10 ความจริงของเรือไททานิคที่แตกต่างจากในภาพยนตร์
เรื่องราวของเรือไททานิค (Titanic) เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจและกลายเป็นตำนานที่ถูกนำมาเล่าเรื่องซ้ำๆ ในหลากหลายรูปแบบ รวมถึงภาพยนตร์ที่โด่งดังในปี 1997 ที่กำกับโดย James Cameron แม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะนำเสนอเหตุการณ์ได้อย่างใกล้เคียงกับความจริง แต่ก็มีหลายส่วนที่ถูกปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเพื่อความบันเทิง ซึ่งบางครั้งอาจทำให้ผู้ชมเข้าใจความจริงผิดไปจากสิ่งที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ มาดูกันว่าเรื่องจริงของไททานิคมีความแตกต่างอย่างไรจากที่ปรากฏในภาพยนตร์
### 1. **ความเร็วของเรือ**
ในภาพยนตร์ *Titanic* ผู้ชมจะเห็นว่าเรือไททานิคแล่นด้วยความเร็วสูง แม้จะมีคำเตือนเรื่องภูเขาน้ำแข็งก็ตาม ทั้งนี้เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับเนื้อเรื่องและความตึงเครียดของสถานการณ์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรือไททานิคแล่นด้วยความเร็วสูงในคืนที่เกิดเหตุ ซึ่งมีความเชื่อว่ากัปตันอาจต้องการสร้างสถิติการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกที่เร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าเขาเร่งความเร็วหลังจากได้รับคำเตือนเรื่องภูเขาน้ำแข็ง
### 2. **การชนภูเขาน้ำแข็ง**
ในภาพยนตร์ การชนภูเขาน้ำแข็งถูกแสดงให้เห็นในฉากที่น่าประทับใจ โดยส่วนของเรือเฉือนภูเขาน้ำแข็งทางด้านข้าง ซึ่งทำให้ตัวเรือได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง แต่ในความเป็นจริง เรือไททานิคชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งจากมุมด้านข้างของเรือ และทำให้ตัวเรือได้รับความเสียหายต่อเนื่องในหลายจุดเป็นแนวตามด้านข้าง ไม่ใช่การชนเข้าตรงๆ ด้านหน้าเหมือนกับที่หลายคนเข้าใจ การชนนี้ส่งผลให้เรือเสียหายรุนแรงพอที่จะทำให้ตัวเรือเริ่มจมลงอย่างช้าๆ
### 3. **จำนวนเรือชูชีพ**
ภาพยนตร์นำเสนอฉากที่น่าสลดใจเกี่ยวกับจำนวนเรือชูชีพที่ไม่เพียงพอต่อผู้โดยสารทั้งหมด ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับความจริง ในความเป็นจริง เรือไททานิคบรรทุกเรือชูชีพเพียง 20 ลำ ขณะที่จำนวนผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดมีประมาณ 2,200 คน ทำให้มีผู้รอดชีวิตเพียง 700 กว่าคนเท่านั้น เนื่องจากในขณะนั้นยังไม่มีการกำหนดกฎข้อบังคับที่ชัดเจนเกี่ยวกับจำนวนเรือชูชีพตามจำนวนผู้โดยสารที่มากพอ กฎหมายในขณะนั้นอิงตามขนาดของเรือมากกว่าจำนวนผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังมีการจัดการที่ไม่เหมาะสมในการอพยพ ทำให้เรือชูชีพบางลำออกไปโดยบรรทุกผู้โดยสารไม่เต็มความจุ
### 4. **Jack และ Rose**
ตัวละครหลักในภาพยนตร์ *Titanic* คือ Jack และ Rose ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ผู้ชมจดจำ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีตัวละครใดที่เป็น Jack Dawson หรือ Rose DeWitt Bukater ในบันทึกของผู้โดยสารบนเรือไททานิคเลย ตัวละครทั้งสองถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ภาพยนตร์มีเนื้อเรื่องที่เป็นเรื่องรักโรแมนติกและสร้างความผูกพันกับผู้ชม นอกจากนี้เรื่องราวของพวกเขายังถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสะท้อนถึงชนชั้นทางสังคมในสมัยนั้น ซึ่งเป็นประเด็นที่แท้จริงในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการจัดการผู้โดยสารระหว่างชนชั้นต่างๆ
### 5. **การแบ่งชนชั้นบนเรือ**
ภาพยนตร์แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นสาม โดยเฉพาะในแง่ของความสะดวกสบายและการปฏิบัติของลูกเรือ แม้ว่าเรื่องนี้จะถูกเล่าถูกต้องตามความเป็นจริง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ไม่ได้ถูกนำเสนอ เช่น ในความเป็นจริง ผู้โดยสารชั้นสามถูกขังอยู่ในส่วนของเรือจนกว่าผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นสองจะได้รับการอพยพก่อน ซึ่งส่งผลให้ผู้โดยสารชั้นสามมีโอกาสรอดชีวิตน้อยกว่ามาก ในภาพยนตร์ การแบ่งแยกชนชั้นนี้ถูกนำเสนอในหลายฉากที่ทำให้ผู้ชมเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างชนชั้น แต่ภาพยนตร์ไม่ได้แสดงถึงความโหดร้ายในการกักกันผู้โดยสารชั้นล่างอย่างเต็มที่
### 6. **กัปตัน Smith**
ในภาพยนตร์ กัปตัน Edward John Smith แสดงให้เห็นว่าเขามีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจต่างๆ และยืนหยัดจนถึงวินาทีสุดท้ายก่อนที่เรือจะจม อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง แม้กัปตัน Smith จะถูกยกย่องว่าเป็นกัปตันที่มีประสบการณ์ แต่เขาก็ได้รับคำวิจารณ์ว่าไม่ควรตัดสินใจให้เรือแล่นด้วยความเร็วสูงในคืนที่มีคำเตือนเรื่องภูเขาน้ำแข็งหลายครั้ง กัปตันยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าการอพยพผู้โดยสารในคืนนั้นไม่ได้มีการวางแผนที่ชัดเจนและเป็นระเบียบเพียงพอ ทำให้การอพยพเป็นไปอย่างสับสน
### 7. **ความเสียหายของเรือหลังจากชน**
ในภาพยนตร์ ความเสียหายของเรือถูกแสดงอย่างชัดเจนว่ามีความรุนแรงมาก โดยน้ำทะลักเข้ามาอย่างรวดเร็วหลังจากการชน และเรือจมลงอย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง แต่ในความเป็นจริง การชนภูเขาน้ำแข็งทำให้เรือไททานิคได้รับความเสียหายที่ไม่ได้เกิดจากรูขนาดใหญ่เพียงรูเดียว แต่เกิดจากการที่ตัวเรือถูกเฉือนเป็นแนวยาว ทำให้น้ำทะลักเข้ามาในหลายห้องพร้อมกัน การออกแบบของเรือไททานิคทำให้เรือสามารถทนรับน้ำที่เข้ามาในห้องเก็บน้ำได้บางส่วน แต่เมื่อห้องเก็บน้ำหลายห้องถูกน้ำท่วมเกินกว่าที่ออกแบบไว้ ก็ทำให้เรือเริ่มจมลงช้าๆ
### 8. **การเสียชีวิตในน้ำ**
ในภาพยนตร์ แสดงให้เห็นว่าหลังจากเรือจม ผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ในน้ำจะทนต่อความหนาวเย็นได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนที่บางคนจะเสียชีวิตจากความหนาวเย็น ในความเป็นจริง น้ำในมหาสมุทรในคืนนั้นมีอุณหภูมิที่เย็นจัด จนทำให้ผู้ที่ตกลงไปในน้ำสามารถเสียชีวิตได้ภายในไม่กี่นาทีเนื่องจากภาวะไฮโปเธอร์เมีย (hypothermia) ภาพยนตร์ได้ทำให้ฉากนี้ดูเรียลลิสติก แต่ความเป็นจริงที่โหดร้ายกว่านั้นคือหลายคนเสียชีวิตภายในเวลาไม่ถึง 15 นาที
### 9. **การช่วยเหลือจากเรือ Carpathia**
ในภาพยนตร์ เรือ Carpathia ถูกแสดงให้เห็นว่าเป็นเรือที่มาช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากเรือชูชีพในช่วงเช้า ซึ่งตรงกับความจริง แต่สิ่งที่ไม่ได้ถูกนำเสนอในภาพยนตร์คือการใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าที่ Carpathia จะมาถึง และในช่วงเวลาก่อนที่เรือจะมาถึง ผู้รอดชีวิตในเรือชูชีพต้องเผชิญกับความหนาวเย็นและความหวาดกลัว นอกจากนี้ การช่วยเหลือของเรือ Carpathia เป็นกระบวนการที่ใช้เวลาหลายชั่วโมงในการรวบรวมผู้รอดชีวิตที่กระจัดกระจายอยู่ในทะเล
### 10. **บทบาทของ J. Bruce Ismay**
ในภาพยนตร์ ผู้ชมจะเห็น J. Bruce Ismay ผู้บริหารของบริษัท White Star Line ผู้ซึ่งได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในความเป็นจริง เขาเป็นผู้มีส่วนในการตัดสินใจเกี่ยวกับการลดจำนวนเรือชูชีพบนเรือไททานิคเพื่อประหยัดพื้นที่และเพิ่มความหรูหราของเรือ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในผู้ที่รอดชีวิตจากเรือไททานิค แต่กลับถูกประณามว่าละเลยความรับผิดชอบในการช่วยเหลือผู้โดยสารคนอื่นๆ โดยในภาพยนตร์ มีการแสดงให้เห็นว่า Ismay หนีขึ้นเรือชูชีพอย่างลับๆ ซึ่งเป็นการตีความที่เน้นให้เห็นถึงความขัดแย้งทางศีลธรรมของเขา