การครอบแก้วรักษาโรคได้จริงมั๊ย?
ครอบแก้ว หรือ Cupping เป็นการบำบัดรักษาอีกวิธีหนึ่งของแพทย์แผนจีน โดยในสมัยโบราณจะใช้เขาสัตว์หรือกระบอกไม้ไผ่ แต่ปัจจุบันวัสดุที่ใช้จะเป็นแก้วใสทรงกลม โดยการรักษาจะนำถ้วยแก้ว หรือกระปุกแก้วมาลนไฟให้ร้อน เพื่อไล่อากาศออกจนเกิดสุญญากาศภายในแก้ว แล้วนำมาวางไว้บนร่างกาย ความร้อนและสุญญากาศจะดูดผิวหนังหรือกล้ามเนื้อขึ้น ทําให้เกิดการกระตุ้นระบบประสาท ฮอร์โมน และทําให้ระบบหมุนเวียนเลือดสมดุล ไม่ติดขัด ขจัดเลือดคั่ง รักษาอาการปวด
ตามศาสตร์การแพทย์แผนจีนอธิบายไว้ว่า ความร้อนจากไฟขณะทำการครอบจะช่วยขับไล่ความเย็นที่อยู่ในเส้นลมปราณ ความเย็นมีกลไกของโรคทำให้การไหลเวียนของลมปราณติดขัดเมื่อเกิดการติดขัดก็จะทำให้เกิดอาการปวด เมื่อครอบเเก้วเเล้วลมปราณภายในร่างกายจะไหลเวียนเป็นไปอย่างปกติ อาการปวดจึงหายไป
เมื่อมองตามหลักวิทยาศาสตร์การครอบแก้วคือการใช้สูญญากาศ ครอบไปยังบริเวณผิวหนัง การที่ผิวหนัง ถูกดูดด้วยแก้วที่เป็นสูญญากาศจะทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือดบริเวณนั้นอย่างมาก เป็นการปั๊มเลือดเข้าสู่ กล้ามเนื้อบริเวณที่ทำการครอบเเก้ว หลอดเลือดฝอยขยายตัวขึ้น นำมาสู่การที่เนื้อเยื่อได้รับเลือดออกซิเจน มากขึ้น กระบวนการซ่อมแซมจึงมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การรักษาโรคโดยการครอบแก้ว จึงสามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในบริเวณที่มีการติดขัดทำให้เลือดและพลังมีการไหลเวียนที่ดีขึ้น สามารถรักษาอาการปวด โดยเฉพาะบริเวณ บ่า หลัง และเอว หลังการครอบแก้ว ตรงบริเวณผิวหนังที่ถูกการครอบแก้ว การดูดของสุญญากาศอาจทำให้เส้นเลือดฝอยบริเวณใต้ผิวหนังขยายตัวหรือแตกออก จนเกิดเป็นรอยเป็นจ้ำๆ สีม่วงหรือสีดำให้เห็นอยู่บ้าง แต่จะหายไปเอง โดยไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อร่างกายรอยจะหายเองในเวลาประมาณ 5 – 7 วันและสามารถทำได้อีกเมื่อรอยจางหาย แต่หากหลังจากครอบแก้วแล้วมีอาการ เช่น รู้สึกไม่สบายหรือปวดมากขึ้น ควรหยุดครอบแก้วทันทีและขอความช่วยเหลือจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ