สกายวอล์กแห่งแรกของประเทศไทย วัดผาตากเสื้อ
วัดผาตากเสื้อ
วัดผาตากเสื้อ ตั้งอยู่บนเขาในเขตอำเภอสังคมจังหวัดหนองคาย เดิมชื่อวัดถ้ำพระ หลวงปู่เพชร ปะทีโป ท่านได้เดินทางมาปฏิบัติธรรม บริเวณถ้ำพระและได้ก่อตั้งวัดผาตากเสื้อขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2477 มีเนื้อที่ 29 ไร่ 2 งาน 78 ตารางวา วัดผาตากเสื้อเป็นวัดปฏิบัติธรรมต่อมาได้อัญเชิญพระสารีริกธาตุมาประดิษฐานเมื่อ 2 เมษายน 2550
ตั้งอยู่บนเขาในเขตอำเภอสังคมจังหวัดหนองคาย เดิมชื่อวัดถ้ำพระ หลวงปู่เพชร ปะทีโป ท่านได้เดินทางมาปฏิบัติธรรม บริเวณถ้ำพระและได้ก่อตั้งวัดผาตากเสื้อขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2477 มีเนื้อที่ 29 ไร่ 2 งาน 78 ตารางวา วัดผาตากเสื้อเป็นวัดปฏิบัติธรรมต่อมาได้อัญเชิญพระสารีริกธาตุมาประดิษฐานเมื่อ 2 เมษายน 2550 เป็นที่สักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วไป เป็นวัดที่มีทิวทัศน์สวยงาม มากสูงจากระดับน้ำทะเล 550 เมตร ภายในวัดมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ เป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่สวยที่สุดมองลงมายังแม่น้ำโขงจะเห็นสันทรายเป็นริ้วคล้ายเกล็ดพญานาคอย่างชัดเจน โดยได้รับการตั้งให้เป็นแหล่ง ท่องเที่ยวเส้นทางในฝัน Dream Destination 2 จาก ท ท ท นั่นก็คือ "เกล็ดพญานาคริมโขง" จากจุดชมวิววัดผาตากเสื้อหากมองไปทางซ้ายมือจะมองเห็นวิวแม่น้ำโขงวาดยาวโค้งเป็นคุ้งน้ำกลางแม่น้ำมีเกาะ ขนาดใหญ่ ทำให้แม่น้ำโขงช่วงนี้มีลักษณะคล้ายแยกเป็นรูป Y ที่มองเห็นประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างชัดเจน นอกจากจุดชมวิวตรงวัดแล้วปัจจุบันก่อนถึงวัดผาตากเสื้อได้มีการทำจุดชมวิวซึ่งทำให้มองเห็นริ้วรายเกล็ดพญานาคได้ชัดเจนแบบไม่มีอะไรมาบังตา แบบกระจก หรือ สกายวอล์ก พื้นกระจกใส
นอกจากนี้วัดผาตากเสื้อ เป็นวัดที่มีทิวทัศน์สวยงามมาก มองจากบนผาลงมามองเห็นความเป็นอยู่ของชาวไทยลาว ภายในวัดมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ สามารถเดินเลาะ ตามหน้าผาเพื่อชม ธรรมชาติและ ทิวทัศน์ที่สวยงามได้ ในอำเภอสังคมนั้นมีแหล่งท่องเที่ยวมากกว่าที่อื่น ๆ ในจังหวัดหนองคาย และที่วัดแห่งหนึ่งมีชื่อว่า "วัดผาตากเสื้อ" เป็นวัดแห่งหนึ่งที่นอกจากจะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแล้วยังเป็นที่จุดชมวิวที่สวยงามอีกด้วย เนื่องจากเป็นตั้งอยู่ที่สูงบนยอดเขา หากขึ้นไปบนผาจะเห็นว่ามีวิวที่สวยงามสามารถที่จะมองเห็นด้านล่างทั้งฝั่งไทย ซึ่งเป็นอำเภอสังคมและทางฝั่งลาวที่มีแม่น้ำโขงกั้นอยู่ หากไปช่วงหน้าหนาวที่ผาแห่งนี้เป็นอีกจุดหนึ่งมีทะเลหมอกด้วย วิวจะพบกับเขาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นสลับซับซ้อนและมีแม่น้ำโขง ข้างบนจะเป็นวัดเหมาะสำหรับปฏิบัติธรรมด้วย เพราะว่าเป็นวันที่ร่มรื่นและมีความเงียบสงบ สำหรับประวัติความเป็นมานั้น เนื่องจากมีพระรูปหนึ่งท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่เหรียญซึ่งท่านได้ห้ามไว้ชื่อ "พระอาจารย์ สมเดช" แต่ด้วยความตั้งใจท่านได้ขึ้นไปบำเพ็ญเพียรที่นั้นจนได้ ท่าใช้บริเวณบนยอดภูเป็นหลักในการเข้าสู่ถาวะสงบทางใจ เวลาท่านขึ้นไปยอดภูจึงต้องได้ปีนจากด้านล่างทั้งหินและใช้เถาวัลย์ในการช่วย หลายครั้งตอนเช้าทางบิณฑบาตแล้วตกลงมาทำให้ข้าวในบาตรตกออกไป บางครั้งมีอาการปวดบ่อยครั้ง แต่ท่านไม่เคยให้โยมช่วยทุกครั้งท่านจะขึ้นไปเอง พอระยะเวลานานเข้าได้มีโยมพยายามอาสาช่วยให้สร้างทางขึ้นแต่กระนั้นทางขึ้นจากหมู่บ้านเป็นผาสูง เลยต้องสร้างจากด้านอื่นแทน และได้ก่อสร้างมาเป็นวัด โดยท่านผู้ว่าจังหวัดในสมัยนั้นให้มีโครงการสร้างทางขึ้นด้วยรถตัดดินและได้มีการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว สองข้างทางขึ้นจะเป็นโครงการปลุกป่าเฉลิมพระเกียรติด้วย ได้มีการเทลาดยางบางจุดรวมระยะทางจากถนนใหญ่เกือบ 8กิโลเมตร ข้างในวัดนอกจากจะมีผาที่สูงเพื่อยังมีสิ่งปลูกสร้างของทางวัดที่ร่มรื่นมาก อย่างเช่นศาลาเมื่อก่อนไม่มีไฟฟ้าใช้เครื่องปั่นไฟและใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นหลัก นอกจากนั้นยังมีอุโบสถที่สวยงามและทางบันไดที่สวย ด้านบนสามารถรับชมวิวได้ด้วยนอกจากนั้นได้ข่าวว่ามีการสร้างเจดีย์เพื่อบรรจุอัฐิธาตุของอริยสงฆ์ เช่น หลวงปู่มั่นไว้ด้วย
สกายวอล์กวัดผาตากเสื้อ สกายวอล์กแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่บริเวณริมหน้าผาของวัดผาตากเสื้อ ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย เป็นกระจกใสรูปตัวยูยื่นออกไปจากหน้าผา สามารถมองเห็นวิวของแม่น้ำโขง และวิวทิวทัศน์ของประเทศลาวได้อย่างชัดเจน ช่วงหน้าหนาว จะมีทะเลหมอกหนา ๆ ในตอนเช้า จะรู้สึกเหมือนเราเดินอยู่บนหมอกเลยทีเดียว
สำหรับการเดินทางไป วัดผาตากเสื้อ สามารถขับรถขึ้นไปได้ และบริเวณวัดจะมีลานจอดรถให้บริการ ส่วนภายในวัดบรรยากาศก็ร่มรื่น เดินขึ้นไปด้านบนก็เจอกับโบสถ์ มีบันไดพญานาคยาวไปจนถึงตัวโบสถ์ เป็นอีกจุดที่ต้องตามมาเช็กอิน
สกายวอล์กวัดผาตากเสื้อ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. โดยไม่มีค่าธรรมเนียมเข้าชม
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/Watphataksue/
ข้อควรปฏิบัติในการเข้าชมวิว ณ จุด Sky walk มีดังนี้นะครับ
- นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นชมทัศนียภาพบน sky walk ได้รอบละ 20 คน จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่สามารถเดินเข้าภายในพื้นที่ยื่นส่วนกระจกได้ครั้งละ 5 คนใช้เวลาชมทัศนียภาพไม่เกินคนละ 3 นาที
2.นักท่องเที่ยวต้องเปลี่ยนรองเท้าที่สวมใส่มาเป็นรองเท้ายางตามที่เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมไว้
- ห้ามนำกระเป๋า หรือสิ่งของที่เป็นโลหะที่มีน้ำหนักมากขึ้นบน sky walk ยกเว้นกล้องถ่ายรูปแบบพกพาติดตัว และโทรศัพท์มือถือ
- ห้ามนำเครื่องดื่มและอาหารขึ้นบน sky walk
- ห้ามนำวัสดุสิ่งของใดๆ ไปวางบนพื้นกระจกหรือแขวนบนกระจกราวกันตก sky walk
- ห้ามพิง ปีน โหน โยก กระจกราวกันตก sky walk
- ห้ามนักท่องเที่ยวขึ้นชมทัศนียภาพบน sky walk เมื่อมีฝนตกหรือท้องฟ้าครึ้ม หรือมีลมกรรโชกแรง
- ห้ามนักท่องเที่ยวที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคลมชัก ฯ ขึ้นชมทัศนียภาพบน sky walk
- ห้ามนักท่องเที่ยวที่เป็นผู้ทุพพลภาพนั่งรถวินแชร์ ห้ามเข็นรถวินแชร์ลงบนพื้นกระจก sky walk โดยเด็ดขาด
- ห้ามนักท่องเที่ยวนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดขึ้นบน sky walk
อ้างอิงจาก: วิกิเพียเดีย
https://cbtthailand.dasta.or.th/webapp/relattraction/content/3882/
https://udon2laos.com/
https://travel.kapook.com/view144722.html
https://cbtthailand.dasta.or.th/webapp/relattraction/content/1121/
https://thailand.go.th/issue-focus-detail/001_02_100?hl=th