ผีอเมริกา (เกี่ยวกับคดีดังระดับโลก)

ผีอเมริกา #เกี่ยวกับคดีที่โด่งดังไปทั่วโลก

“ คุณเคยได้ยินคดี 2 สามีภรรยาโรคจิoลักพาตัวเด็กสาวไปทารุณกssมทางIพศแล้วขังไว้ในกล่องไม้มั้ยครับ คดีนี้ดังมากๆดังไปทั่วโลกและผีในเรื่องนี้ก็คือเหยื่อรายแรกของ 2 สามีภssยาโรคจิoคู่นี้ “

จุดเริ่มต้น Jodi Foster แม่เลี้ยงเดี่ยววัย 33 ปี วางแผนพาลูกสาว Hannah Foster วัย 3 ขวบไปเริ่มชีวิตใหม่ในเมือง Chico, California โดยเลือกที่จะอยู่อพาร์ทเม้นท์ ระหว่างเดินตามหาห้องพักก็ได้ไปเจออพาร์ทเม้นท์แห่งนึงมีชื่อว่า Walnut Gardens เป็นอพาร์ตเมนต์ที่สวยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบแถมอยู่ในทำเลที่ดี Jodi ไม่ลังเลที่จะเข้าไปสอบถามและโชคดีที่ตึก 14 ยังมีห้องเหลืออยู่ ในระหว่างเดินขึ้นไปดูห้องก็รู้สึกแปลกๆรู้สึกเหมือนมีใครสักคนรอเขาอยู่ในห้อง ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง คุณเคยไปหาเพื่อนที่ห้องมั้ยครับ? นั่นแหละรู้สึกประมาณนั้นซึ่งเป็นความรู้สึกที่แปลกมากๆ + เมื่อเข้าดูห้องก็รู้สึกอึดอัดหายใจไม่ทั่วท้อง+มีกลิ่นแปลกๆ ทีแรกคิดว่าอาจเป็นเพราะเขาไม่เคยอยู่อพารทเม้นท์ก็เลยไม่ชิน + เหนื่อยกับการเดินหาห้องพักมาทั้งวันแล้วจึงตอบตกลงทำสัญญาเช่าและเข้าอยู่วันที่ 31 มกราคม 2000 #เรื่องหลอนก็เริ่มขึ้น *จำวันที่เข้าอยู่ให้ดีๆนะครับ

1. ลูกสาวของ Jodi มีรองเท้าผ้าใบสีชมพูคู่นึง ซึ่ง Jodi สอนลูกเสมอให้วางรองเท้าบนชั้นวางรองเท้า ลูกสาวก็ทำตามมาตลอดค่อนข้างว่านอนสอนง่าย แต่! ตั้งแต่ย้ายมาอยู่อพาร์ทเม้นท์แห่งนี้รองเท้าเด็กสีชมพูมักจะวางอยู่บนเตียงทุกครั้ง Jodi คิดว่าลูกสาวใส่รองเท้าขึ้นเตียงหรือเอารองเท้าไปวางเล่นบนเตียง แต่เปล่าครับ ลูกสาวของ Jodi ยืนยันว่าหนูไม่ได้ทำ ซึ่งรองเท้าสีชมพูมักจะวางอยู่กลางเตียงนอนทุกครั้งที่พวกเขาออกไปทำธุระแล้วกลับเข้ามาในอพาร์ทเม้นท์ มีครั้งนึงพวกเขารีบแต่งตัวแต่เช้าเพื่อออกไปทำธุระข้างนอก แต่เมื่อจะออกจากห้องรองเท้าสีชมพูของ Hannah หายไป และได้ไปเจอรองเท้าสีชมพูวางอยู่กลางเตียงนอน Hannah ยืนยันว่า “หนูไม่ได้ทำ”

2.Jodi วางขวดพริกไทยไว้กลางโต๊ะเป็นประจำซึ่งเธอค่อนข้างเนี๊ยบทุกอย่างต้องเป็นระเบียบ และเธอมักสอนให้ลูกจัดระเบียบทุกอย่างให้เรียบร้อย แต่ตื่นเช้ามาขวดพริกไทยมักจะวางตรงขอบโต๊ะทุกเช้า ซึ่งเธอจำได้ 100% ว่าเธอวางไว้กลางโต๊ะทุกครั้งหลังใช้เสร็จ หลายๆครั้งตื่นไปเข้าห้องน้ำตอนดึกก็เห็นขวดพริกไทยวางอยู่กลางโต๊ะ แต่ตอนเช้าตื่นมาก็เห็นขวดพริกไทยวางตรงขอบโต๊ะอีกแล้ว

3. Jodi เริ่มฝันแปลกๆ ฝันว่าเธอนั่งเบาะหลังในรถของสามีภรรยาคู่นึง สามีภรรยาคู่นั้นกำลังมองเด็กสาวคนนึงที่เดินอยู่ข้างถนนซึ่งสามีภรรยาคู่นั้นขับรถวนดูอยู่ 2-3 รอบ ก่อนที่ในฝันสามีภรรยาคู่นั้นจะจอดรถถามผู้หญิงที่เดินอยู่ว่า “ให้เราไปส่งไหม” ตัดภาพมาอีกทีเด็กสาวคนนั้นขึ้นมานั่งในรถแล้ว แล้วผู้ที่เป็นสามีเอาผ้าอุดปากเด็กสาวคนนั้นก่อนที่ Jodi จะสะดุ้งตื่นขึ้น โดย Jodi บอกว่ามันเป็นฝันที่พิเศษกว่าฝันทุกครั้งเพราะเธอจำฝันนั้นได้แบบ 100% จำได้ทั้งภาพ เสียง ความรู้สึก และ Jodi ยังบอกอีกด้วยว่าเธอไม่เคยเห็นคนในฝันในชีวิตจริงและเรื่องที่เกิดขึ้นในฝันเธอไม่เคยเจอหรือแม้แต่ดูหนังที่มีฉากแบบนั้นก็ไม่เคย

4.บางครั้ง Jodi ฝันว่ามี 2 สามีภรรยาคู่เดิมเดินอยู่ตรงโถงทางเดินหน้าห้อง รู้ตัวอีกที 2 สามีภรรยาคู่นั้นก็เข้ามาจับตัว Hannah ลูกสาวของเธอ Jodi กรี๊ดบอกให้พวกเขาหยุดด้วยความกลัว แล้วลูกสาวของเธอก็กลายเป็นเด็กผู้หญิงคนนึงมีผมสีน้ำตาลแดงซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ ก่อนที่ Jodi จะสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนนั้นเป็นเวลาตี 3:37 น.

5.อีกความฝัน Jodi ฝันว่าสามีภรรยาคู่เดิมขับรถสะกดรอยตามเด็กสาวผมสีน้ำตาลแดงที่เดินอยู่ในเมือง Chico ที่เธออยู่ ก่อนสามีภรรยาคู่นั้นจะจอดถาม “ให้เราไปส่งไหม” เด็กสาวคนนั้นตอบตกลงแล้วขึ้นรถ จากนั้น 2 สามีภรรยาคู่นั้นก็ขับรถมาที่อพาร์ตเมนต์ของ Jodi ก่อนผู้ที่เป็นสามีจะมาเคาะประตูห้องของ Jodi เพื่อขอเข้าห้องน้ำ ในฝัน Jodi ตกใจมาก แล้ว Jodi ก็สะดุ้งตื่นเวลา ตี 3:37 นาทีอีกแล้ว

6.เวลาก็ผ่านไปในระหว่างที่ Jodi กำลังทำกับข้าวและลูกสาวของเธอนั่งเล่นอยู่ใกล้ๆ อยู่ดีๆลูกสาวของ Jodi ก็พูดขึ้นมาว่า “ หวัดดี ” Jodi หันไปมองก็เห็นว่าลูกสาวของเธอกำลังพูดทักทายแล้วโบกมือไปในห้องนั่งเล่นทั้งที่ตรงนั้นไม่มีใคร Jodi ถามลูกสาวว่า “ลูกพูดกับใคร” ลูกสาวตอบกลับมา Jodi ถึงกับช็อค ลูกสาว Jodi ชี้ไปที่ห้องนอนแล้วบอกว่า “หนูก็คุยกับผู้หญิงตรงนั้นไงคะแม่ เธอไม่ใช่เพื่อนแม่เหรอ? เธออยู่ตรงนั้นใส่ชุดสีขาวเธอบอกว่าเธอชื่อ Miliz” Jodi ถึงกับช็อคและเธอพยายามคิดว่าคงเป็นเพื่อนในจินตนาการของลูกหรือลูกคงเห็นเงาคนเดินผ่าน แต่นานวันเข้าลูกสาวของเธอทักทายบ่อยขึ้น อันนี้ว่าหลอนแล้วแต่มัน #มีหลอนกว่านี้ เช้าวันนึงในขณะที่ Jodi มัดผมให้ลูกสาว Hannah ชี้ไปที่กระจกแล้วบอกแม่ว่า “แม่เห็นไหม ผู้หญิงคนนั้นอยู่ในกระจก” แต่ Jodi ไม่เห็นใคร

7.Jodi สังเกตว่า Hannah จะพูดคุยกับหญิงปริศนาที่ชื่อ Miliz เป็นประจำ Hannah บอกแม่ว่าทุกๆคืน Milz จะเข้าไปหาเธอเพื่อส่งเธอเข้านอนและจูบที่หน้าผาก

8.วันนึง Hanah ก็เอาภาพวาดมาให้แม่ดู Jodi ถึงกับช็อค! เพราะลูกสาวเธอวาดภาพผู้หญิงถูกแขวนคอโดยมีชายหญิงคู่นึงยืนมอง Hannah อธิบายว่า “เธอชื่อ Miliz เป็นนางฟ้าผู้พิพักษ์ของหนู เธอถูกแขวuคoและnารุณกssมโดยคู่รักคู่นึง”

9.เย็นวันนึง Jodi ไปรับลูกสาวที่โรงเรียนและพาลูกไปทานอาหารทำธุระส่วนตัวก่อนจะกลับห้องในช่วงค่ำปรากฎว่าในห้องข้าวของและของเล่นเด็กกระจัดกระกายกองอยู่เต็มพื้น โทรศัพท์ในห้องถูกดึงออกแล้วไปอยู่ตรงพื้นในห้องนอนลูกสาวของเธอ เมื่อเดินเข้าไปในห้องนอนของ Hannah มองบนเตียงช็อคหนักกว่าเดิม เพราะตุ๊กตาตัวโปรดลูกสาววางอยู่บนเตียงและมีเชือกรองเท้าพันรอบคอ Jodi เห็นแบบนั้นก็กลัวสุดขีดเพราะนี่อาจเป็นการขู่จากอะไรบางอย่างที่อยู่ในห้องนั้น Jodi จูงมือลูกสาววิ่งไปหน้าตึกก่อนจะโทรแจ้งตำรวจเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้ฟังแต่ตำรวจไม่เชื่อ ถึงตรงนี้ Jodi ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรนอกจากเข้มแข็งไว้และตั้งสติก่อนจะจำใจพาลูกสาวกลับไปที่ห้อง ในคืนนั้นเอง Jodi ตื่นตอนตี 03:37 (อีกแล้ว)เพราะเตียงสั่นอย่างกับแผ่นดินไหว ไฟในห้องติดๆดับๆ ตุ๊กตาพูดขึ้นว่า “ รู้สึกดีจัง รู้สึกดีจัง รู้สึกดีจัง รู้สึกดีจัง ” ซ้ำๆ(ตุ๊กตาแบบกดปุ่มแล้วจะมีเสียง) Jodi หยิบตุ๊กตาขึ้นมาเพื่อแกะถ่านออกก่อนจะยัดไว้ในชั้นวางของ

10.ในเดือนกุมภาพันธ์ Jodi ตื่นตอนตี 03:37 (อีกแล้ว)เพราะได้ยินเสียงดังอยู่ในห้องครัว Jodi ลุกขึ้นไปดูปรากฎว่า TV เปิดอยู่ทั้งที่เธอปิดไปแล้ว จอ TV ปรากฎภาพลูกน้ำ+เสียงซ่า จากนั้น Jodi ก็หันไปเห็นเตาแก๊สในห้องเปิดอยู่ทั้งที่เธอปิดไปแล้วแล้ววันนั้นเธอไม่ได้ประกอบอาหารในห้องด้วยซ้ำ ตู้เสื้อผ้าเปิด-ปิดซ้ำๆ ในขณะเดียวกันเสียงตุ๊กตาพูดขึ้นว่า “ รู้สึกดีจัง รู้สึกดีจัง รู้สึกดีจัง รู้สึกดีจัง ” ซ้ำๆ Jodi รู้สึกกลัวสุดขีด คุณจำได้ไหมที่ผมบอกว่า Jodi แกะถ่านตุ๊กตาแล้วยัดไว้ในชั้นวางของตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งก่อน แล้วเสียงมันจะออกมาได้ไง? แล้วเวลาตี 3 ครึ่งเนี่ยนะ ในขณะที่ Jodi ตะลึงกับเรื่องแปลก 4 อย่างที่ว่าเกิดขึ้นพร้อมกัน อยู่ดีๆไฟทั้งห้องก็ติดพรึบขึ้นมา ถึงจุดนี้ไม่ต้องคิดอะไรให้เสียเวลา Jodi อุ้มลูกสาวแล้ววิ่งออกจากห้องทันที *มันน่ากลัวมากๆ* Jodi ไปขอความช่วยเหลือจากผจก.อพาร์ทเม้นท์ โดย Jodi เรียกให้ผจก.ไปดูที่ห้องเธอด้วยกัน ผจก.ตื่นมาในสภาพงัวเงีย+หงุดหงิดแต่เมื่อเห็นว่าเป็น Jodi และได้ฟังเรื่องที่ Jodi เล่าผจก.อพาร์ทเม้นท์ก็หน้าถอดสี แต่ด้วยหน้าที่ก็ต้องไปและผจก.อพาร์ทเม้นท์อุ้มหมาของเขาไปด้วย ทั้ง 3 เดินแบบกล้าๆกลัวๆไปที่ห้องนั้น แล้วเรื่องหลอนก็ก็เกิดขึ้นต่อหน้า Jodi และผู้จัดการอพาร์ทเม้นท์หลังเดินผ่านประตูเข้าไป เริ่มที่หมาของผู้จัดการกระโดดออกจากอกเจ้าของไปเห่าและขู่อะไรสักอย่างที่ลอยอยู่ในอากาศ หลังจากนั้น #ตั้งใจอ่านให้ดีนะครับ ทั้ง 3 เห็นภาพนี้พร้อมกัน คือ สายไฟของโคมไฟเริ่มขยับเองแล้วค่อยๆหมุนต่อหน้าต่อตาพวกเขา คุณนึกภาพเล่นกระโดดเชือก นั่นแหละสายไฟหมุนเองแบบนั้นเลย โคตรหลอน ทั้ง 3 วิ่งออกจากตรงนั้นโดยอัตโนมัติ ผจก.อพาร์ทเม้นท์กลับห้องแล้วปิดประตูทันที แล้ว Jodi เธอไม่มีที่ไปก็เลยนั่งร้องไห้อยู่หน้าตึกจนถึงเช้า

11.ตอนเช้ามีชายแก่คนนึงพาหมาออกมาเดินเล่นพอดี ซึ่งชายแก่คนนี้อยู่อพาร์ทเม้นท์นี้มา 25 ปีแล้วและเขารู้จัก Jodi เขาเห็น Jodi ร้องไห้เดาได้เลยว่าเป็นอะไรก็เลยเดินไปหาแล้วพูดว่า “รู้ไหม ไม่ค่อยมีใครอยู่ตึก 14 นี้ได้นานหรอกนะ ก่อนหน้านี้ใครเข้าอยู่เขาก็เจอเหมือนกัน” Jodi ได้ยินแบบนั้นก็เล่าให้ชายแก่คนนั้นฟังว่าเธอเจออะไร ชายแก่ก็ถอนหายใจและนั่งลงข้างๆ Jodi ก่อนที่จะเล่าว่า มันเป็นเรื่องของเด็กสาวคนนึงเธอเคยอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ห้องเดียวกับ Jodi เมื่อนานมาแล้ว (24 ปีก่อน) ย้อนกลับไปวันที่ 31 มกราคม 1976 (วันเดียวกับที่ Jodi ย้ายเข้าอพาร์ทเม้นท์แต่ห่างกัน 24 ปี)มีเด็กหนุ่มคนนึงแจ้งความว่าแฟนสาววัย 18 ปีของเขาหายตัวไปเป็นผู้หญิงผิวขาว ผมสีน้ำตาลแดง เรื่องคือ เขาทั้ง 2 ไปเดินตลาดนัดแล้วทะเลาะกันรุนแรง แฟนสาวโกรธมากเลยตัดสินใจเดินกลับคนเดียวไม่ขึ้นรถของแฟน ส่วนแฟนหนุ่มก็โกรธไม่ตามง้อปล่อยให้แฟนเดินกลับเอง ครั้งสุดท้ายเห็นแฟนสาวเดินอยู่ข้างถนนก่อนที่แฟนหนุ่มจะขับรถกลับไปรอที่อพาร์ทเม้นท์ รอแล้วรอเล่าแฟนสาวของเขาก็ไม่กลับมาสักที เขาจึงขับรถตามหาก่อนที่จะแจ้งตำรวจ เด็กสาวที่หายตัวไปก็คือหายสาบสูญไปเลยไม่เคยมีใครเจอเธออีก ชายแก่รู้จักกับเด็กสาวคนนั้นแต่จำไม่ได้จริงๆว่าเธอชื่ออะไร #ชายแก่เล่าแค่นี้

12.หลังจากนั้นเวลาผ่านไป Jodi ก็ฝันถึงเหตุการณ์ที่มีภรรยาคู่เดิมลักพาตัวเด็กสาวคนนึงขึ้นรถก่อนใช้ผ้าอุดปากเธอแล้วฝันก็ตัดฉากไปในสถานที่นึงเหมือนเป็นห้องใต้ดิน Jodi เห็นเด็กสาวคนนั้นถูกล่ามโซ่และตรึงแขวนยกลอยเอาไว้ในท่าปลาดาวก่อนจะทำร้ายร่างกาย nารุณกssมทางIพศอย่างสาหัส แต่คราวนี้เธอเห็นรายละเอียดเด็กผู้หญิงที่ถูกลักพาตัวในฝันชัดมาก เป็นเด็กผิวขาวผมสีน้ำตาลแดง นานวันเข้าเริ่มฝันเห็นภาพที่มันรุนแรงวิปริตผิดมนุษย์ทั้งทรมาsและเล่นสนุกทางIwศกับเด็กสาวก่อนจะสะดุ้งตื่นเวลาตี 3:37 วันนึง Jodi ฝันว่าสามีภรรยาคู่เดิมกำลังทารุuกssมเด็กคนนึงเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เด็กคนนั้นคือ Hannah ลูกสาวของเธอเอง Jodi กรี๊ดด้วยความหวาดกลัวสุดขีดก่อนจะสะดุ้งตื่นเวลาตี 3:37 น. Jodi รับไม่ได้จึงย้ายออกทันทีรวมระยะเวลาเธออยู่ห้องนั้นได้เกือบๆ 3 เดือน

#ตรงนี้มีประเด็น ตอนที่ Jodi ติดต่ออพาร์ตเมนต์เพื่อขอย้ายออกและแจ้งเหตุผลไปตรงๆ เจ้าของอพาร์ตเมนต์ลงมาคุยกับ Jodi ด้วยตัวเองโดยยื่นขอเสนอเขาจะให้ Jodi ไปอยู่อพาร์ตเมนต์อีกที่นึงที่เขาเป็นเจ้าของโดยไม่ต้องจ่ายค่าแรกเข้า แต่มีข้อแม้ว่า Jodi ต้องไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร ซึ่ง Jodi ตอบตกลง

13.หลัง Jodi ย้ายออกจากอพาร์ทเม้นท์นั้น เวลาก็ผ่านไปหลายปีจนถึงช่วงปี 2007 ช่วงนั้น Jodi คบหากับแฟนใหม่คนนึงชื่อว่า Joel Wiley วันนึงหลังเลิกงาน Jorl แฟนของ Jodi เจอหนังสือเล่มนึงชื่อว่า Perfect Victim: The True Story of "The Girl in the Box “ เป็นหนังสือที่เล่าคดีที่ดังมากๆคดีนึงที่ 2 สามีภรรยาลักพาตัวเด็กสาวที่ชื่อ Colleen Stan ไปขังไว้ในกล่องเพื่อให้ผู้เป็นสามีทารุuกssมทางIwศและทsมาsสนองความโรคจิo Joel รีบไปหา Jodi ก่อนยื่นหนังสือให้ดูแล้วพูดว่า “ คุณจำได้มั้ยที่คุณเคยเล่าให้ผมฟังที่ว่าคุณไปอยู่ในอพาร์ทเม้นท์แล้วเจอเรื่องหลอนรวมถึงฝันเห็นสามีภรรยาคู่นึงลักwาตัวเด็กสาวคนนึงไป” แฟนของ Jodi เล่าต่อว่า “เนี่ยผมอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วไปเจอข้อมูลว่าเคยมีเด็กสาวอาศัยอยู่ในห้องนั้นกับแฟนหนุ่มในปี 1976 ผู้หญิงคนนั้นมีชื่อว่า Marie Elizabeth Spannhake เธอเป็นเหยื่อรายแรกของสามีภรรยาโรคจิoทุกวันนี้ก็ยังหาศwไม่เจอ“ และ Joel ยังอีกอีกด้วยว่าเด็กคนนั้นมีชื่อเล่นว่า “Marliz” Jodi ได้ยินแบบนั้นถึงกับช็อคครับ ถ้าคุณจำได้ที่ผมเล่าว่าตอนที่ Jodi กับลูกสาวยังอยู่ในอพาร์ทเม้นท์นั้น เด็กบอกแม่ว่าคุยกับ Miliz เธออยู่ในห้องกับเรามันใกล้เคียงกับที่ลูกสาวของ Jodi บอกเลย (ก็ตอนนั้นเด็ก 3 ขวบเนอะพูดไม่ค่อยชัด) Jodi เอารูปของ Marliz Spannhake จากหนังสือเล่มนั้นไปให้ลูกดูโดยไม่บอกข้อมูลใดๆ ลูกสาวของ Jodi เห็นรูปก็พูดขึ้นทันทีว่า “คนนี้ไง Miliz ที่เคยอยู่ห้องเดียวกับเรา” แม้เวลาจะผ่านไป 7 ปีแต่ลูกสาวของ Jodi ยังจำได้แม่น

Joel ได้หนังสือเล่มเน้นจากแผงหนังสือที่นึง #ความพีคคือ แผงผนังสือที่ว่าในอดีตที่ตรงนั้นมันคือตลาดนัด เป็นตลาดนัดเดียวกันที่ Marliz Spannhake ทะเลาะกับแฟนก่อนหายตัวไป อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น

14.คดีการหายตัวไปของเด็กสาวที่ชื่อ Marliz Spannhake หรือก็คือผีในเรื่องนี้ คดีนี้ก็เป็นปริศนามาจนในปี 1984 มีผู้หญิงคนนึงมาสารภาพกับบาทหลวงและให้บาทหลวงพาเธอไปมอบตัวกับตำรวจ ผู้หญิงคนนั้นมีชื่อว่า Janice Hooker โดยเธอสารภาพว่า สามีที่ชื่อ Cameron Hooker บังคับให้เธอร่วมกันลักwาตัวเด็กสาวซึ่ง Cameron เป็นคนโรคจิoเขาคิดแผนและเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือไว้พร้อมสำหรับเหยื่อ Cameron สร้างกล่องเพื่อใช้สำหรับขังเด็กสาวที่จะลักwาตัวมาทารุณกssมทางIwศไว้นานแล้วก่อนจะลักwาตัวเด็กสาวที่ชื่อ Colleen Stan คดีนี้ดังไปทั่วโลก Janice Hooker ผู้เป็นภรรยาไอ้โรคจิoยังสารภาพอีกว่าก่อนที่พวกเขาจะลักwาตัว Colleen Stan ก่อนหน้านั้น 1 ปีพวกเขาเคยกระทำแบบเดียวกันกับเด็กสาวคนนึงมาแล้ว แล้วเด็กสาวคนนั้นที่ว่าก็ คือ Marliz Spannhake หรือ #ผี ในเรื่องนี้

15.ภรรยาไอ้โรคจิoสารภาพว่าวันนั้นพวกเขาขับรถอยู่บนถนนแล้วเห็นเด็กสาว Marliz Spannhake เดินอยู่ข้างถนน Camerom Hooker เห็นแบบนั้นก็อยากลักwาตัว พวกเขาขับรถวนอยู่ 4-5 รอบก่อนจะเข้าไปถามว่า “ให้พวกเราไปส่งไหม” Marliz เห็นว่าเขาเป็นคู่สามีภรรยาก็คิดว่าคงไม่เป็นไรก็เลยขึ้นรถมาด้วย เมื่อขึ้นรถ 2 สามีภรรยา Marliz พึ่งพึ่งทะเลาะกับแฟนแถมเห็นสามีภรรยาที่ชวนเธอขึ้นรถมาด้วยรักกันดี Marliz จึงระบายให้พวกเขาฟังว่า เธอพึ่งย้ายมาเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ในเมืองนี้กับแฟน เธอไม่มีญาติที่นี่ Cameron หรือสามีโรคจิoได้ยินแบบนั้นก็คิดว่า Marliz นี่เหมาะที่จะเป็นเหยื่oมากก็เลยใช้ผ้าโปะยาสลบ ก่อนที่จะพาเธอไว้ขึงไว้กับโซ่เพื่อทารุณกssมทางเwศในห้องใต้ดินที่บ้านของพวกเขาและขัง Marliz ไว้ในกล่องคุ้นๆไหมครับ “ 2 สามีภรรยารับเด็กสาวขึ้นรถแล้วใช้ผ้าโปะยาสลบโปะเด็กสาว “ , “ 2 สามีภรรยาจับเด็กสาวล่ามโซ่ในห้องใต้ดิน” มันเป็นภาพเดียวกับที่ Jordi ฝันตอนอยู่อพาร์ทเม้นท์นั้นเลย (จริงๆ Jodi ฝันมากกว่านี้ภาพในฝันโหดร้ายเกินมนุษย์ทั่วไปจะรับไหว ผมทำใจพิมพ์มากกว่านี้ไม่ได้)

16.สาเหตุกาsIสียชีวิoของ Marliz คือ หลังสามีภรรยา Hooker ทารุณกssมทางเwศเธอเป็นที่พอใจ Cameron หรือสามีไอ้โรคจิoไม่ต้องการให้เหยื่อส่งเสียงร้องได้อีก Cameron จึงใช้มีoเจาะที่คoของ Marliz เพื่อทำลายเส้นIสียง แน่นอนครับ Cameron แค่อ่านมาจากหนังสือไม่ได้เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ Cameron พลาดเจาะลึกเกินไปทำให้เลือoของ Marliz ไหลออกมาไม่หยุดจนไอ้โรคจิoไม่รู้จะทำไงต่อก็เลยตะโกนคำรามด้วยความเสียดายเหยื่อ ก่อนที่จะพาร่างของ Marliz ที่ใกล้ตุยไปขังไว้ในห้องใต้ดินแล้วกระทำการก็คือ Cameron ใช้เชือกผูกกับเพดานทำบ่วงแล้วยกร่างของ Marliz มาแขวนคoในท่านั่งกึ่งยืนก่อนที่จะพาศwไปทิ้งไว้ในป่า ย้อนกลับไปคุณจำได้ไหม Jodi แม่เลี้ยงเดี่ยวที่ไปเช่าห้องแล้วเจอวิญญานของ Marliz มีวันนึงที่ Jodi กลับมาที่ห้องแล้วเห็นตุ๊กตาของลูกสาวมีเชือกร้องเท้าผูกอยู่ที่คoของตุ๊กตา หรือว่าวิญญาน Marliz ไม่ได้หลอกให้เธอกลัว แต่พยายามสื่อสารให้รู้ว่าเธอเสียชีวิตอย่างไร แล้วคุณยังจำได้ไหมที่ลูกสาว Jodi วาดภาพ Miliz ถูกคู่รักคู่นึงnารุณกssมและแขวนคo

17.Janice และ Cameron Hooker 2 สามีภรรยาโรคจิoสารภาพว่าพวกเขาเอาศwของ Marliz ไปฝังไว้ในป่าแห่งนึง แต่ตำรวจตามไปหาศwเท่าไรก็หาไม่เจอ เพราะมันเป็นป่าใหญ่มากๆ เป็นไปได้ไหมว่าวิญญานของ Marliz มาปรากฎตัวให้ Jodi เห็นเพื่อขอให้เธอช่วยและไม่อยากให้ตำรวจลืมคดีนี้และหาศwของเธอให้เจอ

#ตั้งใจอ่านหนังจากนี้ให้ดีๆนะครับ

18.ย้อนกลับไปในช่วงปี 2001-2002 หลังจาก Jodi ย้ายจากอพาร์ทเม้นท์นั้นได้ 1 ปี Jodi ยังฝันแปลกๆ ฝันว่ามีสามีภรรยาคู่นึง(คู่เดิม)ยืนมองหาอะไรสักอย่างอยู่ข้างถนนช่วงเวลาใกล้มืด ในฝันเห็นหน้าไม่ชัดแต่พอดูออกว่าเป็นคู่สามีภรรยาที่เธอฝันเห็นเหมือนทุกครั้ง ในฝันระหว่างที่ Jodi ยืนมองสามีภรรยาคู่นี้อยู่นั้นก็มีเสียงผู้หญิงกระซิบข้างหูว่า “ 35.76 และ A17 ” มันเหมือนเป็นเลขระบุพิกัดตำแหน่งหรืออะไรสักอย่าง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นนานแล้วไม่ใช่ลำดับเหตุการณ์ผิดนะครับ แต่ตอนที่ Jodi ฝัน ณ ตอนนั้นเธอยังไม่รู้ว่าคืออะไร ไม่รู้ว่าวิญญานนั้นต้องการมาสื่อสาร เมื่อเธอได้รับข้อมูลจากแฟนว่าวิญญานของผู้หญิงที่เธอเคยเห็นเป็นเหยื่oไอ้โรคจิoและปัจจุบันยังหาศwไม่เจอ Jodi พึ่งคิดได้ว่า “หรือวิญญานจะพยายามบอกจุดที่คนร้ายเอาศwเธอไปฝัง” จากนั้น Jodi ได้โทรไปเล่าตำรวจซึ่งโชคดีมากๆที่จนท.ตำรวจคนที่รับสายคือจนท. Kyle เขาเป็นคนจริงจังกับงานเก็บทุกรายละเอียดได้ยินแบบนั้นก็เลยนัดเจอกับ Jodi ที่ร้านกาแฟ(เอาจริงๆในอเมริกามีหลายเคสที่ไขได้เพราะสิ่งลี้ลับ) เมื่อไปเจอกันที่ร้านกาแฟ Jodi เล่าให้ฟังว่าเธอเคยไปอยู่อพาร์ทเม้นท์ห้องเดียวกับ Marliz Spannhake ก่อนที่เธอจะหายตัวไปแล้วเธอเจอเรื่องแบบนี้และเธอเคยฝันถึงตัวเลข 35.76 และ A17 หลังจากที่จนท. Kyle เอาตัวเลขที่ว่าไปตรวจสอบข้อมูลพบว่า ช่วงถนนในป่าสาย 44 ที่ 2 สามีภรรยาโรคจิoสารภาพว่าเอาศwของ Marliz ไปทิ้งแถวนั้นแต่จนท.หายังไงก็หาไม่เจอ จริงๆตรงนั้นยังมีถนนที่เป็นทางลัดเป็นถนนเล็กๆชื่อถนนสาย A17 ตรงกันเป๊ะกับตัวเลขที่ Jodi ฝัน แต่ตอนนั้นด้วยอะไรหลายๆอย่างด้วยความที่ป่ามันใหญ่มากๆพวกเขาเลยไม่ได้เข้าไปค้นหาในถนนที่เป็นทางลัดสาย A17 ไม่ใช่แค่นี้นะครับ เมื่อสารวัตร Kyle ใช้โปแกรมคำนวณแผนที่ของกรมตำรวจ จากการคำนวณจากบ้านของผู้ก่อเหตุก็คือ Cameron ไปยังจุดที่ Cameron และ Janice ชี้จุดทิ้งศพของ Marliz คือ ระยะทาง 35.77 ไมล์ ห่างกับตัวเลขที่ Jodi ฝันเพียงแค่นิดเดียว ซึ่งจนท.Kyle ก็พาจนท.ไปค้นหาจุดที่ว่าอีกรอบรวมถึงจุดตามเลขพิกัดที่ Jodi ฝัน แต่ด้วยความที่เป็นป่าที่กว้างใหญ่มากจนถึงปัจจุบันก็ยังหาศพของ Maliz เหยื่อไอ้โรคจิoหรือ “ผี” ในเรื่องนีไม่เจอ