ฉลามก็อปลิน: ความลึกลับแห่งท้องทะเลลึก
ฉลามก็อปลิน (Goblin shark) เป็นหนึ่งในสัตว์ทะเลที่หายากและมีชีวิตอยู่มายาวนานจนเรียกได้ว่าเป็น "ซากดึกดำบรรพ์มีชีวิต" มีต้นกำเนิดย้อนไปถึง 124-112 ล้านปีก่อน พบตัวได้ตามมหาสมุทรแปซิฟิคตอนใต้ มหาสมุทรแอตแลนติก และมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ ฉลามชนิดนี้อยู่ในวงศ์ Mitsukurinidae สกุล Mitsukurina ที่ปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น
ลักษณะทางกายภาพและการอาศัย
ฉลามก็อปลินมีลำตัวยาวประมาณ 3.3-4.5 เมตร ส่วนใหญ่พบในเขตน้ำลึกมากกว่า 100 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่แสงอาทิตย์ไม่สามารถส่องถึง ปกติฉลามก็อปลินมีสีขาว แต่เมื่อถูกจับขึ้นมาจากน้ำ ผิวของมันจะเปลี่ยนเป็นสีแดงคล้ายเลือด จุดเด่นของมันคือส่วนหัวที่มีกระดูกแหลมยื่นออกมาด้านหน้า ซึ่งมีเซ็นเซอร์ที่ไวต่อกระแสไฟฟ้า แม้กระแสที่ตรวจจับจะน้อยมาก เพียง 1 ในล้านโวลต์ แต่ก็ช่วยให้มันสามารถตรวจหาสิ่งมีชีวิตรอบตัวได้
การล่าเหยื่อและลักษณะการกินอาหาร
อาหารหลักของฉลามก็อปลินคือปูและสัตว์น้ำขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในพื้นโคลนใต้ทะเล ด้วยกรามที่ทำหน้าที่เหมือนบานพับ ฉลามก็อปลินสามารถขยายกรามออกไปเพื่อกัดเหยื่อ แล้วดึงกลับมาเคี้ยวได้ การเคลื่อนไหวของกรามเช่นนี้ช่วยชดเชยความสามารถในการว่ายน้ำที่อ่อนแอ เนื่องจากมันไม่มีลักษณะทางกายภาพที่ทำให้ว่ายน้ำได้เร็วมากนัก จึงเป็นฉลามที่มีทักษะการว่ายน้ำค่อนข้างแย่
การขยายพันธุ์และการดำรงชีวิต
เชื่อกันว่าฉลามก็อปลินขยายพันธุ์ในบริเวณที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์เพื่อให้วัยอ่อนมีอาหารเพียงพอ โดยตัวเต็มวัยจะว่ายออกห่างเพื่อให้ลูกหลานสามารถกินอาหารโดยไม่ต้องแย่งกับพวกมัน ฉลามก็อปลินถูกพบครั้งแรกในช่วงปี ค.ศ. 1873-1876 นอกชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น และนับตั้งแต่นั้นมามีรายงานการพบเพียงประมาณ 30 ครั้งทั่วโลกเท่านั้น เนื่องจากเป็นสัตว์น้ำลึกที่หายากและเมื่อถูกจับขึ้นมาจากทะเล มักไม่สามารถมีชีวิตรอดในพิพิธภัณฑ์ได้นานนัก