"สุ่มจับปลา" อีกหนึ่งเครื่องมือหากินทางการประมง ที่อยู่กับคนไทยเรามาช้านานเด้อ
ในทุก ๆ ฤดูแล้ง เมื่อท้องฟ้าเปลี่ยนสีสดใสและสายลมพัดเย็น ชาวบ้านในชุมชนเล็ก ๆ ริมหนองน้ำทั่วไป ในหลายๆภาคของประเทศไทยเราก็จะเตรียมตัวเตรียมใจไป “สุ่มจับปลา” กิจกรรมหาปลาที่ไม่เพียงแค่เป็นวิถีหาอาหาร หากแต่เป็นวัฒนธรรมและความสุขที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน
เสียงหัวเราะและการพูดคุยเบา ๆ ก้องอยู่เหนือผืนน้ำที่ลดลงจนเห็นตอไม้โผล่พ้นโคลน ด้วยความที่หนองน้ำไม่ได้ลึกมากนักในช่วงฤดูนี้ การหาปลาจึงเป็นไปอย่างมีชีวิตชีวา ชาวบ้านจะหยิบ “สุ่ม” อุปกรณ์ที่ดูเหมือนกรงรูปทรงกรวยยาวและปลายแหลมขึ้นมาในมือ แสงแดดสะท้อนบนไม้ไผ่ที่ถูกถักทอเป็นช่อง ๆ ดูแข็งแรงและยืดหยุ่น การสุ่มจับปลาจึงเป็นการรวมกันระหว่างความช่างสังเกตและทักษะที่ต้องอาศัยทั้งความใจเย็นและความอดทน
เมื่อสุ่มค่อย ๆ ถูกครอบลงบนพื้นน้ำใส ๆ ที่เห็นปลาว่ายตอดหญ้าเบา ๆ หากสังเกตเห็นปลาพุ่งชนผนังสุ่มหรือรู้สึกถึงแรงกระแทกเพียงนิดเดียว นั่นคือสัญญาณให้ผู้สุ่มรีบกดสุ่มให้ลึกลงสู่พื้นดินเบา ๆ ป้องกันไม่ให้ปลาเล็ดลอดหนีไปได้ จากนั้นมือหยาบกร้านที่เต็มไปด้วยประสบการณ์จะค่อย ๆ ล้วงเข้าไปในช่องหัวสุ่ม เพื่อจับปลาที่ติดอยู่ข้างใน
เสียงน้ำแตกซ่าบเมื่อมือดึงปลาขึ้นมา พลันได้เห็นปลาตัวเป็น ๆ แสงสะท้อนบนเกล็ดปลาที่วิบวับ ช่างเป็นภาพที่งดงาม และหากโชคดีได้ปลาขนาดใหญ่ ก็จะมีเสียงโห่ร้องสนุกสนานที่ดังขึ้นตามมา ไม่เพียงแต่การหาปลา ผู้คนยังได้พูดคุยเล่าสู่กันฟัง บางครั้งมีการอวดปลาตัวใหญ่ ๆ ที่จับได้ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะดังก้องอย่างอบอุ่น
หลังจากการสุ่มจับปลาจบลง ปลาที่ได้จะถูกนำไปเตรียมอาหารตามสูตรโบราณประจำหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นต้มยำปลารสจัดจ้าน ปลาเผาเนื้อนุ่ม หรือแม้แต่ปลาย่างกรอบ ๆ ที่ทุกคนรอคอย เมื่อค่ำคืนมาถึง ชาวบ้านก็จะมารวมตัวกันรอบกองไฟ อิ่มอร่อยกับเมนูสดใหม่ที่ได้จากหนองน้ำแห่งนี้
นี่คือวัฒนธรรมที่ซ่อนอยู่ในวิถีชีวิตชนบท “สุ่มจับปลา” ไม่ใช่แค่การจับปลาเพื่อนำไปปรุงอาหาร แต่เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนได้กลับมาเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ได้ฟื้นความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวและเพื่อนบ้าน และได้สัมผัสกับความสุขง่าย ๆ ที่หาไม่ได้จากที่อื่น