สังคมในปัจจุบันทำให้ ผู้หญิงอยู่ฝ่ายเสรีนิยม ผู้ชายอยู่ฝ่ายอนุรักษ์นิยม
เป็นที่เข้าใจกันมาตลอดว่าคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ในหลายประเทศทั่วโลก มักมีมุมมองทางสังคมและการเมืองที่คล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกัน แต่การสำรวจครั้งใหม่กำลังบอกว่ อาจไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป โดยเว็บไซต์ The Economist ได้สำรวจกลุ่มตัวอย่างอายุประมาณ 18-29 ปี ในสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ จีน และประเทศต่างๆในยุโรปพบว่า ในโลกที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่ ทัศนคติของชายหนุ่มและหญิงสาวมีการแบ่งขั้วกันหนักขึ้น โดยผู้หญิงจะยังคงมีแนวคิดเสรีนิยม ในขณะที่ผู้ชายหัวไปทางอนุรักษนิยมมากขึ้นกว่าในช่วง 2 ทศวรรษที่แล้วมาก
มีหลายสาเหตุที่ทำให้ ผู้หญิงกับผู้ชายมีความคิดต่างกัน แต่ที่เป็นไปได้และมีเหตุผล คือความแตกต่างในด้านการศึกษา ซึ่งนำไปสู่ทัศนคติที่แตกต่างกัน ประเทศต่างๆ ในยุโรปผู้ชายอายุ 25 -34 ปี ที่มีวุฒิการศึกษาระดับอุดมศึกษา เพิ่มขึ้นจาก 21% เป็น 35% ระหว่างปี 2002-2020 สำหรับผู้หญิงที่อายุเท่ากัน อัตราดังกล่าว เพิ่มขึ้นจาก 25% เป็น 46% ข้อมูลนี้เป็นตัวเลขใกล้เคียงกับสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน จึงสรุปว่า มีผู้หญิงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี มากกว่าผู้ชายถึง 10 % ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งอาจเพราะเป็นยุคของ โซเชียลมีเดียซึ่งเอื้อให้คนมีคอมมูนิตี้มากขึ้น
เมื่อคนที่มีแนวคิดแบบเดียวกันมารวมตัวกัน ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดแนวคิดสุดโต่ง เช่นกลุ่มเฟมินิสต์แบบซ้ายจัด หรือทางตรงกันข้ามถ้าเป็นผู้ชายรวมตัวกันก็จะแนวโน้มสนับสนุนกันเอง และเกลียดผู้หญิงมากขึ้น ซึ่งกลุ่มเหล่านี้มักมีจุดยืนที่ไม่ยืดหยุ่นกับแนวคิดอื่นๆและมักปฏิบัติกับผู้ที่เห็นต่างอย่างโหดร้าย นอกจากนี้ ผู้ชายหลายคนยังเห็นด้วยในประเด็นเรื่อง การพัฒนาสิทธิสตรีและเด็กผู้หญิงในสมัยนี้อาจไปไกลเกินไป จนพรากโอกาสต่างๆของผู้ชายไปให้ผู้หญิงมากขึ้น เช่นโอกาสก้าวหน้าทางการงาน หรือการศึกษา เป็นต้น