การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กับปริมาณที่เหมาะสมเพื่อความงามที่เป็นธรรมชาติ
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กับปริมาณที่เหมาะสมเพื่อความงามที่เป็นธรรมชาติ
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่ได้รับความนิยมสูงในวงการความงาม เนื่องจากเป็นบริเวณที่สามารถแสดงอาการความเหนื่อยล้า ริ้วรอย และความหย่อนคล้อยได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ การฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดเลือนริ้วรอยและความหมองคล้ำ แต่ยังสามารถทำให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้นได้ทันที การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นต้องใช้เทคนิคและความเชี่ยวชาญสูง เนื่องจากบริเวณใต้ตาเป็นพื้นที่ที่มีความบอบบาง และการฉีดผิดพลาดอาจส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาได้
ปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมในการฉีดใต้ตา
ปริมาณที่แนะนำสำหรบการฉีดใต้ตาคือ 1-2 CC ขึ้นอยู่กับความลึกและลักษณะของปัญหาที่ผู้รับบริการมี การฉีดในปริมาณที่น้อยเกินไปอาจไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ขณะที่การฉีดในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติและทำให้เกิดอาการบวมมากขึ้น การปรับปริมาณฟิลเลอร์จึงต้องทำอย่างระมัดระวัง และควรปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการประเมินสภาพผิวและความต้องการของผู้รับบริการ
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ช่วยลดเลือนความหมองคล้ำ ใต้ตาที่มีความหมองคล้ำหรือรอยช้ำสามารถทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า การฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยเติมเต็มรอยหมองคล้ำให้ดูสว่างขึ้น
- ปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูสดใส ฟิลเลอร์สามารถช่วยยกพยุงผิวใต้ตาให้ดูเต็มขึ้น ช่วยปรับโครงหน้าให้สมดุลและดูสดใสยิ่งขึ้น
- ให้ผลลัพธ์ที่ทันทีและปลอดภัย การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่จำเป็นต้องพักฟื้นนาน สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันทีหลังจากการทำหัตถการ
การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมสำหรับใต้ตา
ฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดใต้ตาต้องมีคุณสมบัติที่ละเอียดอ่อนและไม่ทำให้ผิวบวม หรือมีลักษณะฟูเกินไป โดยทั่วไป ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมสำหรับการฉีดใต้ตาคือฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลเล็ก เช่น Restylane Vital Light หรือ Restylane Volyme ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ที่เน้นความเป็นธรรมชาติ มีความนุ่มนวล ยืดหยุ่น และสามารถอยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน ทั้งนี้ ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Neuramis รุ่น Deep Lidocaine ก็เป็นอีกทางเลือกที่นิยมใช้ เนื่องจากมีส่วนผสมของยาชาที่ช่วยลดความเจ็บขณะทำหัตถการ
ความเสี่ยงและการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
แม้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเป็นหัตถการที่ปลอดภัย แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการบวม หรือการเกิดก้อนฟิลเลอร์ที่ใต้ตา นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อหรือปัญหาอื่นๆ จากการฉีดที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้น การเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและคลินิกที่มีมาตรฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญ หลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือวิตามินที่อาจทำให้เลือดแข็งตัวช้าลง เช่น แอสไพรินหรือวิตามินอี รวมถึงงดการออกกำลังกายหนัก การดื่มแอลกอฮอล์ และการสัมผัสบริเวณใต้ตาในช่วง 2-3 วันแรก เนื่องจากอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวออกจากตำแหน่งที่ฉีดได้
คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาความหมองคล้ำ ริ้วรอย หรือความหย่อนคล้อยในบริเวณใต้ตา แต่ควรทำความเข้าใจถึงกระบวนการและการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ การเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพและแพทย์ที่มีประสบการณ์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ Vincent Clinic