9 วิธีรักษา ความอ่อนเยาว์ให้อยู่นาน
9 วิธีรักษา ความอ่อนเยาว์ให้อยู่นาน
1) ความสวยเริ่มจากข้างใน
ผิวพรรณของเรานั้นประกอบด้วยเชลล์หลายล้านเซลล์รวมตัวกันและเซลล์เหล่านี้ก็ต้องการสารอาหารและอากาศบริสุทธิ์ เพื่อให้ระบบการทำงานของเซลล์เป็นไปอย่างปกติ และคงสภาพเซลล์ให้แข็งแรง
ควรเลือกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ที่มีแคลอรีต่ำ อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และเกลือแร่ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยชะลอความแก่ อาหารที่ให้ประโยชน์ต่อเซลล์ผิวหนัง บำรุงผิวให้มีชีวิตชีวาสดใสเปล่งปลั่งโดยเฉพาะผักผลไม้ที่มีกากใยอาหารสูง วิตามินและเกลือแร่นั้นเป็นสารอาหารที่บำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดชื่น และดูอ่อนกว่าวัย
2) นอนให้สวย
ขณะที่ร่างกายได้พักผ่อนจากการนอนหลับ ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนและปัจจัยอื่นๆ เพื่อกระตุ้นให้ผลิตคอลลาเจนและผลิตเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาการอดหลับอดนอนจะทำให้ขาดส่วนสำคัญในการสร้างผิวใหม่นี้ไป
แต่ในสภาวะปัจจุบันเช่นนี้ คนเป็นโรคนอนไม่หลับกันเยอะ จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แก่เร็วและสุขภาพเสื่อมโทรม ลองวิธีนี้ดูนะคะ เผื่อจะช่วยให้นอนหลับฝันดี
- อย่ากินอาหารมื้อคำจนอิ่มเกินไป ควรให้อาหารย่อยก่อนเข้านอน สัก 3-4 ชั่วโมง
- ก่อนนอนให้ดื่มนมอุ่นๆ สักแก้ว โกโก้ร้อนๆ สักถ้วย หรือน้ำผึ้ง ผสมน้ำอุ่นจะช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น
- หากมีความกังวลใจเรื่องงานหรือปัญหาต่างๆ ให้จดลงกระดาษ และค่อยหาวิธีแก้ในวันรุ่งขึ้น
- รักษาอุณหภูมิห้องนอนให้พอดี ไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป
- สวดมนต์ก่อนนอน คราวนี้คุณก็จะหลับง่ายและฝันดีตลอดทั้งคืน
- อุปกรณ์การนอน ควรเลือกใช้ผ้าไหม ผ้าชาตินเพื่อไม่ให้เกิดความระคายเคืองต่อผิว และไม่นอนก่ายหน้าผากหรือนอนตะแคง เพราะจะเกิดการกดทับจนทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย
3) เลิกสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่นั้นทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า ริมฝีปากคล้ำดูไม่สดใส ผลัดเซลล์ผิวใหม่ช้าลง และทำให้ออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเชลล์ผิวหนังไม่เต็มที่ทำให้ผิวพรรณไม่เปล่งปลั่งสดใส
จากการบันทึกรายงานของ New England Journal Of Medicine รายงานว่าผู้ที่สูบบุหรี่จะดูแก่กว่าผู้ที่ไม่สูบบุรี่ถึง 5 ปี ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าและเกิดรอยตีนกาอย่างเห็นได้ชัด
4) ดื่มน้ำให้เพียงพอ
ร่างกายคนเราประกอบไปด้วยน้ำในเซลล์ร้อยละ 60 และน้ำระหว่างเซลล์ร้อยละ 40 เรียกได้ว่าร่างกายมีส่วนประกอบของน้ำร้อยละ 100 เมื่อร่างกายขาดน้ำจะทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ และด้อยประสิทธิภาพลง
สำหรับผิวพรรณนั้น น้ำช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งกร้าน และดูสดใสขึ้น แต่ถ้าคุณดื่มน้ำไม่เพียงพอในแต่ละวันร่างกายจะดูดซึมน้ำจากเซลล์ที่อยู่ตามผิวหนัง ทำให้ผิวหนังสูญเสียน้ำจนผิวขาดความชุ่มชื้นและทำให้ผิวแห้งในที่สุด ริ้วรอยก็จะเกิดตามมา
การดื่มน้ำเพื่อสุขภาพและบำรุงผิวพรรณนั้น ควรดื่มวันละ 8- 10 แก้ว หรือจะสลับกับน้ำผลไม้ 1-2 แก้วก็ได้ ทั้งนี้ควรเป็นน้ำเปล่าบริสุทธิ์จึงจะดีที่สุด
5) หลีกเลี่ยงแสงแดด
ริ้วรอยและความเสื่อมโทรมของผิวพรรณนั้นเกิดขึ้นได้จากแสงแดดแรงๆ ที่แผดเผาผิวให้ได้รับความเสียหาย และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง ดังนั้นการหลีกเลี่ยงแสงแดดจึงเป็นวิธีที่ดีที่จะช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น ซึ่งเป็นช่วงที่แดดแรงที่สุด จึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลานี้
หากมีความจำเป็นต้องอยู่กลางแจ้ง ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 เป็นอย่างต่ำก่อนสัมผัสแดดสักครึ่งชั่วโมง และควรสวมแว่นตา หมวก หรือเสื้อผ้าที่ปกป้องผิวจากแสงแดดจะช่วยคุณได้มาก หากต้องอยู่ในน้ำหรือออกกำลังกายในน้ำ ควรใช้ครีมกันแดดที่กันน้ำได้ด้วยยิ่งดี อย่างไรก็ตามคุณก็ควรจะสัมผัสแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าหรือเย็นบ้างเพื่อให้ร่างกายผลิตวิตามินดีที่ดีต่อสุขภาพ
6) เลือกเครื่องสำอางอย่างฉลาด
เครื่องสำอางเป็นสิ่งหนึ่งที่จะต้องสัมผัสผิวอยู่บ่อยครั้ง การเลือกเครื่องสำอางหรือเครื่องประทินผิว ควรจะเลือกที่สกัดมาจากธรรมชาติ ไม่มีสารที่ทำให้เกิดความระคายเคืองต่อผิว การเลือกครีมบำรุงผิวควรเลือกที่สามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดี ไม่เหนียวเหนอะหนะ เนื้อครีมกระจายตัวบนผิวได้ดี ครีมบำรุงผิวที่ดีต่อสุขภาพผิวนั้นมักมีส่วนผสมของ
1. เรตินอล (Retinol) ซึ่งในปัจจุบันนำมาใช้กับผิวหน้า เพื่อลดริ้วรอยรอบดวงตา ลบรอยตีนกา ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหน้าเปล่งปลั่ง
2. เอเอซเอ (AHA) เป็นสารสกัดที่ได้มาจากกรดผลไม้ ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกจากผิวหนังชั้นนอก ทำให้ผิวหน้าเนียนเรียบกระจ่างใสไร้ริ้วรอย
3. กรดซาลิไซลิก (Salicyic Acid) คล้ายกับสารเอเอซเอ ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก ช่วยผลิตเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน สามารถทำความสะอาดผิวได้ถึงชั้นในซึ่งลึกกว่าสารเอเอซเอ
4. โคเอนไซม์คิวเทน (Co-enzyme Q-10) เป็นโมเลกุลขนาดเล็กช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ ด้วยการที่เป็นโมเลกุลขนาดเล็กจึงซึมเข้าไปในผิวหนังได้ง่าย ช่วยซ่อมแซมผิว ลดริ้วรอยรอบดวงตา ชะลอความเสื่อมของเซลล์
5. สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidan!) อันได้แก่เครื่องสำอางบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินอี เบต้าแคโรทีน วิตามินบี3 วิตามินเหล่านี้จะช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดริ้วรอย ช่วยป้องกันการทำลายผิวจากแสงแดด งานวิจัยบางชิ้นระบุว่าสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนังได้
7) อย่ารบกวนผิวจนเกินไป
ผิวที่ถูกรบกวนด้วยการดึงหรือขัดถูอยู่บ่อยๆ เป็นการทำลายผิวอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งผลที่ได้คือริ้วรอย ผิวแห้งกร้าน เกิดจุดด่างดำและสิวตามมาหากต้องการให้ผิวหน้าคงความอ่อนเยาว์นานวันจะต้องรบกวนผิวให้น้อยที่สุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว และใช้สำลีเช็ดหน้าที่ไม่มีสารเคมีตกค้างหรือผ้าเช็ดหน้าที่สะอาดและนุ่มสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งควรจะดูแลผิวเป็นพิเศษไม่ปล่อยให้ผิวแห้ง ควรบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ทุกครั้งหลังล้างหน้า
8) ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ความอ่อนเยาว์จะอยู่กับเราได้นานหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณออกกำลังกายมากน้อยแค่ไหน เครียดมากเพียงใด เนื่องจากความเครียดเป็นสาเหตุที่เพิ่มอายุให้แก่ใบหน้า ทำให้ดูแก่กว่าอายุจริง การออกกำลังกาย อย่างพอเหมาะเป็นประจำ จะช่วยลดความเครียดได้และทำให้ดูเด็กลงจากกรณีศึกษาพบว่า เด็กสาวอายุ 20 ปีที่มีแต่ความเครียดจะเกิดริ้วรอยความกังวลบนหน้าผากได้มากกว่าผู้หญิงอายุ 40 ปี ที่รู้สึกผ่อนคลายด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ
9) รักษาน้ำหนักให้คงที่
น้ำหนักที่ขึ้นๆ ลงๆ นั้นเป็นอันตรายต่อผิว ทำให้เกิดเซลลูไลต์หรือผิวผลส้ม ทำให้ผิวไม่เนียนเรียบ เกิดรอยแตกลายบริเวณต้นแขน ต้นขาและสะโพก ไม่เป็นที่น่าพิสมัยนัก และเซลลูไลต์นี้ก็ไม่ได้ขจัดออกไปได้ง่ายๆ ต้องใช้เวลานานกว่าจะรักษาผิวให้กลับมาสวยเช่นเดิม หากไม่อยากมีปัญหาเรื่องผิวแตกผิวลาย ควรจะรักษาน้ำหนักให้คงที่เพื่อผิวสุขภาพดีการรักษาน้ำหนักให้คงที่สามารถทำได้โดยการเลือกกินอาหารไขมันต่ำแคลอรีน้อย และออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้
ข้อมูลดีๆ นี้ จากหนังสือ ศาสตร์แห่งความอ่อนเยาว์ และสุขภาพดีตลอดกาล เขียนโดย พรพิมล ศิริกุล
ป.ล. เพื่อนๆ สามารถติดตามกระทู้อื่นๆ ได้ตามลิงค์ข้างล่างเลยนะคะ
https://page.postjung.com/n00kky
หรือ
7 เรื่องต้องรู้ เปลี่ยนตัวเอง ให้สวย สุขภาพดีในทุกวัน
อ่านต่อได้ที่ https://exclusive.postjung.com/1552535
อ้างอิงจาก: หนังสือ ศาสตร์แห่งความอ่อนเยาว์ และสุขภาพดีตลอดกาล เขียนโดย พรพิมล ศิริกุล
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
ช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรก
เมื่อวิทยาศาสตร์อธิบายวินาที "กระดูกร้าวถึงหัก" บนสังเวียนของตะวันฉาย
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียแบบ “มหาศาล” ของทรัมป์ จะเขย่ามอสโกแค่ไหนและคำตัดสินใจของจีนกับอินเดียคือหมากชี้ขาด
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
สงครามยาเสพติดเวอร์ชันทรัมป์
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
4 พันธุ์ไม้ "นักดูดฝุ่น" ฟอกอากาศขั้นเทพที่ควรมีติดบ้าน
IO เขมรปั่นหนัก! ใช้ AI สร้างพาสปอร์ตปลอม อ้าง “บัวขาว” เป็นคนกัมพูชา ไม่ใช่คนไทย
โรงแรมในเกียวโตลดราคาเหลือ 3,000 เยนต่อคืน หลังไม่มีนักท่องเที่ยวจีน
สงครามยาเสพติดเวอร์ชันทรัมป์



