พิธีเผาศพของชาวฮินดู ที่สืบทอดมายาวนาน
พิธีเผาศพของชาวฮินดูเป็นหนึ่งในธรรมเนียมปฏิบัติที่มีความสำคัญและสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน การจัดพิธีเผาศพชาวฮินดูมักจะทำอย่างเรียบง่าย โดยเมื่อมีผู้เสียชีวิต ญาติพี่น้องจะใช้ผ้าห่อศพและแบกไปยังริมฝั่งแม่น้ำคงคา ซึ่งเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ ผู้ชายจะห่อด้วยผ้าขาว ส่วนผู้หญิงจะห่อด้วยผ้าหลากสี โดยไม่ต้องใส่โลงศพให้ยุ่งยาก เพียงแค่ใช้แคร่ไม้ไผ่หามศพไป
เมื่อถึงแม่น้ำคงคา ศพจะถูกจุ่มลงไปในน้ำแล้วนำขึ้น ทำซ้ำเช่นนี้ 3 ถึง 5 ครั้ง ตามความเชื่อเพื่อชำระล้างบาปครั้งสุดท้ายให้กับผู้เสียชีวิต เพื่อให้ดวงวิญญาณได้ไปสู่ดินแดนที่สุขสงบ จากนั้นศพจะถูกนำขึ้นมาวางบนกองฟืน ญาติที่เป็นผู้ชายจะเข้าร่วมพิธีเผาศพ โดยตามประเพณีของชาวฮินดู ผู้หญิงจะทำการส่งศพที่หน้าบ้านเท่านั้น
ในพิธีเผาศพ ญาติจะเดินวนรอบๆ กองฟืนแล้วจุดไฟเผาศพ เมื่อศพมอดไหม้เหลือแต่กระดูกหรือเถ้าถ่าน ก็จะกวาดลงแม่น้ำคงคาโดยไม่เก็บกระดูกเหมือนกับธรรมเนียมของชาวพุทธ
สำหรับผู้ที่มีฐานะดี จะนิยมใช้ไม้ราคาแพง เช่น ไม้จันทน์ ในการเผาศพ เนื่องจากสามารถซื้อฟืนได้จนศพหมดมอดไหม้ ส่วนผู้ที่มีฐานะยากจน จะใช้ไม้ราคาถูก เช่น ไม้สะเดา หรือไม้มะม่วง และเมื่อฟืนไม่พอเผาจนศพมอดไหม้ ก็จะเขี่ยศพทิ้งลงแม่น้ำคงคา
พิธีเผาศพชาวฮินดูจึงเป็นทั้งการปฏิบัติทางศาสนาและการแสดงถึงความแตกต่างทางสังคมในแง่ของฐานะและความเชื่อ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบทอดกันมายาวนานและยังคงมีความสำคัญอย่างมากในวัฒนธรรมของชาวฮินดูจนถึงปัจจุบัน