นาค เซรี กุมุม: พญานาคแห่งมาเลเซีย
ความเชื่อเรื่องพญานาค ไม่ได้มีแต่ประเทศไทยเท่านั้น โดยความเชื่อเดิมนั้นถูกนำมาจากประเทศอินเดียพร้อมศาสนาฮินดูและพุทธที่เข้ามาก่อตั้งอารยธรรมคู่กับคนพื้นเมืองในเวลานั้นๆ ตามประเทศต่างๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตำนานคงมิได้เป็นเป็นเพียงแค่ตำนาน เมื่อในทะเลสาบแห่งหนึ่งในประเทศมาเลเซียมีตำนานและการพบเห็นสัตว์ลึกลับหน้าตาคล้ายพญานาคในทะเลสาบแห่งนี้ มันคือตัวอะไรกันแน่?!
นาคเซรี กุมุม (Naga Seri Gumum) เป็นชื่อของสัตว์ประหลาดคล้ายงูยักษ์ที่อาศัยในทะเลสาบทาสิก ชินี (Tasik Chini) ซึ่งอยู่ในรัฐปะหัง ประเทศมาเลเสีย มันมีความยาวถึง 6 เมตร มีลำตัวสีเขียวหรือเทา มีคอยาวและหัวคล้ายม้า บางทีจะมีเขาเล็กๆ บนหัวด้วยตามแต่ที่พยานเห็น มันอาศัยอยู่ในทะเลสาบทาสิก ชินี ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้เป็นทะเลสาบที่เกิดจากบึงพรุที่ท่วมและค่อยๆ ขยายตัวตามกาลเวลา เป็นทะเลสาบที่โด่งดังเพราะมีสัตว์ป่าจำนวนมาก และยังมีดอกบัวขึ้นสวยงาม จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของมาเลเซียไป
นาคเซรี กุมุม มีรายงานการพบมันมาตั้งแต่ปี 1960 โดยมีชาวบ้านที่ไปหาปลาเข้าไปพบเจอสัตว์ตัวนี้ชูคอขึ้นมาเหนือน้ำ สัตว์ตัวนี้มีรูปร่างคล้ายงูเหลือม แต่มีหงอนแบบนกเงือกบนหัว เมื่อมันถูกพบตัวจะดำน้ำหนีไป และชาวบ้านจะกลัวมันมาก ในสมัยก่อนช่วงคริสตศตรวรรษที่ 18 เมื่อชาวตะวันตกเดินทางมา ก็เห็นมีประเภณีการบูชายัญเด็กสาวให้พญานาคด้วย แต่ถึงแม้ด้วยจารีตในยุคต่อมาและข้อกฏหมายจะสั่งห้ามและถือเป็นโทษร้ายแรง ก็ยังมีชาวบ้านเชื่อว่าพญานาคยังอยากได้ชีวิตเด็กผู้หญิงอยู่ดี เพราะเคยมีเคสเด็กสาวชาวบ้านที่ลงไปซักผ้าที่ริมทะเลสาบหายตัวไป เมื่อวันต่อมาก็ถูกพบเป็นศพจมน้ำอยู่ จึงเชื่อว่านาคเซรี กุมุมมาเอาชีวิตของเธอไปเป็นเครื่องสังเวยแล้ว ในปี 1970 วิศวกรชาวอังกฤษที่มาสร้างเขื่อนนามว่า อาร์เธอร์ พอตเตอร์ บาฮารุดดิน (Arthur Potter Baharudin) และคนงานชาวมาเลเซียมาดำเนินการสร้างอาคารริมทะเลสาบในหมู่บ้าน พวกเขาได้อ้างว่าเห็นนาคเซรี กุมุม โผล่ขึ้นมาจากทะเลสาบอย่างรวดเร็ว การพบเห็นนี้เชื่อว่าเพราะมันมาเตือนว่ามันไม่ชอบการสร้างอาคารรุกล้ำพื้นที่ แต่จนแล้วจนรอด อาคารนั้นก็สร้างเสร็จไปในที่สุดอย่างไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น
ตำนานของทะเลสาบทาสิก ชินีได้เล่าถึงตำนานสองเรื่อง ตำนานที่หนึ่ง ชนเผ่าจาคุน (Jakun) ชนกลุ่มน้อยที่มาครอบครองพื้นที่ซึ่งปัจจุบันเป็นทะเลสาบ พวกเขาเดินทางมาถางป่าและขุดหลุมเพื่อปลูกพืชผลตั้งหมู่บ้าน ทันใดนั้น หญิงชราก็ออกมาจากป่าโดยพิงไม้เท้าไว้ และตักเตือนพวกเขาว่าพวกเขาไม่ได้รับอนุญาติจากเทพเจ้าที่ดูแลทะเลสาบแห่งนี้ พวกชาวบ้านหวาดกลัวมากจึงทำพิธีกัน ในที่สุดเธอก็ยอมใจอ่อนหลังจากที่ผู้คนขอขมาและต่อมาเธอก็ปักไม้เท้าไว้กลางทุ่งเพื่อทำเครื่องหมายอาณาเขตของตน และเตือนกลุ่มคนไม่ให้ถอดไม้เท้าออก
ต่อมาไม่นาน สุนัขตัวหนึ่งก็เริ่มเห่าท่อนไม้ผุๆ อยู่ริมทุ่งโล่งไม่หยุดหย่อน ชายคนหนึ่งขว้างไม้ตะพดไปที่ท่อนไม้นั้นเลือดก็พุ่งออกมา ขณะที่ชายคนอื่นๆ เริ่มขว้างไม้ตะพดใส่ท่อนไม้อีก เลือดก็พุ่งกระจายไปทั่วพื้นดิน ทันใดนั้น ท้องฟ้าก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยฟ้าแลบ และฟ้าร้องก็เริ่มเคลื่อนตัว ท้องฟ้าโปรยปรายฝนลงมาอย่างหนัก ทุกคนต่างวิ่งหาที่กำบัง ในความโกลาหลนั้น ไม้เท้าของหญิงชราก็หลุดออกจากพื้นดิน ทันใดนั้น น้ำพุก็ไหลออกมาจากรูที่ไม้ตะพดสร้างขึ้นจนท่วมหมู่บ้านจมหายไป จึงเกิดเป็นทะเลสาบทาสิกชินี และไม้นั้นกลายเป็นนาคนามว่า เสรี กุมุมในที่สุด
ในตำนานอีกเวอร์ชันหนึ่งเล่าถึงที่มาของเซรี กุมุม เล่าเป็นเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรของพวกพญานาคที่ถูกสาปและผนึกไว้ในสวนต้องห้ามที่สร้างขึ้นบนทะเลสาบ หลายปีต่อมา เจ้าชายต่างอาณาจักรชื่อ “ปูเตระ เคนโบจา” เดินทางมาจากที่ไกล และทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกัน ในที่สุด เจ้าหญิงก็ทำลายผนึกที่กักขังเธอไว้เมื่อเธอตกลงที่จะจากไปกับเจ้าชาย ทันทีที่พวกเขาข้ามเขตแดนของสวนต้องห้าม เซรี กุมุมและเซรี เคนโบจาก็แปลงร่างเป็นนาคทันที ในขณะนั้นเอง สวนต้องห้ามก็ถูกน้ำท่วมและซ่อนอยู่ตลอดไปที่ก้นทะเลสาบชินี
ในคืนที่มืดมิด เมื่อแม่น้ำปาหังท่วม นาคาทั้งสองจะออกจากทะเลสาบและไหลไปตามน้ำ ชาวบ้านจะได้ยินเสียงฟ้าร้องและฟ้าแลบขณะที่พวกเขาว่ายผ่านไป วันหนึ่ง ขณะที่นาคากำลังว่ายน้ำออกไปในทะเล กุมุมก็รู้ว่าเธอลืมสายคาดเอวไว้ จึงว่ายน้ำกลับไปที่ทะเลสาบเพื่อเอาสายคาดเอว เซรี เค็มโบจาซึ่งแข็งแกร่งกว่าและชอบร่างใหม่นี้มาก จึงว่ายน้ำไปจนถึงทะเลเปิด โดยคิดว่าเซรี กุมุมกำลังตามหลังอยู่ น่าเสียดายที่นาคหญิงว่ายน้ำเข้าใกล้เกาะมากเกินไป สายคาดเอวของบูกิต ดาโต๊ะจึงไปเกี่ยวหินไว้ ขณะที่เธอกำลังพยายามดิ้นรนหนี เธอก็ได้ยินเสียงไก่ขัน เป็นสัญญาณบอกว่าใกล้จะสว่างแล้วและเธอไม่สามารถไปต่อได้ เจ้าหญิงรอเป็นเวลานานจนกระทั่งลมหายใจของเธอหยุดลงจนค่อยๆ กลายเป็นเกาะ นกตัวเล็กตัวหนึ่งชื่อติโอมชอบที่จะพักผ่อนบนเกาะ และในไม่ช้า เกาะใหม่ก็ถูกเรียกว่าติโอมัน เสรี เก็มโบจาซึ่งว่ายน้ำไปข้างหน้าก็ได้ยินเสียงไก่ขัน เขาหยุดทันทีและกลายเป็นเกาะลิงกา
สำหรับนาคแห่งเซรี กุมุมนี้ มีทษฏืเช่นเดียวกันกับสัตว์ประหลาดแม่น้ำอื่นๆ กล่าวไว้ว่า อาจจะเป็นเพียงท่อนไม้ขนาดใหญ่ในแม่น้ำก็เป็นได้ และอาจจะลอยขึ้นมาโดยมีการหอบเอาพืชน้ำและสวะทำให้คนที่เห็นเข้าใจเป็นสัตว์ประหลาด หรืออีกกรณี คืออาจจะเป็นปลาน้ำจืดท้องถิ่นในน้ำ เช่น ปลาชะโด ปลาเค้าดำที่มีรูปร่างลำตัวยาวคล้ายงูซึ่งโผล่ขึ้นมาล่าเหยื่อหรือฮุบอากาศก็เป็นได้
สำหรับพญานาคแห่งมาเลเซียตัวนี้ แม้จะไม่มีหลักฐาน แต่ความนิยมของมันทำให้ทะเลสาบทาสิก ชินีเป็นที่ท่องเที่ยวที่นิยมแล้ว หากใครอยากลองของ เราแนะนำว่าขอให้คุณเตรียมความกล้ามาพายเรือเล่นในทะเลสาบแห่งนี้ให้ดีล่ะ หึๆๆๆๆๆ