หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

สิ่งมหัศจรรย์ของเห็ด Clathrus ruber: สู่โลกของ "มเหสีหมัก" ที่มีรูปร่างแปลกตาและกลิ่นเหม็น

เนื้อหาโดย Boss Panuwat

ผู้เขียน: Boss Panuwat

อะไรคือ Clathrus ruber?

Clathrus ruber เป็นชนิดของเห็ดในตระกูล Phallaceae และเป็นชนิดตัวอย่างของสกุล Clathrus เห็ดนี้ได้รับความนิยมในชื่อสามัญต่างๆ เช่น "ลัทติสติกสติ้งฮอร์น" หรือ "มเหสีหมัก" ซึ่งมาจากรูปร่างผลของมันที่คล้ายลูกบอลหรือทรงกลมที่มีโครงลวดหรือโครงตาข่ายเป็นลักษณะเด่น เห็ดชนิดนี้เป็นซาโปรบิก ซึ่งหมายถึงมันจะอาศัยและย่อยสลายพืชที่เน่าเปื่อย เช่น ซากไม้เพื่อหาอาหาร และมักจะพบเป็นกลุ่มเดี่ยวหรือหลายตัวในพื้นที่ที่มีใบไม้หล่นหรือบนดินในสวน

การแพร่กระจายและประวัติของ Clathrus ruber

ถึงแม้ว่าเห็ด Clathrus ruber จะถือเป็นสายพันธุ์หลักในยุโรป แต่ตอนนี้มันถูกแพร่ขยายไปยังทวีปต่างๆ และสามารถพบได้ทุกทวีปยกเว้นแอนตาร์กติกา เห็ดชนิดนี้ถูกอธิบายในวงวิทยาศาสตร์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 แต่ไม่ถูกอธิบายอย่างเป็นทางการจนกระทั่งปี 1729

ลักษณะของผลเห็ด

ผลเห็ดเริ่มต้นจากลักษณะเหมือน "ไข่" สีขาวที่เชื่อมโยงกับพื้นดินโดยมีเส้นใยที่เรียกว่า Rhizomorphs ไข่เหล่านี้จะมีเปลือกบางๆ คล้ายหนังที่หุ้มเซลล์ตาข่ายซึ่งห่อหุ้มสารพิษที่เรียกว่า "Gleba" ซึ่งมีสีเขียวมะกอกและมีความสามารถในการป้องกันการเจริญเติบโตของผลเห็ดในระยะเริ่มต้น เมื่อไข่แตกออก ผลเห็ดจะขยายตัวและเนื้อ Gleba จะถูกยกขึ้นมาในโครงตาข่ายที่เป็นช่องตาข่ายชั้นใน

สีและกลิ่นของผลเห็ด

ผลเห็ด Clathrus ruber สามารถเติบโตจนมีความสูงถึง 20 เซนติเมตร โดยสีของมันสามารถเปลี่ยนแปลงจากสีชมพูไปสู่สีส้มถึงแดง ซึ่งสาเหตุหลักมาจากสารสีในกลุ่มคาโรทีนอยด์ เช่น ไลโคปีนและเบต้า-แคโรทีน ส่วน Gleba ของมันมีกลิ่นเหม็นเหมือนเนื้อเน่าซึ่งดึงดูดแมลงและแมลงวันเพื่อช่วยในการแพร่กระจายของสปอร์

ความเป็นพิษของ Clathrus ruber

แม้ว่าความสามารถในการบริโภคเห็ด Clathrus ruber จะยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างชัดเจน แต่กลิ่นเหม็นของมันทำให้ผู้คนส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงการรับประทาน เห็ดชนิดนี้ไม่ค่อยได้รับการยกย่องในตำนานของยุโรปตอนใต้ ซึ่งบางตำนานกล่าวว่าผู้ที่สัมผัสเห็ดอาจเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยหรือมีอาการแปลกประหลาด

บทความนี้จัดทำโดย Boss Panuwat

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง:

  • เห็ด Clathrus ruber
  • ลักษณะเห็ดรูปร่างแปลก
  • เห็ดกลิ่นเหม็น
  • ประวัติศาสตร์ของ Clathrus ruber
เนื้อหาโดย: Boss Panuwat
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Boss Panuwat's profile


โพสท์โดย: Boss Panuwat
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: เป็ดปักกิ่ง
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
นรกแตกก่อนวันเซ็นสัญญา F16 ไทยบึ้มสะพาน คืนหมาหอน "ฮุนเซน" อกแตก แพ้หมดรูป จำยอมเซ็นสงบศึกเขมรขอถก JBC ด่วน ยันไม่รับเส้นเขตแดน จากการใช้กำลังของไทยเจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้ท่านอนคว่ำ ยกมือขึ้นเหนือศีรษะ พาเข้าโหมดฝัน18+มากที่สุดความเชื่อที่ไม่ควรทำในวันปีใหม่ เพื่อการเริ่มต้นที่ราบรื่นและมีชัยไปกว่าครึ่ง...สายมูต้องห้ามพลาดนักแสดงดังชาวไต้หวัน "เฉา ซีผิง" ถูกพบเสียชีวิตที่บ้านน้ำแข็ง ทิพวรรณ ลูกทุ่งสาวอินดี้ เกิดอุบัติเหตุ ควันเต็มรถจนแพนิกหายใจไม่ออกสาวรายหนึ่งตั้งคำถามเกี่ยวกับชีวิตคู่ หลังสามีตั้งชื่อลูกสาวตามชื่อแฟนเก่า ซึ่งเคยคบกันนาน 7 ปี โดยเธอสงสัยว่าสามารถฟ้องหย่าได้หรือไม่ภาพนี้ที่รอคอย !!! ทหารไทยนำตู้คอนเทนเนอร์ไปวางกั้นพรมแดนบ้านหนองจาน ตามเส้นเขตแดน 1:50000 เป็นที่เรียบร้อยกรมควบคุมโรค เตือนประชาชนช่วงปีใหม่นี้ หลีกเลี่ยงการกินหมูดิบหรือสุก ๆ ดิบ ๆ เสี่ยงป่วยโรคไข้หูดับ (ไข้หมูดิบ)ถอนรากถอนโคน! บ้าน “กำนันลี” ตัวการฮุบที่ดินชาวบ้านหนองจานข่าวด่วน...ไทยส่งคืน 18 เชลยศึกกลับเขมรแล้ว
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
วันที่ทองคำราคาไม่ถึงบาทละ500หนุ่มจีนวัย 26 ปี แกะสลัก “รถไม้ทั้งคัน” วิ่งได้จริง แรงบันดาลใจจากลัมโบร์กินีกรมควบคุมโรค เตือนประชาชนช่วงปีใหม่นี้ หลีกเลี่ยงการกินหมูดิบหรือสุก ๆ ดิบ ๆ เสี่ยงป่วยโรคไข้หูดับ (ไข้หมูดิบ)ตำนานงูบองหลา งูทวดตาหลวงรอง แห่งวัดโลการาม4 สิ่งที่ควรทำให้กับตัวเองในอดีต เป็นการบอกลาปีเก่า และ 4 สิ่งที่ควรทำเพื่อต้อนรับสิ่งดี ๆ ในปีใหม่
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
สู้ชีวิตฉบับพุทธ – จะพ้นทุกข์ได้ ใจมันต้องสู้ (สร้างกับ เอไอ)ทำไมเก้าอี้ในโรงหนังต้องเป็นสีแดง..ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่หลักวิทย์ล้วนๆกระดูกครีบวาฬ เหมือนแขนมนุษย์มาก หลักฐานวิวัฒนาการที่เห็นได้ชัดๆ“มาม่า” จาก “เอกลักษณ์ท้องถิ่น” สู่ “ความฟินระดับโลก”
ตั้งกระทู้ใหม่