ขนข้าวของออกมาแล้ว !! ‘เอส กันตพงศ์’ ย้ายกลับมาอยู่บ้านแม่ แยกกันอยู่กับภรรยา
ความเศร้าของหัวใจ: ‘เอส กันตพงศ์’ ย้ายกลับมาอยู่บ้านแม่ แยกกันอยู่กับภรรยาเพื่อลูกน้อยไม่ต้องเห็นความเจ็บปวด
เรื่องราวที่สร้างความสะเทือนใจให้กับแฟนคลับและผู้ติดตามมากมายคืออาการป่วยของพระเอกหนุ่ม "เอส-กันตพงศ์ บำรุงรักษ์" ผู้ที่เคยมีชีวิตที่สดใส ก่อนที่จะถูกชะตากรรมทำให้ต้องเผชิญกับภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลันขั้นรุนแรง เมื่อปี 2566 ทำให้หมดสติและต้องเข้ารักษาตัวอย่างเร่งด่วน แม้ว่าเขาจะสามารถฟื้นตัวกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติ แต่ความทรงจำบางส่วนกลับสูญหาย และเขาต้องพึ่งพาเครื่องกระตุ้นหัวใจที่ฝังไว้ตลอดเวลา
แม้จะดูเหมือนว่าอาการของเอสจะดีขึ้นบ้าง แต่ในวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อหัวใจของเขาเต้นเร็วกว่าปกติถึง 200 ครั้งต่อนาที จนเครื่องกระตุ้นหัวใจต้องทำงานและกระตุกขึ้นอย่างแรง ความเจ็บปวดนั้นรุนแรงจนเอสต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน ทำให้เขาต้องแยกตัวมาอยู่กับคุณแม่ โดยมีเหตุผลที่ทำให้หลายคนต้องรู้สึกสะเทือนใจ
เอสเปิดใจด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกห่วงใยลูกน้อย เขาไม่ต้องการให้ลูกต้องเห็นภาพของตนเองในสภาพที่เจ็บปวดและเครียด "ไม่อยากให้ลูกเห็น ไม่อยากให้ลูกช็อก" เขากล่าวพร้อมน้ำตาซ่อนเร้น แม้ว่าลูกจะยังเด็ก แต่อาการเจ็บป่วยและความเครียดนี้อาจฝังลึกลงในใจของลูกโดยที่เด็กยังไม่รู้ตัว ความรักของพ่อที่มีต่อลูกได้ผลักดันให้เอสตัดสินใจแยกตัวออกมา เพื่อไม่ให้ลูกต้องสัมผัสกับความทรมานที่เขากำลังเผชิญ
เอสยังเล่าด้วยความเศร้าว่า แม้เขาจะคิดถึงภรรยาและลูกมาก แต่ช่วงเวลานี้เขากลับไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเพราะต้องเข้ารักษาตัวในห้อง CCU ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เข้มงวดมาก ทำให้เขาต้องแยกตัวออกมาอยู่ที่บ้านแม่ นานๆ จะได้เจอครอบครัวซักครั้ง เมื่อเอสถูกถามว่าภรรยาเคยโพสต์อะไรตัดพ้อ เขายอมรับว่าตนเองไม่รู้ เพราะเขาไม่ได้เล่นอินสตาแกรมเลยตั้งแต่ป่วย และแม้เขาจะหายป่วยแล้ว แต่เขาก็ยังคงอยู่กับแม่ ไม่ได้กลับไปอยู่บ้านกับภรรยาและลูก
เอสยังคงเผชิญกับความรู้สึกสับสนและความทุกข์ใจ เขารู้สึกไม่พร้อมและไม่แน่ใจว่าตนเองจะกลับไปใช้ชีวิตกับภรรยาและลูกได้เมื่อใด เขายังแอบหวังว่า หากภรรยาว่าง จะพาลูกมาหาเขาที่บ้านแม่บ้าง แต่ก็เข้าใจดีว่าภรรยาของเขามีงานที่ต้องรับผิดชอบ
เรื่องราวของเอส กันตพงศ์ เป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของผู้ชายที่ต้องแยกจากครอบครัวเพื่อลูก ไม่ใช่เพราะความต้องการของเขา แต่เพราะเขาไม่อยากให้ลูกต้องเห็นความทรมานที่เขากำลังต่อสู้กับมัน การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่ร่างกาย แต่ยังเป็นการต่อสู้กับความรู้สึกที่ต้องแยกจากคนที่รักที่สุด ทั้งภรรยาและลูกน้อย ที่เขายังไม่สามารถกลับไปกอดได้ในขณะนี้
นี่คือความเศร้าที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ชีวิตที่ต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่เจ็บปวด แต่เขายังยืนหยัดเพื่อลูกน้อยของเขา แม้ต้องยอมเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่ออนาคตที่ดีของลูก.