ไฟฟ้าสถิต โดนช็อตจนสะดุ้งโหยง เป็นเพราะอะไร เกิดจากอะไร? วิธีป้องกันและแก้ไข
ไฟฟ้าสถิต เกิดจากอะไร?
โดยทั่วไปวัสดุทุกชนิดมีความเป็นกลางทางไฟฟ้า คือ มีปริมาณของประจุบวก และประจุลบ เท่า ๆ กัน หากวัสดุมีการขัดถู สัมผัส หรือเสียดสีกัน จะทำให้ประจุไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลง อย่างเช่น การนำลูกโป่งมาถูกับเส้นผม การสัมผัสระหว่างรองเท้าหนัง และพรมเช็ดเท้า จะทำให้เกิดการถ่ายเทประจุไฟฟ้า ทำให้วัสดุเกิดความไม่สมดุล จึงมีความพยายามถ่ายเทประจุไฟฟ้ากับวัสดุอื่น ๆ เพื่อสร้างความสมดุลให้กับตัวเอง การแลกเปลี่ยนประจุไฟฟ้านี้เป็นสาเหตุของความรู้สึกที่คล้ายกับการถูกไฟฟ้าช็อต ที่เรียกว่า “ไฟฟ้าสถิต”
ทำไมบางคนถึงไม่มีปัญหา ไฟฟ้าสถิต
บางคนอาจมีแนวโน้มเกิดปรากฏการณ์ไฟฟ้าสถิตได้มากกว่าคนอื่น โดยส่วนใหญ่แล้ว จะเกิดแรงดันไฟฟ้าสถิตประมาณ 2,000-4,000 โวลต์ เป็นผลจากสาเหตุเหล่านี้
- มีความสามารถในการกักเก็บไฟฟ้าสถิตได้มากกว่าคนอื่น ขึ้นอยู่กับขนาดตัวขนาดเท้า และความหนาของพื้นรองเท้า ยิ่งตัวใหญ่ เท้าใหญ่ และพื้นรองเท้าบางมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเก็บกักเก็บ และเกิดไฟฟ้าสถิตได้มากเท่านั้น
- วัสดุของพื้นรองเท้า และวิธีการเดิน ส่งผลต่อการเกิดไฟฟ้าสถิตได้เช่นกัน หรือหากเกิดไฟฟ้าสถิตตอนนั่ง ก็อาจเป็นผลมาจากเนื้อผ้าของเสื้อผ้าที่สวมใส่ หรือวัสดุที่ใช้ห่อหุ้มเก้าอี้
- สภาพผิวก็ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้ ยิ่งผิวแห้งมากก็ยิ่งเกิดไฟฟ้าสถิตได้ง่าย
หน้าหนาว ช่วงอากาศแห้ง ทำไมเกิดไฟฟ้าสถิตมากกว่าปกติ แล้วจะเป็นอันตรายไหม?
ไฟฟ้าสถิตมักเกิดในสภาพอากาศแห้งและเย็น โดยเฉพาะในบริเวณที่เปิดเครื่องปรับอากาศ หรือเครื่องทำความร้อน เนื่องจากเครื่องปรับอากาศจะทำให้อากาศยิ่งแห้ง ส่วนเครื่องทำความร้อนก็ทำให้ความชื้นในอากาศลดลง ยิ่งความชื้นต่ำมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้เกิดการสะสมประจุไฟฟ้าบนผิวหนังได้ง่ายขึ้น หากอากาศชื้นขึ้น ปรากฏการณ์ไฟฟ้าสถิตก็จะหายไป
ปรากฏการณ์ไฟฟ้าสถิตจะทำให้เรารำคาญ หรือสะดุ้งโหยงเพราะโดนช็อตแปลบแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ส่วนใหญ่ไม่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรง อันตรายที่อาจเกิดจากไฟฟ้าสถิตมักเป็นอาการบาดเจ็บโดยอุบัติเหตุ อย่างเช่น พอเกิดไฟฟ้าสถิต ก็รีบสะบัดแขนหนี แขนเลยไปกระแทกกับขอบโต๊ะ จนแขนบวมช้ำ เป็นต้น
วิธีป้องกัน และแก้ไฟฟ้าสถิต
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังด้วยการดื่มน้ำเยอะ ๆ และทาครีมบำรุงผิว น้ำมันบำรุงผิวอย่างเช่น น้ำมันมะพร้าว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง พยายามอย่าให้ผิวแห้ง
- ฉีดสเปรย์ป้องกันไฟฟ้าสถิต หรือใช้เครื่องกำจัดไฟฟ้าสถิต หากพบว่ามีความเสี่ยง
- ใช้เครื่องประดับ กุญแจ แตะกับวัสดุที่จะจับ เพื่อให้ประจุไฟฟ้าถ่ายเทแล้วค่อยใช้ร่างกายสัมผัส
- ใช้แขนเสื้อ หรือผ้ารองมือ ก่อนจับลูกบิดประตู หน้าต่าง มือจับลิ้นชัก เฟอร์นิเจอร์ หรือวัสดุที่มีความเสี่ยง
- สวมใส่เครื่องแต่งกายที่เป็นผ้าฝ้าย ใส่รองเท้าพื้นยาง ช่วยลดการไหลของประจุไฟฟ้าได้
- พยายามหลีกเลี่ยงผ้าขนสัตว์ ผ้าใยสังเคราะห์ หรือโพลีเอสเตอร์ เพราะนำไฟฟ้าง่าย
- รักษาความชื้นสัมพัทธ์ในห้องให้อยู่ที่ 40-50 % สามารถวัดได้ด้วยไฮโกรมิเตอร์ (Hygrometer) โดยเฉพาะเมื่ออากาศแห้ง สามารถเพิ่มความชื้นในอากาศได้โดยการใช้เครื่องทำความชื้น หรือปลูกต้นไม้ในบ้าน
- ไม่สวมใส่รองเท้าพื้นหนา และควรเดินเท้าเปล่าหากอยู่ในบ้าน
- หากเส้นผมเกิดไฟฟ้าสถิตบ่อย การทำน้ำมันบำรุงผมก็สามารถช่วยลดไฟฟ้าสถิตได้
- เอามือแตะกระจกรถก่อนเปิดประตูรถ เพราะกระจกจะช่วยกระจายประจุไฟฟ้า ป้องกันอาการช็อตเพราะไฟฟ้าสถิตได้