เสียงเพรียกจากอาคารร้างกลางป่า
กลางป่าทางภาคเหนือของประเทศไทย มีอาคารร้างหลังหนึ่งซ่อนอยู่ในเงาไม้ใหญ่ หลายปีที่ผ่านมา อาคารนี้เป็นหัวข้อของเรื่องเล่าสยองขวัญที่คนในพื้นที่ต่างหวาดกลัว เล่ากันว่าที่นี่เคยเป็นโรงพยาบาลจิตเวชเก่าที่ปิดตัวอย่างกะทันหันหลังเกิดเหตุการณ์ประหลาดที่ไม่มีใครอธิบายได้ บางคนพูดถึงเสียงกระซิบยามค่ำคืนที่สามารถดึงคนเข้าไปในความมืด ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร แต่มีคนหายตัวไปในป่านี้บ่อยครั้ง และไม่มีใครกลับออกมาได้เลย
มายด์, ก้อย, พีท, และเต้ เป็นกลุ่มเพื่อนที่ชอบสำรวจสถานที่ลึกลับเพื่อถ่ายวิดีโอลงช่องยูทูบของพวกเขา คืนนี้ พวกเขาตัดสินใจเดินทางไปยังอาคารร้างที่มีชื่อเสียงในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ก้อยเป็นคนเล่าเรื่องราวตำนานที่ได้ยินมา
“เขาบอกว่ามีเสียงกระซิบที่ทำให้คนคลั่งจนฆ่าตัวตายได้” ก้อยเล่า พลางเปิดแผนที่
“ก็แค่เรื่องหลอกเด็กน่ะ” มายด์พูดเสียงดัง “เราจะพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่มีอะไรน่ากลัว แค่ถ่ายให้คนดูเยอะๆ ก็คุ้มแล้ว!”
พีทที่เป็นคนขี้กลัวที่สุดในกลุ่ม ถอนหายใจ “ฉันว่าเราควรคิดให้ดีกว่านี้นะ ทำไมต้องเลือกที่แบบนี้ด้วย…”
แต่ไม่มีใครฟัง พวกเขายังคงเดินทางต่อไป
เมื่อถึงที่หมาย ความรู้สึกอึดอัดก็เริ่มเข้ามาทันที อาคารร้างตั้งตระหง่านอยู่กลางป่าที่มืดมิด แม้จะอยู่ต่อหน้ากัน แต่มันกลับดูเหมือนอยู่คนละโลก
“ไปกันเถอะ” มายด์ยิ้ม พลางเปิดกล้องถ่ายวิดีโอ
พวกเขาเดินเข้าไปในตัวอาคาร ทันทีที่ก้าวผ่านประตู เสียงรอบข้างทั้งหมดหายไป ไม่มีเสียงลม ไม่มีเสียงแมลง มันเงียบจนทุกคนรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น
“ที่นี่มัน…เงียบเกินไป” พีทพูดขณะส่องไฟฉายไปตามทางเดิน ผนังของอาคารมีรอยแตกร้าวและคราบน้ำที่ทำให้ลวดลายบนกำแพงดูเหมือนใบหน้าคนที่กำลังร้องไห้
ในห้องหนึ่ง เต้พบสมุดบันทึกเก่าๆ ที่เต็มไปด้วยฝุ่น ตัวหนังสือเขียนด้วยลายมือหวัดๆ แต่ยังอ่านได้:
“วันที่ 23 มีนาคม 1985:
มีเสียงนั้นอีกแล้ว ฉันบอกหมอ แต่เขาบอกว่ามันเป็นแค่จินตนาการ
วันที่ 29 มีนาคม 1985:
เสียงมันดังขึ้นเรื่อยๆ มันเรียกฉันจากชั้นใต้ดิน
วันที่ 2 เมษายน 1985:
มีบางคนหายไปในห้องใต้ดิน ฉันกลัว…”
หลังจากอ่านบันทึก ก้อยหันมาพูดด้วยความตื่นเต้น “เราไปดูชั้นใต้ดินกันไหม? อาจจะเจออะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้!”
พีทรีบค้าน “ไม่เอา! ฉันว่าเราไม่ควรยุ่งกับอะไรที่อยู่ที่นี่” แต่มายด์กลับหัวเราะและเดินนำลงไปก่อน
บันไดไม้ที่พวกเขาเดินลงไปนั้นส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดในทุกก้าว ความมืดในชั้นใต้ดินดูหนาแน่นจนแสงไฟฉายแทบจะไม่สามารถทะลุผ่านได้ กลิ่นสนิมและอับชื้นลอยขึ้นมาจนทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนกำลังจมน้ำลึก
เมื่อมาถึงสุดทางเดิน พวกเขาเจอประตูเหล็กบานใหญ่ มีรอยเล็บขูดเป็นแนวลึกทั่วบานประตู ราวกับมีคนพยายามดิ้นรนเพื่อหนีออกมา
“เราควรเปิดมันไหม?” ก้อยถาม มายด์ไม่ตอบ แต่เริ่มดึงประตูด้วยแรงทั้งหมด
ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องดังสนั่นจากอีกด้านของประตู ทุกคนกระโดดถอยหลังด้วยความตกใจ แต่เสียงนั้นไม่ได้หยุด มันเริ่มดังวนอยู่รอบๆ ตัวพวกเขา
พวกเขาวิ่งกลับขึ้นไปที่ชั้นบน แต่เสียงกรีดร้องยังคงตามมาเหมือนมันไม่ได้มาจากที่ใดที่หนึ่ง แต่มันอยู่ในหัวของพวกเขา
เมื่อออกมาจากอาคารได้ ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก้อยตรวจดูกล้องเพื่อดูวิดีโอที่บันทึกไว้ แต่เธอพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ ภาพในกล้องไม่ใช่แค่พวกเขาที่อยู่ในอาคารนั้น มันมีเงาคนยืนอยู่ด้านหลังพวกเขาในทุกฉาก
มายด์ที่ดูเงียบไปตั้งแต่ออกมา เริ่มพูดพึมพำเหมือนคนละเมอ
“พวกเขาอยู่ข้างในนั้น… พวกเขาไม่อยากให้ออกมา…”
คืนนั้น มายด์หายตัวไปจากห้องของเขา สิ่งเดียวที่พบคือสมุดบันทึกเล่มเก่าที่เขาเก็บมาจากอาคาร รอยมือเปื้อนสนิมบนปกสมุดชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่
หน้าสุดท้ายของสมุดเขียนไว้ว่า:
“อย่าเชื่อในสิ่งที่คุณได้ยิน มันไม่ใช่เสียงของคุณ… และอย่าหันหลังกลับ”