ใบไม้ร่วง
โดย #อักษราลัย
แสงสุดท้ายของวันทอประกายสีทองอร่ามผ่านเรือนยอดของต้นไม้ใหญ่ในสวนสาธารณะ ละอองแสงกระทบกับใบไม้น้อยใหญ่ ทำให้สวนทั้งสวนดูราวกับถูกโปรยด้วยผงทองคำ เสียงนกกาเหว่าขันก้องไกลบอกเวลาเย็นย่ำ ลมอ่อน ๆ พัดโชยมาเป็นระลอก นำพากลิ่นหอมของดอกไม้ลอยล่องมาตามสายลม
ณ มุมหนึ่งของสวน บนม้านั่งไม้เก่าคร่ำคร่าที่ตั้งอยู่ใต้ร่มเงาของต้นจามจุรีใหญ่ มีชายชราท่าทางสง่างามนั่งอยู่ เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตากับกางเกงสแล็คสีดำ ทรงผมสีขาวหวีเรียบแปล้ เครายาวสีเงินเล็กน้อยเสริมให้ใบหน้าดูมีเสน่ห์น่าเกรงขาม มือเรียวยาวของเขากุมไม้เท้าไม้สักขัดมันวาว ดวงตาคมกริบแต่แฝงไว้ด้วยความอ่อนโยนจับจ้องไปที่ใบไม้แห้งสีน้ำตาลทองใบหนึ่งซึ่งเพิ่งร่วงหล่นลงมากองอยู่บนพื้นหญ้าเบื้องหน้า
"ชีวิตก็เหมือนใบไม้"
เขาพึมพำกับตัวเอง น้ำเสียงแผ่วเบาแต่เปี่ยมด้วยปรัชญา
"เกิดมา เติบโต ร่วงหล่น แล้วก็กลายเป็นปุ๋ยให้ต้นไม้ต้นใหม่งอกงาม วัฏจักรแห่งชีวิตที่งดงามและน่าพิศวง"
ขณะที่กำลังจมดิ่งอยู่กับห้วงความคิด เสียงฝีเท้าเล็ก ๆ ก็ดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงหัวเราะใสกังวานของเด็กชายตัวน้อย ผมสีน้ำตาลยุ่งเหยิง แก้มแดงระเรื่อด้วยความร้อนจากการวิ่งเล่น เขาวิ่งตรงมาที่ม้านั่งพร้อมกับลูกบอลสีสดใสในมือ ดวงตากลมโตเป็นประกายด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"คุณตาครับ" เด็กชายทักทายด้วยน้ำเสียงสดใส "ทำไมคุณตาถึงมานั่งคนเดียวตรงนี้ล่ะครับ? ไม่เหงาหรือครับ?"
ชายชรายิ้มอ่อนโยน รอยยิ้มที่ทำให้ริ้วรอยบนใบหน้าลึกขึ้น แต่กลับเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้าอันเปี่ยมด้วยประสบการณ์ชีวิต
"ตามานั่งดูใบไม้ร่วงน่ะหนู" เขาตอบพลางชี้ไปที่ใบไม้แห้งตรงหน้า "บางทีสิ่งที่เราคิดว่าสิ้นสุดแล้ว อาจเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ก็ได้ เหมือนใบไม้ใบนี้ไง ถึงมันจะร่วงจากกิ่ง แต่มันก็จะกลายเป็นปุ๋ยให้ต้นไม้ต้นอื่นเติบโตต่อไป"
เด็กชายทำหน้างุนงง ขมวดคิ้วน้อย ๆ ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ ชายชรา วางลูกบอลไว้ข้างตัว
"แล้วคุณตาเคยเห็นใบไม้งอกออกมาจากพื้นดินไหมครับ?" เขาถามด้วยความสงสัยใคร่รู้
ชายชราหัวเราะเบา ๆ เสียงหัวเราะที่อบอุ่นและเป็นมิตร
"ไม่หรอกหนู" เขาตอบพลางส่ายหน้าเบา ๆ
"แต่ตาเคยเห็นต้นไม้ใหญ่งอกขึ้นมาจากเมล็ดเล็ก ๆ ที่ร่วงหล่นลงมาบนพื้นดิน เหมือนต้นจามจุรีใหญ่ที่เรานั่งอยู่ใต้ร่มเงานี่ไง มันก็เคยเป็นแค่เมล็ดเล็ก ๆ มาก่อน"
"โห! ช่างน่าอัศจรรย์จังเลยครับ" เด็กชายอุทานด้วยความตื่นเต้น ดวงตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
"แล้วมันใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะโตขนาดนี้ครับ?"
ชายชรายิ้มกว้างขึ้น ดวงตาเป็นประกายด้วยความทรงจำอันแสนหวาน "นานมากเลยล่ะหนู อาจจะนานกว่าตาเกิดมาเสียอีก" เขาตอบพลางลูบเปลือกไม้ของต้นจามจุรีเบา ๆ
"แต่นั่นแหละ ที่ทำให้ชีวิตมีค่า เวลาและความอดทน"
เขาหันกลับมามองเด็กชาย สีหน้าจริงจังแต่อ่อนโยน "ชีวิตเราก็เหมือนกันนะ บางครั้งเราอาจรู้สึกว่าตัวเองเหมือนใบไม้ที่ร่วงหล่น ไร้ค่า ไม่มีความหมาย แต่จริง ๆ แล้ว เราอาจกำลังเป็นเมล็ดพันธุ์ที่กำลังจะเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ในอนาคตก็ได้ ทุกอย่างต้องใช้เวลา ต้องอดทน และต้องไม่ยอมแพ้"
เด็กชายฟังด้วยความสนใจ แววตาเป็นประกายด้วยความเข้าใจ "ผมอยากเป็นต้นไม้ใหญ่บ้างจังครับคุณตา!" เขาพูดพลางยืดตัวขึ้น ทำท่าเหมือนต้นไม้ที่กำลังเติบโต
ชายชรายื่นมือไปลูบศีรษะเด็กชายเบา ๆ สัมผัสอ่อนโยนราวกับสายลมพัดผ่านใบไม้ "เชื่อตาสิ หนูก็จะได้เป็นแน่นอน" เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "แค่อย่าลืมรดน้ำพรวนดินตัวเองทุกวัน หมั่นเรียนรู้ ฝึกฝน และไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค เหมือนต้นไม้ที่ต้องฝ่าฟันแดดลมฝนเพื่อเติบใหญ่"
ทันใดนั้น เสียงเรียกจากหญิงคนหนึ่งก็ดัง เขารีบขานรับ แล้วหันมาบอกลาชายชรา
"ผมต้องกลับแล้วครับคุณตา ขอบคุณที่สอนผมนะครับ ผมจะจำไว้ว่าต้องเป็นเหมือนต้นไม้ที่แข็งแกร่ง!"
ชายชราพยักหน้า ยิ้มให้เด็กชายที่กำลังจะวิ่งจากไป "จำไว้นะหนู ชีวิตอาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป แต่ทุกดอกไม้ล้วนต้องผ่านพายุฝนมาก่อนทั้งนั้น"
เด็กชายพยักหน้ารับ ก่อนจะโบกมือลาและวิ่งจากไปพร้อมลูกบอล ทิ้งให้ชายชรานั่งอยู่บนม้านั่งตามลำพังอีกครั้ง
ชายชราหันกลับมามองใบไม้แห้งบนพื้นอีกครั้ง เขาถอนหายใจเบา ๆ ครุ่นคิดถึงชีวิตที่ผ่านมา ทั้งช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์และตกต่ำ ความสำเร็จและความล้มเหลว ความสุขและความทุกข์ ทุกอย่างล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต เหมือนวงปีในลำต้นของต้นไม้ใหญ่
เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน มองไม้เท้าที่พิงอยู่ข้างม้านั่งอย่างครุ่นคิด แล้วตัดสินใจทิ้งมันไว้ตรงนั้น ก้าวเดินออกไปอย่างแข็งแรงโดยไม่ต้องพึ่งพาอะไร
ขณะที่เดินจากไป เขาคิดในใจ
"บางครั้ง สิ่งที่เราคิดว่าเป็นที่พึ่ง อาจเป็นเพียงสิ่งที่ขัดขวางเราจากการเติบโตก็เป็นได้ เหมือนใบไม้ที่ต้องร่วงหล่น เพื่อให้ใบใหม่ได้ผลิ"
แสงสุดท้ายของวันค่อย ๆ จางหาย ทิ้งให้สวนสาธารณะจมอยู่ในความมืด แต่ในใจของชายชรากลับสว่างไสวด้วยความหวังและพลังชีวิตใหม่ เขารู้ว่าแม้จะเป็นเพียงใบไม้ร่วง แต่เขาก็พร้อมที่จะเป็นปุ๋ยให้กับต้นกล้าแห่งอนาคตต่อไป...🍂