เขียนโดย: Boss Panuwat
หากพูดถึงเมาคลี (Mowgli) หลายคนอาจนึกถึงตัวละครจากการ์ตูนของดิสนีย์ แต่ความจริงแล้วเมาคลีไม่ได้เป็นแค่ตัวละครในจินตนาการ เขามีต้นแบบมาจากชายคนหนึ่งที่มีชีวิตที่แสนจะน่าทึ่ง—Dina Sanichar เด็กชายที่ถูกเลี้ยงดูโดยหมาป่าในป่าของรัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย จนกระทั่งในปี 1867 เขาถูกพบโดยนักล่าและนำตัวไปยังสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า
Dina Sanichar หรือที่ถูกเรียกว่าชายที่ถูกเลี้ยงดูโดยหมาป่า มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความท้าทายตั้งแต่แรกเกิด เขาถูกพบในป่าลึกของอินเดีย โดยนักล่าและถูกพาไปยังสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ซึ่งในตอนนั้นเขามีอายุราวๆ 6 ปี ชีวิตของเขาไม่เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ที่เคยถูกเลี้ยงดูในสังคมมนุษย์ ทักษะพื้นฐานที่เด็กทั่วไปควรเรียนรู้กลับไม่เคยได้สัมผัส
เมื่อเขาถูกพาไปยังสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ชีวิตของเขาถูกมองว่าเป็นกรณีพิเศษและไม่เหมือนใคร สำหรับพวกมิชชันนารีที่ดูแลเขา พวกเขาพยายามสอนเขาทักษะพื้นฐานของมนุษย์ เช่น การเดิน และการพูด แต่ความแตกต่างระหว่างพฤติกรรมมนุษย์และสัญชาตญาณสัตว์นั้นยากเกินกว่าที่ Dina จะสามารถปรับตัวได้
ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าซิคันดรา (Sikandra Mission Orphanage) Dina ได้รับชื่อใหม่ว่า "เด็กชายหมาป่า" (Wolf Boy) ชื่อนี้ถูกตั้งขึ้นเพราะพวกมิชชันนารีเชื่อว่าเขาถูกเลี้ยงดูโดยสัตว์ป่าและไม่มีการติดต่อกับมนุษย์มาก่อน ตามการบอกเล่าของพวกเขา พฤติกรรมของ Dina ดูเหมือนจะมีความเป็นสัตว์มากกว่ามนุษย์ เขาชอบเดินด้วยสี่ขาและไม่สามารถยืนได้ด้วยสองขาของตัวเอง
นอกจากนี้ เขามีพฤติกรรมแปลกประหลาดอื่นๆ ที่ดูเหมือนกับสัตว์ป่า เช่น การกินเนื้อดิบ และการเคี้ยวกระดูกเพื่อให้ฟันแหลมคมเหมือนหมาป่า ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงพฤติกรรมที่ไม่ใช่ของมนุษย์ที่พวกมิชชันนารีพยายามอธิบาย
เรื่องราวของ Dina Sanichar นั้นไม่เหมือนกับตัวละครเมาคลีในเวอร์ชั่นของดิสนีย์ที่มีชีวิตดีขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่กลับเป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่พยายามหาทางเข้าใจความเป็นมนุษย์หลังจากถูกเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสัญชาตญาณของสัตว์ป่า ถึงแม้เขาจะไม่ได้พัฒนาไปถึงจุดที่เหมือนกับมนุษย์ทั่วไป แต่การมีชีวิตรอดในป่าและการค้นพบความเป็นมนุษย์ของเขายังคงเป็นเรื่องที่น่าทึ่งและคุ้มค่าที่จะศึกษาต่อไป
ถึงแม้ว่าชีวิตของเขาจะไม่ได้สิ้นสุดในแบบที่เราคิดว่าเขาจะเป็นเหมือนเมาคลีในการ์ตูน แต่เรื่องราวของ Dina Sanichar ก็ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากในการปรับตัวของมนุษย์ในสังคมที่แตกต่างออกไป และเป็นการยืนยันว่าบางสิ่งบางอย่างในชีวิตไม่สามารถเรียนรู้ได้จากการศึกษาเพียงอย่างเดียว แต่มันต้องการเวลาและความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง