ปรากฏการณ์ Pareidolia การเห็นสิ่งของรอบตัวเป็นหน้าคน
คิดว่าหลายๆคนคงเคยคิดว่าเห็นสิ่งของรอบๆตัวมีหน้า มีปาก และมีหู กันมาบ้าง จากการดูหนังการ์ตูนหรือเรื่องเล่าต่างๆ อาการเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรเลย เพราะปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นภายในสมองของเราซึ่งทางจิตวิทยาเรียกว่า Pareidolia หรือ แพริโดเลีย มันไม่ใช่เรื่องผิดแปลก Pareidolia เป็นเรื่องธรรมชาติของจิตใจที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ จากการกระตุ้นสมองของเราให้เกิดการจดจำใบหน้า ซึ่งเป็นการกระตุ้นที่ทุกคนมีมาตั้งแต่กำเนิด แต่บางครั้งมันดันไปกระตุ้นกับสิ่งของที่ไม่มีชีวิตและไม่มีใบหน้า ซะอย่างนั้น
คำว่า Pareidolia มาจากภาษากรีกคำว่า para แปลว่า ผิดพลาด และคำว่า eidolon’ที่แปลว่าภาพ หรือรูปร่าง พูดง่ายๆก็คือภาพที่ผิดพลาดไปนั่นเอง ในสมัยก่อนการที่คนมองเห็นและเชื่อมโยงภาพกับสิ่งของอาจทำให้ดูน่าพิศวงและเหมือนลางบอกเหตุ มีรายงานจำนวนมากว่ามีการเห็นสิ่งต่างๆ ในธรรมชาติแล้วนำมาเชื่อมโยงกับศาสนาหรือบุคคลสำคัญ อย่างเช่นการเห็นรูปพระเยซู พระแม่มารีย์ สัตว์ในตำนาน หรือเครื่องหมายทางศาสนาปรากฏขึ้นจากก้อนเมฆ ก้อนหิน ใบไม้ ขึ้นได้บ่อยๆ รวมถึงการที่มันถูกใช้ในศาสตร์พยากรณ์ทำนายอนาคตด้วย กรณี Pareidolia ที่ค่อนข้างโด่งดัง คือเมื่อปี 2004 บนโลกออนไลน์เคยมีการประมูลแซนด์วิชชีสที่มีคนเห็นว่าเป็นรูปคล้ายกับพระแม่มารีย์โดยบังเอิญ ในราคาถึง 28,000 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 1.1 ล้านบาท บน eBay
ความจริงมันไม่มีความลี้ลับอะไร เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นในสมอง โดยที่ปรากฏการณ์ Pareidolia เกิดจากการสั่งการของสมองส่วนหน้าและส่วนการมองเห็น (Visual cortex) และสมองจะเริ่มสั่งการให้เกิดการทบทวนความทรงจำจากสิ่งเร้าที่มองเห็น โดยพยายามโยงถึงภาพที่ใกล้เคียงและเรามีความคุ้นเคยกับมันออกมา กลายเป็นหน้าคนหรือสัตว์ต่างๆ แต่จากการศึกษาของประเทศฟินแลนด์พบว่า คนที่นับถือศาสนาอย่างเคร่งครัดและเชื่อในพลังธรรมชาติจะมีแนวโน้มเห็นภาพแบบ Pareidolia ได้บ่อยกว่าคนที่ไม่นับถือนั่นเอง