสนอก็แตกต่างสุดขั้วด้วยเช่นกัน
6.ต้องเข้าใจเรื่องราวในภาคแรกก่อน ถึงจะสนุกได้บ้างในภาคนี้ โดยเฉพาะที่ว่าความพิจารณาคดีในชั้นศาลจนทำให้เราเองอดสงสัยไม่ได้ว่าหนังจะจบลงที่ตรงไหน ใครที่ไม่เคยดูภาคแรกมาก่อนจะงงกับพยานที่ให้การในชั้นศาลและลงเอยที่ความง่วงทั้งเรื่องได้เลย
7.สิ่งที่ครีเอเตอร์รู้สึกได้คือหนังพยายามสะท้อนให้เห็นว่า คนที่ทำผิดถึงระดับคดีอาญามักจะลงเอยไม่สวย และมีบางสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าชีวิตมีอะไรให้น่าเสียดายหลงเหลืออยู่ ทั้งๆที่ตอนมีชีวิตปกตินอกเรือนจำกลับมีเหตุให้รู้สึกว่าชีวิตไม่มีอะไรจะให้เสีย และนี่คือความตลกร้ายของชีวิตเสมอ
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
กัมพูชา ส่งจดหมายถึงทั่วโลก ลั่นไม่ได้อ่อนแอ แต่ถูกไทยบีบให้จนมุม
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคต
มิตรภาพใต้สมุทร เมื่อ "วาฬเพชฌฆาต" จับมือ "โลมา" ร่วมทีมล่าล่าเหยื่อ
ดีเจสาวแซ่บผันตัวเป็นนางเอก AV..เหตุเพราะดูหนังโป๊ญี่ปุ่นมาตั้งแต่เด็ก
เปิดเบื้องลึก "Hiiragi Yuki" นางเอก AV คัพ D ที่งานหดเพราะรอยสัก โดยกูรูชี้ว่าวงการนี้ไม่ใช่แค่การยอมเปลืองตัวเพื่อความร่ำรวย.
นางเอก AV "จื่อเซวียน" เปลี่ยนตัวเองเป็นจิตอาสาช่วยผู้พิการในด้านอารมณ์ทางเพศ.
ฮือฮา! "DJ Sakura Soh" สาวแซ่บจากสิงคโปร์ ผันตัวเข้าวงการ AV ญี่ปุ่น ยอมปกปิดรอยสักทั้งตัวเพื่อเดบิวต์





