รีวิว SISU สิสู้ เฒ่ามหากาฬ
SISU เป็นคำจากภาษาฟินแลนด์ที่ไม่สามารถแปลได้ มันหมายถึงความกล้าหาญและความมุ่งมั่นที่คาดไม่ถึง สิสู้จะปรากฎเมื่อความหวังทุกอย่างหมดสิ้น
หนังกล่าวถึงเหตุการณ์ในช่วงปี 1944 ซึ่งสงครามครั้งที่ 2 ใกล้จะสิ้นสุด ฟินแลนด์สงบศึกกับสหภาพโซเวียต ทำให้ต้องปลดกองกำลังนาซีออกจากพื้นที่ฟินแลนด์ พวกนาซีจึงใช้กลยุทธ์ผลาญภพ (Scorched earth tactic) คือทำลายถนน สะพาน หมู่บ้าน หรือทุกที่ที่นาซีย่างกรายผ่าน
เตรียมพบกับภาพยนตร์แอ็กชันท่ามกลางไฟแห่งสงครามสุดเข้มข้น ผลงานกำกับโดย Jalmari Helander
เรื่องย่อ
ลุงคนหนึ่งยังชีพด้วยการร่อนทอง-ขุดทองขาย ระหว่างเดินทางกลับดันไปพบพวกนาซีเข้า เมื่อตรวจสัมภาระจึงรู้ว่าลุงแกมีอุปกรณ์ร่อนทอง และทองคำที่ขุดพบเป็นจำนวนมาก
พวกนาซีไม่รอช้าหมายจะยึดทองฮุบเอาไว้เองและฆ่าลุงแกทิ้งเสีย หารู้ไม่ว่า ลุงคนนี้เป็นอดีตหน่วยคอมมานโดของฟินด์แลนด์ที่โหดเหี้ยมที่สุดของหน่วยและเป็นคนที่ไม่ยอมรับฟังคำสั่งจากใคร...จนถูกขับไล่มาอยู่แนวชายแดนเพื่อฆ่าพวกรัสเซียที่เล็ดลอดเข้ามาในแผ่นดิน
การฆ่าพวกนาซีไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะการแก้แค้นและต้องการทองคำมันมากล้นจนยอมทำได้ทุกอย่าง ความระห่ำจึงอุบัติขึ้น
นักแสดงนำ
- Jorma Tommila รับบทเป็น Aatami
- Aksel Hennie รับบทเป็น Bruno
- Jack Doolan รับบทเป็น Wolf
- Onni Tommila รับบทเป็น Schütze
- Mimosa Willamo รับบทเป็น Aino
ความยาว 88 นาที
ความประทับใจของเรื่องจากครีเอเตอร์
1.หนังจัดความบันเทิงแบบเน้นดูง่าย เค้าโครงเรื่องไม่ซับซ้อน เอาใจคอหนังวัยเกษียณ SISU ทำให้เรารู้สึกว่าการมีอายุมากไม่ได้เป็นอุปสรรคกับชีวิตเลย ตรงกันข้ามกลับมีประสบการณ์ที่เอื้อต่อการดิ้นรนเอาตัวรอดได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยความกล้่หาญและมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตรอด
2.หนังไม่ยาวมาก ประมาณชั่วโมงครึ่งหนังก็จบแล้ว เหมาะสำหรับที่ไม่ชอบดูหนังยาวๆหรือไม่ชอบหนังที่มีปมซ่อนเงื่อนยืดเยื้อ SISU เดินเรื่องเป็นเส้นตรง เข้าใจง่าย ตรงตัว ไม่ต้องตีความอะไรมากมาย เพราะหนังบางเรื่องชอบให้คนดูตีความเอาเองตามสไตล์ของผู้กำกับแต่ละคน
3.หนังมีความรุนแรงเป็นโทนหลักของเรื่อง ฉากแอ็กชันก็ไม่ได้เน้นเอาโหดเพียงอย่างเดียว แต่มีเรื่องของการดิ้นรนเอาตัวรอด แถมยังฉากชวนฮาซ่อนอยู่อย่างแนบเนียน ท่ามกลางสมรภูมิที่ตึงเครียดเช่นนี้ก็สามารถทำให้หนังมีความขบขันได้ ถือว่าไม่ธรรมดา
4.การแสดงของทุกคนในหนังเรื่องนี้ไม่มีใครโดดเด่นชัดเจนเป็นพิเศษ ทุกคนเล่นได้ดีตามมาตรฐานที่เราพบเห็นได้ทั่วไป นักแสดงที่เราเห็นก็ไม่ใช่คนที่เคยเล่นหนัง Hollywood มาก่อน จึงไม่ค่อยคุ้นหน้าใครในหนังเรื่องนี้เลย
5.หนังเล่นกับบรรยากาศที่เนิบช้า ดื่มด่ำกับบรรยากาศโดยรอบที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ชวนให้คนดูรู้สึกว่าถ้าตนไปอยู่ในที่แบบนั้นจะต้องทำอย่างไรต่อ
6.น้องหมาขโมยซีนได้อย่างแนบเนียน คนรักหมาอาจชอบซีนแบบนี้ก็ได้
7.นี่ถือเป็นหนังที่เอาใจคอหนังวัยเกษียณอย่างแท้จริง แม้หนังจะไม่ได้โฟกัสถึงความชราภาพออกมาชัดเจนขนาดนั้น แต่เราในฐานะคนดูที่ได้เห็นผู้สูงอายุทำในสิ่งที่เหนือความคาดหมาย (โม้สุดขั้ว) มันปลุกไฟความเป็นวัยฉกรรจ์ขึ้นมาได้จริงๆ
ก่อนจากกันไป ครีเอเตอร์มีคำถามที่อยากถามตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าตนเองมี SISU อยู่ในใจเพื่อความสำเร็จแล้วหรือยัง ? (ไม่ใช่ไประห่ำกับใครนะ) เรามีโอกาสได้ทำอะไรบ้างมั้ย หรือยังขาดประสบการณ์ที่จะลงมือทำหรือเปล่า ? ทั้งนี้ครีเอเตอร์ก็ไม่อยากให้ต้องสิ้นหวังก่อนแล้วถึงจะสามารถดึงความกล้าหาญและมุ่งมั่นออกมาใช้ในยามคับขันแบบนั้น เพราะถึงตอนนั้นมันดู....สายเกินไป