ยื้อจนไม่รู้จะยื้อยังไง สายตาของเธอนั้น เย็นชาเหลือเกิน "ลาก่อน"
ผมเคยยื้อคนๆหนึ่งมาก
จนวันนี้ได้มีการนัดเจอของเรา
ซึ่งผมไม่เคยคิดว่าเรื่องราวของผมกับเขานั้นจะจบลงเลยจริง
ผมได้ขับรถไปหาน้องเขาเพื่อเอาของไปให้ นั้นก็คือ ดอกไม้ตุ๊กตาหมีพร้อมมีไฟกระพริบ
เดต่ผมไม่กล้าเจอหน้าเเละเอาให้ด้วยตัวเอง เลยฝากของไว้กับคุณพอเจ้าของหอ
หลังจากฝากของไว้เสร็จผมได้ไปนั่งรอ เขา ตั้งนาน เเละได้ทักไปหาเขา ว่าขอเจอเธออีกสักครั้งได้ไหม เธอเลยถามว่าผมนั้นอยู่ที่ไหน บอกเลยบอกว่าอยู่ที่อเมซ่อน เขาเลยว่างั้นเดี๋ยวออกไปหา พอเธอขับรถมา ซึ่งเมื่อผมเห็นเธอผมรับรู้ได้ดลยว่ามีสิ่งเเปลกๆ ที่เปลี่ยนไป เพราะปกตินั้นเมื่อเธอมาหาผม เธอไม่เคยเอาเพื่อนเธอมาด้วยสักครั้งเดียว เเต่พอมาวันนี้ "น้องเขาได้มาพร้อมกับเพื่อนอีก2คน" ผมรู้ทันทีเลนว่าวันนี้เรื่องของเราต้องจบ ลงอย่างสมบูรณ์ แบบ เเน่นอน เเล้วเมื่อเธอ นั้นได้เดินเข้ามาหาผม คำถามเเรกที่ผมนั้นได้ถามเธอไป "เป็นยังไงบ้างสบายดีไหม" เธอก็ตอบกลับมา ว่าสบายดี " ซึ่ง ก็นั่งคุยกันไปเรื่อย จนมาถึงเวลาหนึ่ง ผมเลยถามว่า เรื่องราวของเราต้องจบลงเเล้วจริงๆใช่ไหม น้องเขาก็ตอบกลับมาด้วยสายตาที่มันเย็นชา พร้อมกับคำพูดที่ว่า มันจบลงเเล้วหนูตัดสินใจเเล้ว"ผมเลยว่าคิดอีกทีได้ไหม เปลี่ยนใจได้หรือเปล่า เมื่อผมพูดออกไปเขาก็ตอบว่าไม่มีเเล้ว ไม่เปลี่ยนใจเเล้ว ผมก็พยายามจะยื้อ จะรั้งเธอไว้ เเต่เมื่อผมได้มองตาเธอ ผมเลยยื้อเธอไม่ไหว สายตาของเธอนั้น เย็นชายิ่งกว่าน้ำเเข็งที่ว่าเย็นเเล้ว ยังสู้สายตาของเธอไม่ได้เลย ผมได้พยายามยื้อจนรู้สึกว่าตัวเองนั้นไร้ค่า ไปเลย ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 19.00 น. เธอนั้นได้พูดว่า จะไปแล้วนะ ผมเลยตอบว่าโอเค เเต่ก่อน เขาจะไปผมได้พูดไปหนึ่งประโยค นั้นก็คือ "พี่รักหนูนะ"และนี่ก็ดฝ้ป็นประโยคสุดท้ายที่ผมได้พูดกับเธอ หลังจากที่เธอกลับ ผมก็ได้ขับรถกลับไปที่ทำงานของผม "แต่ทำไมมันเจ็บเหลือเกินกับการรักใครสักคนแล้วต้องจากกันทั้งที่ผมยังรัก"
#ยื้อจนไร้ค่า
#รักจนไม่รู้จะรักยังไง
"ขอให้เธอนั้นมีความสุขในทุกเส้นทางที่ตัวเธอนั้นได้เลือก ส่วนฉันไม่เป็นไรต้องใช้เวลารักษาตัวเองอีกสักพักใหญ่"
#ขอบคุณทุกเรื่องราวของสองเรา