เมืองลับแลบ้านท่าต้นจันทร์
ตอนที่ 1: การเดินทางที่ไม่คาดคิด
ในเมืองใหญ่แห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย "นวล" สาววัย 25 ปีที่ทำงานเป็นนักข่าวสาว ได้รับภารกิจให้ไปค้นหาข่าวในพื้นที่ชนบทที่ห่างไกล จากการเชิญชวนของผู้บังคับบัญชาให้เธอไปสำรวจหมู่บ้านที่ไม่เคยมีข่าวการเดินทางของนักข่าวมาก่อน ซึ่งในเอกสารเขียนว่า "บ้านท่าต้นจันทร์" เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยตำนานและเรื่องเล่าขานเก่าแก่ที่ไม่มีใครกล้าเข้าไป
บ้านท่าต้นจันทร์ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาที่ห่างไกล จากเมืองใหญ่หลายร้อยกิโลเมตร เป็นหมู่บ้านที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึง และดูเหมือนจะถูกลืมไปจากโลกภายนอก ทว่าในตำนานมีการกล่าวถึง "เมืองลับแล" ที่อยู่ลึกเข้าไปในเขตบ้านท่าต้นจันทร์ ซึ่งเต็มไปด้วยความลึกลับและความลับที่ไม่เคยเปิดเผย
นวลรู้สึกท้าทายและตัดสินใจเดินทางไปที่หมู่บ้านนั้น แม้ว่าในใจเธอจะเต็มไปด้วยความสงสัยและความกลัวเล็กน้อย แต่ในฐานะนักข่าว เธอมั่นใจว่าการหาคำตอบจากเรื่องนี้จะเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง
ตอนที่ 2: ความลับของบ้านท่าต้นจันทร์
เมื่อเธอมาถึงบ้านท่าต้นจันทร์ในเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้าครึ้มและฝนเริ่มตกโปรยปราย หมู่บ้านที่ดูเหมือนจะปกติในตอนแรก กลับเต็มไปด้วยความเงียบสงบ และสิ่งแปลกปลอมที่นวลไม่สามารถอธิบายได้ทันที บ้านเรือนในหมู่บ้านส่วนใหญ่สร้างจากไม้เก่าๆ บางหลังดูเหมือนจะถูกทิ้งร้างไปหลายปี เสียงลมพัดผ่านทุ่งหญ้าก็ดังก้องไปในท้องฟ้า ขณะที่นวลเดินสำรวจรอบๆ หมู่บ้าน
เธอได้พบกับ "ลุงพิน" ชายชราผู้ดูเหมือนจะเป็นผู้เฒ่าของหมู่บ้าน ลุงพินบอกว่า "เมืองลับแลนั้นไม่ใช่ที่ที่คนทั่วไปจะเข้าไปได้ง่ายๆ หากไม่รู้ทางหรือไม่มีใครพาเข้าไป มันจะหายไปเองในท่ามกลางป่าแห่งนั้น" นวลรู้สึกทึ่งและอยากจะรู้เพิ่มเติม แต่ลุงพินก็แนะนำให้เธอระวังตัว เพราะหลายคนที่เคยไปที่นั่นกลับมาแล้วไม่เหมือนเดิม หรือหายไปเลยก็มี
นวลไม่เชื่อในเรื่องเล่าลือพวกนั้น และตัดสินใจจะหาคำตอบให้ชัดเจน เธอตามลุงพินไปที่บ้านหลังหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นศูนย์กลางของหมู่บ้าน ลุงพินพาเธอไปยังห้องหนึ่งที่เต็มไปด้วยภาพเก่าๆ และของโบราณที่ดูแปลกตา
"ทุกสิ่งในห้องนี้คือเครื่องมือที่เคยใช้ในการเข้าไปในเมืองลับแล" ลุงพินอธิบาย "แต่ละคนที่มาที่นี่ต้องพกสิ่งเหล่านี้เพราะมันจะช่วยปกป้องไม่ให้เราหลงทางในเขตที่ไม่มีการกลับมา"
ตอนที่ 3: การเดินทางสู่เมืองลับแล
ในคืนนั้นเอง หลังจากที่นวลรับรู้เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ของหมู่บ้าน ท้องฟ้าก็เริ่มมีแสงจันทร์ส่องสว่างขึ้น นวลตัดสินใจว่าเธอจะต้องไปดูเมืองลับแลด้วยตัวเอง เธอออกเดินทางไปพร้อมกับเครื่องมือที่ลุงพินให้มา ซึ่งมีผ้าห่มเก่าๆ และเหรียญทองที่ลุงพินบอกว่าเป็นสัญลักษณ์ที่จะทำให้เธอปลอดภัย
เมื่อเดินลึกเข้าไปในป่าที่เต็มไปด้วยความหนาวเหน็บและความมืดมิด นวลเริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศที่แปลกประหลาด เสียงใบไม้กรอบๆ ที่ขยับไปตามสายลมทำให้เธอไม่มั่นใจในทุกก้าวเดิน แต่เธอก็ไม่ยอมถอย
เมื่อถึงจุดหนึ่ง เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเธอเดินเข้าสู่พื้นที่ที่ไม่ใช่โลกธรรมดา เส้นทางที่เธอเดินมาเริ่มหายไป ภาพต่างๆ รอบตัวเธอเริ่มเปลี่ยนไป เธอเห็นเมืองเล็กๆ ปรากฏขึ้นในที่ราบห่างไกล มันดูเหมือนเมืองเก่าแก่ที่ถูกลืมไปนานแล้ว ทุกอย่างในเมืองนี้มีความลึกลับและมืดมน
ตอนที่ 4: เมืองที่ไม่มีเวลา
เมืองลับแลดูเหมือนจะไม่ใช่เมืองที่คนธรรมดาจะพบได้ ที่นี่เต็มไปด้วยบ้านเรือนที่เก่าแก่ แต่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ มีแต่ความเงียบและหมอกที่ลอยไปมาอย่างไม่รู้จักทิศทาง
นวลเดินไปตามถนนที่เต็มไปด้วยเศษหินและซากไม้แห้ง จนกระทั่งเธอพบกับประตูใหญ่ที่ดูเหมือนจะเป็นทางเข้าไปในใจกลางเมือง ตรงนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ นวลรู้สึกว่าเธอคุ้นเคยกับหญิงสาวนี้ แต่ไม่สามารถจำได้ว่าเคยเจอที่ไหน
"ยินดีต้อนรับสู่เมืองลับแล" หญิงสาวกล่าวเสียงแผ่ว "ที่นี่เป็นเมืองที่ไม่มีเวลา ทุกคนที่เข้ามาจะหลงอยู่ในนี้ไปตลอดกาล เว้นแต่...จะมีใครที่สามารถหาทางออกได้"
หญิงสาวยิ้มและหายตัวไปในทันที ทิ้งนวลยืนอยู่ในความมืดสงัด นวลรู้ตัวว่าเธอกำลังอยู่ในสถานที่ที่ไม่มีทางหนีออกไปได้แล้ว
ตอนที่ 5: การเลือกที่จะกลับบ้าน
นวลได้ตระหนักว่าเมืองลับแลนั้นไม่ใช่เพียงแค่เมืองที่หลงทาง แต่มันคือที่ที่ผู้คนต้องตัดสินใจว่าจะอยู่ต่อไปหรือจะเลือกที่จะออกจากที่นี่ ทุกคนในเมืองนี้มีทางเลือกเพียงหนึ่งเดียวที่จะกลับไปยังโลกปกติ และทางเลือกนั้นคือการยอมรับความจริงในชีวิต
นวลเลือกที่จะกลับออกจากเมืองลับแล เธอใช้เหรียญทองที่ลุงพินให้ไว้และร่ายคำคาถาที่ช่วยให้เธอกลับมาในโลกของความเป็นจริง เมื่อเธอก้าวออกจากเมืองลับแล ความมืดในป่าก็เริ่มเบาบางลง และหมู่บ้านท่าต้นจันทร์กลับมาสู่ความสงบสุขเหมือนเดิม
ในที่สุด นวลกลับไปยังเมืองใหญ่ และรายงานเรื่องราวทั้งหมดให้กับบรรณาธิการของเธอ แต่เรื่องราวของเมืองลับแลและบ้านท่าต้นจันทร์ยังคงอยู่ในใจเธอตลอดไป—เป็นความลับที่ไม่มีวันถูกเปิดเผยแก่ใคร...
ภาพถ่ายโดย Monika Novak: https://www.pexels.com/th-th/photo/29508745/