อามันต์เจ้าแห่งป่า (นางละแวงน้อย)
นิยายเรื่อง อามันต์(เจ้าแห่งป่า) นามปากกา...มาศอุไร
วางจำหน่าย ในรูปแบบนิยายออนไลน์ (ebook)
แพลตฟอร์มที่วางจำหน่าย : Meb ธัญวลัย นายอินทร์ Ookbee
สามารถ เข้าอ่านเนื้อหา ฉบับเต็มได้ตาม แพลตฟอร์มนิยายชั้นนำทั่วไป อาทิเช่น...
( Dek-d , readAwrite , ธัญวลัย , Hongsamut , fictionlog )
-----------------------------------------------------
*ลิงค์สำหรับเข้าโหลดซื้อนิยาย ebook เรื่อง อามันต์(เจ้าแห่งป่า)*
------------------------------------------------------
*สามารถเข้าอ่านนิยาย อามันต์(เจ้าแห่งป่าฉบับเต็มได้ที่ ธัญวลัย) ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยนะคะ
- https://www.tunwalai.com/story/469450
--------------------------------------------------------
*แฟนเพจ: กนกรส* https://www.facebook.com/กนกรส-1742298989361370/
--------------------------------------------------------
อ่านต่อได้ที่ https://board.postjung.com/1536044
อ่านต่อได้ที่ https://board.postjung.com/1536425
นางละแวงน้อย
(1)
อากาศยามเช้าในเขตพื้นป่าดงดิบค่อนข้างจะหนาวเหน็บเอาการ สัตว์ป่าน้อยใหญ่ต่างพากันเคลื่อนตัวออกจากแหล่งกลบดานเพื่อออกหาแหล่งอาหาร กลิ่นดิน กลิ่นเน่าอับจากซากใบไม้หลุดร่วงสะสมอยู่บนพื้น ลอยอบอวลไปทั่วทั้งผืนป่าซึ่งยังคงไว้ถึงความเขียวขจีและความอุดมสมบูรณ์ ...
ที่เป็นเช่นนั้นเพราะป่าดงดิบแห่งนี้มีเจ้าป่าหนุ่มที่ชื่อ อามันต์ เป็นผู้ปกป้อง คุ้มครอง สัตว์น้อยใหญ่ล้วนตกอยู่ใต้อาณัติของชายหนุ่มนามนี้แต่เพียงผู้เดียวมาช้านาน รวมทั้งภูตผีวิญญาณร้าย ต่างก็ไม่อาจหาญต่อกรกับเจ้าป่าหนุ่มผู้นี้ได้เลย พวกมันต่างรู้ดีถึงอำนาจลึกลับในตัวหนุ่มเจ้าแห่งป่าร้ายแรงเพียงใด
“อา...เช้าแล้วหรือนี่...”
เจ้าแห่งป่าหนุ่มฉกรรจ์ผู้มีใบหน้าคมคร้ามหล่อเหลาราวเทพบุตรบ่นเสียงงึมงำในลำคอ เขางัวเงียลืมตาตื่นในขณะข้างกายเขายังมีสาวงามนอนทอดกายเหนื่อยล้าซึ่งมีผลมาจากอาการอ่อนเพลีย
บนเรือนร่างขาวลออปรากฏร่องรอยแดงเป็นจ้ำ ปลายจะงอยสีหวานยังคงชุ่มช้ำด้วยน้ำลายเหนียวหนืด ตรงบริเวณกึ่งกลางกลีบสาวเองก็บวมช้ำ สองกลีบแบะอ้ายังหลงเหลือลาวาขาวขุ่นไหลซึมอยู่เลย คงเป็นตอนนอนกระมัง เจ้าป่าหนุ่มที่อดใจไว้ไม่ไหวคอยไล้ปลายนิ้ววนเวียนไปทั่วเกสรบวมช้ำ
อามันต์บิดตัวอย่างเกียจคร้าน เขายันตัวลุกขึ้นนั่งโดยปล่อยให้ผ้าห่มผืนบางหลุดร่วงไปกองไว้ใต้เอวสอบ อวดกล้ามหน้าท้องแข็งโป๊กขึ้นเป็นลอนสวยงาม เขาก้มหน้าพลางยกมือทุบลงบนต้นคอแกร่งให้คลายอาการเมื่อยล้า
เมื่อคืนเขาดันโหมกำลังลงมือจัดการกลืนกินแม่สาวงามช่างยั่วตะกละตะกลามมูมมามไปสักหน่อย
ก็แหม่นะ...ของสด ของใหม่ ใครเขาค่อยๆกลืนเข้าท้องกัน มีแต่จะฉีกเนื้อกินกันซะมากกว่า
-------------------------------------------
เรื่องราวมันเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เขากำลังนั่งชมแสงจันทร์ท่ามกลางแมกไม้ไหวสะบัดไปตามแรงลมพัดเอื่อยเฉื่อย ปลายจมูกโด่งสูดดมกลิ่นหอมของดอกไม้ป่าอย่างเพลิดเพลินอุรา แต่แล้วจู่ๆหูของอามันต์พลันได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวบางอย่างไมห่างจากระเบียงกระท่อม
น้ำหนักเท้าบ่งชี้ว่าการเคลื่อนไหวนั้นหาใช่สัตว์ร้ายแต่อย่างใด ต้องเป็นมนุษย์หรือไม่ก็ภูติสาวสักตน มาเยี่ยมเยียนเขาในเวลาเช่นนี้ชายหนุ่มพอจะเดาออกได้ไม่ยาก มนุษย์หรืออมนุษย์ตนนั้นปรารถนาสิ่งใดจากตัวเขา
อามันต์จึงรีบเคลื่อนย้ายตัวมายังระเบียง มือเท้าลงบนขอบไม้ เพ่งสายตาดุกร้าวไปยังทิศทางของเสียงเคลื่อนไหว
‘กลิ่นอะไร ทำไม่ถึงหอมแปลกๆเช่นนี้...’
อามันต์ยังไม่เห็นว่าเป็นผู้ใด มีเพียงปลายจมูกโด่งที่ได้กลิ่นหอมแปลกประหลาด กลิ่นนั้นเป็นตัวเร่งเร้าให้สองเท้าเจ้าป่าหนุ่มก้าวพรวดลงจากกระท่อมไม้ ตรงไปยังต้นสักป่าสูงตระหง่านต้นหนึ่งซึ่งใกล้กับสายตาอามันต์มากที่สุด ยิ่งเดินเข้าใกล้ต้นไม้นั่นมากขึ้นเท่าใด กลิ่นหอมแปลกประหลาดยิ่งทำให้หัวใจเจ้าป่าหนุ่มเต้นระรัว
และแล้วอามันต์ก็เจอที่มาของกลิ่นหอม ดวงตาเขาหรี่แคบมองสิ่งนั้นด้วยอาการหวั่นไหวอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน
‘เอ็งเป็นผู้ใดกันถึงได้มายืนหลบซ่อนอยู่หลังต้นไม้ ต้นนี้’
หลังต้นไม้ใหญ่อายุนับร้อยปี ปรากฏร่างสาวงามรูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ซึ่งมีใบหน้างดงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์ เจ้าหล่อนยืนกระมิดกระเมี้ยนเขินอายต่อสายตาหื่นกระหายของชายที่ตนหมายมั่นเพียงต้องการมาสมสู่ เพราะได้ยินคำเล่าลือจากพวกพ้องถึงความเก่งฉกาจ
‘เอ้า!ว่าอย่างไรเล่า เอ็งมีธุระสำคัญอะไรถึงได้มาเยือนถึงกระท่อมกลางป่าของข้าเอาซะดึกดื่นปานนี้? ว่าแต่...มาถึงแล้วไยเอ็งถึงไม่ขึ้นไปหาข้าบนกระท่อมนั่นล่ะ มายืนทำลับๆล่อๆ ซ่อนตัวอยู่ตรงนี้จะให้ข้าเข้าใจว่าอย่างไรดี?’ เจ้าป่าหยั่งเชิงถามโดยไม่นึกเกรงกลัวต่อสาวงามลึกลับตรงหน้าสักนิด
ส่วนคนถูกถามยืนกระสับกระส่าย ไม่กล้าสบตาเอาแต่ยืนก้มหน้างุด
‘หรือเอ็งมีจุดประสงค์ไม่ดีต่อข้า...’
‘เปล่าจ้ะเปล่า...ฉันมาดี ไม่ได้มาร้าย...ฉันมีชื่อว่าละแวงจ้ะ เดินทางมาจากป่าทางฝั่งเหนือ...’ ป่าทางฝั่งเหนือแฝงเร้นไปด้วยเรื่องเหนือธรรมชาติ
อามันต์เดินเข้าหานางละแวงน้อย กวาดสายตาหื่นกระหายจับจ้องเรือนร่างอรชรบอบบางด้วยความรู้สึกพึงพอใจ
‘ชื่อไพเราะ ช่างเหมาะสมกับตัวเอ็งเสียจริง ไหนเอ็งลองขยับเข้ามาใกล้ๆ มาให้ข้าดูใบหน้าเอ็งให้ชัดๆสักหน่อยสิ ที่บอกว่ามาดีน่ะ มาดีอย่างไร?’
ละแวงน้อยก้าวเท้าเดินหน้าเข้ามาใกล้ชายผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งป่าอาถรรพ์อย่างกล้าๆกลัวๆ ต่อให้คราแรกเธอจะทำเป็นอาจหาญ กล้าบุกมาหาเขาถึงที่ป่าแห่งนี้เพียงลำพัง พอเอาเข้าจริงด้วยประสบการณ์อ่อนด้อย ยังน้อยปีกับการออกสู่โลกกว้าง ละแวงน้อยจึงยังอดรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาครามครันไม่ได้
ชายหนุ่มผู้ได้ขึ้นชื่อลือชาถึงความอาจหาญ ยื่นปลายนิ้วยาวเชยปลายคางมนขึ้นสูง ใช้สายตาเจ้าเล่ห์กวาดมองด้วยความรู้สึกชื่นชมในความงดงาม ไหนจะกลิ่นกายหอมแปลกประหลาดนี่อีก เป็นกลิ่นที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ตัวกลิ่นช่วยเร่งเร้ากำหนัดในตัวเขาให้ลุกกระพือรุนแรง
คงเป็นกลิ่นหอมจากผสมสมุนไพรบางตัวกระมัง อาการภายในกายเขาถึงได้รู้สึกระสับกระส่ายพิกล อีกทั้งเขายังเคยได้ยินเสียงเล่าลือถึงป่าทางฝั่งเหนือมักนิยมปลูกสมุนไพรเสริมกำลังวังชา
‘ละแวงอยากมารับใช้นายจ้ะ พี่ๆของละแวงบอกว่า นายใจดี...’
‘ข้านี่นะใจดี?...’ อามันต์ย้อนถาม ใบหน้าพึงพอใจไม่น้อย จะว่าไปโดยส่วนมากเขาก็ใจดีกับบรรดาสาวๆทุกคนนั่นแหละ
‘ว่าแต่เอ็งจะมารับใช้ข้าอย่างไร! พี่สาวเอ็งได้บอกไว้หรือไม่?...’
‘บอกจ้ะ...’ พี่สาวในฝูงบอกให้เธอใช้เรือนร่างปรนเปรอความสุข
‘แล้วนางพวกนั้นบอกละเอียดหรือไม่...วิธีการรับใช้ข้าต้องทำอย่างไร?’
‘บอกจ้ะ...ละแวงต้องทำให้นายท่านมีความสุขด้วยเรือนร่าง’
อามันต์ยิ้มพอใจ รั้งร่างงามขาวอวบอัดเข้ามาสวมกอด แนบลำตัวเข้าหาอย่างสนิทชิดเชื้อ แสดงความปรารถนาร้อนแรงโดยผ่านทางกึ่งกลางลำตัวที่กำลังโปร่งพองขึ้นตามแรงกำหนัดรุกเร้า
‘ดีมาก...ไม่เพียงแต่ข้าจะมีความสุข เอ็งก็มีความสุขร่วมไปกับข้าด้วย’
‘อุ๊ย!...นายท่าน...’
ละแวงมีอาการสะดุ้งเล็กน้อยไม่คิดว่าจะถูกเจ้าแห่งป่าหนุ่มจู่โจมรวดเร็ว ผิวสาวร้อนผะผ่าวเมื่อรู้สึกถึงท่อนใหญ่กึ่งกลางลำตัวของเขาทิ่มเข้าหา
ละแวงตัวน้อยเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยแววตาตื่นตระหนก ก่อนจะระงับไว้ด้วยใบหน้าใส่ซื่อราวกับน้ำค้างคืนแรม
‘ละแวงมาจากแดนไกล ปรารถนาให้นายท่านช่วยเอ็นดูด้วยนะจ๊ะ’
ใบหน้างามซบลงบนหน้าอกแกร่งเพื่อต้องการฝากเนื้อฝากตัว
อามันต์ยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังเนียน ถือเป็นการตอบรับคำขอโดยไม่ต้องคิดมาก ยังไงเขาก็เอ็นดูพวกสาวๆมากกว่าพวกไอ้ลิงป่าทั้งหลาย ไอ้พวกนั้นมีแต่จะสร้างเรื่องให้เขาปวดหัว
‘เอ็งกลัวข้าหรือไม่ละแวง?...’
เสียงแหบพร่าสั่นกระเส่าเอ่ยถาม โดยมือไม้หยาบกระด้างเริ่มจะไต่ตามสัมผัสไปบนผิวกายเรียบลื่น บางจังหวะมีการหยุดเคล้นคลึงหมุนวนไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งอันน่าพึงใจ หรือยามเขารู้สึกดีก็จะหยุดหยอกเย้าใช้เวลาอยู่ตรงส่วนนั้นนานอยู่สักหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแถวบั้นท้ายงอนงาม
อ๊า…รู้สึกดีจัง!
อามันต์ลงน้ำหนักมือบีบขย้ำย้ำๆ จนกายสาวขาวโพรนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ กำนัดอัดแน่นในอารมณ์พลุกพล่าน เกิดจากความรู้สึกลุ่มร้อนด้วยไฟราคะเผาไหม้
นางแมวป่าตัวน้อยออกอาการสั่นสะท้าน เบียดตัวเข้าหาร่างกายบึกบึน จนเศษชิ้นผ้าคาดหน้าอกซึ่งปกปิดทรวงงามขนาดใหญ่ทำท่าจะหลุดร่วงได้ตลอดเวลา ทว่าอามันต์ยังทำใจเย็น ยังไม่คิดดึงรั้งในสิ่งน่าปรารถนาซุกซ่อนไว้เพียงผืนผ้าบางเบา
‘ฉันไม่กลัวหรอกจ้ะ พวกพี่สาวบอกว่านายท่านใจดี...ถ้าทำตัวว่านอนสอนง่าย นายท่านมีแต่จะมอบความสุขให้จนล้นปรี่’ ละแวงบอกตามที่ได้ยินมา
‘พวกพี่สาวเอ็งมันพูดถูก ถ้าเอ็งอยากมีความสุข ก็ต้องทำตัวว่านอนสอนง่ายต่อข้า เข้าใจใช่ไหม?’
‘เข้าใจจ้ะ...ละแวงจะไม่ทำตัวดื้อด้านกับนาย...’ นางแมวยั่วสวาทเงยหน้าเอ่ยปากขึ้นประจบสอพอ หวังจะให้เขารักใคร่ไยดี
เจ้าแห่งป่าหนุ่มทนต่อความน่ารักน่าเอ็นดูไม่ไหว จึงก้มหน้าลงมามอบจูบแสนหวานให้กับสาวน้อยละแวง...หัวอ่อนว่าง่ายแบบนี้สิเขาชอบ เขาจะได้มอบความสุขให้เจ้าหล่อนถึงพริกถึงขิงกันไปข้าง
ถึงเขาจะไม่เคยอดอยากปากแห้งกับการเสพสมกามา ของสวยๆงามๆเช่นนี้ถือเป็นของชอบของเขานักแล..
จูบแสนหวานที่ละแวงน้อยได้รับนั้นช่างเนิ่นนานแทบขาดใจ สาวเจ้าถึงกับขาอ่อนตัวอ่อน หมดแรงจนต้องเอนซบแนบลำตัวขนานไปกับร่างกายกำยำ อามันต์ตวัดปลายลิ้นลิ้มเลียไปตามซอกหลืบแสนหวานละมุนละไม แล้วค่อยๆช้อนร่างอรชรอ่อนแรงอุ้มมาวางพาดไว้บนเตียงไม้ใต้ต้นจามจุรี
‘นายท่าน...’ เสียงของละแวงน้อยสั่นพล่า เจ้าตัวนอนทอดกายหายใจระทวยเฝ้ารอเวลาแห่งความหฤหรรษ์ กลีบสาวของเธอเต้นหนุบหนับ มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ละแวงน้อยไม่เคยเป็นมาก่อน
‘ไยเอ็งช่างน่ากินไปทั้งเนื้อทั้งตัวเช่นนี่หนอ...คอยดูเถอะ ข้าจะกินเอ็งไม่ให้เหลือแม้แต่ซาก...’
อามันต์เอ่ยปากชมหลงในรูปลักษณ์งามพลิ้ง มือใหญ่หยาบกระด้างรีบกระตุกกางเกงให้พ้นสะโพกกำยำ ลำโด่ซึ่งแข็งขยายอยู่ก่อนหน้าดีดตัวพุ่งทะยานออกมาประกาศศักดิ์ดา ส่วนปลายหัวเห็ดบานแดงก่ำชี้โด่เด่ตรงหว่างขาแข็งแกร่งล่ำสันน่าสะพรึงกลัว
ละแวงน้อยที่เห็นชัดถึงกับเบิกตาโต ตะลึงตะลานกับความใหญ่โตมโหฬาร
นี่น่ะเหรอที่เขาเรียกกันว่าอวัยวะเพศของผู้ชาย ทำไมมันถึงช่างดูน่ากลัวสยดสยองเช่นนี้หนอ...
อกละแวงเกือบกระดอนจนอยากจะถอดใจแล้ววิ่งกลับเข้าฝูงมันเสียบัดนั้น ทั้งขนาดทั้งความยาวจะเข้ามาในตัวละแวงได้อย่างไร?
ละแวงไม่ตายก่อนจะโตเต็มวัยพอดีหรอกหรือ?
หรือพวกพี่ๆในฝูงแมวป่าจะโกหก หลอกให้ละแวงมาให้นายท่านจับฆ่าด้วยอาวุธคู่กาย
นางแมวป่าตัวละอ่อนเริ่มสับสน แววตาตื่นตระหนกจนเจ้าแห่งป่าหนุ่มสังเกตเห็น คงเป็นความอ่อนวัยด้วยกระมังเจ้าหล่อนถึงได้แสดงท่าทางตื่นกลัวจนน่าสมเพช แต่ถ้าถูกของใหญ่ของเขากระทุ้งเข้าหาเพียงไม่กี่ที ขี้คร้านจะเปลี่ยนอาการตื่นกลัวเป็นคลั่งไคล้เรียกร้องให้เขากระทุ้งแรงๆ
ทว่ากว่าจะถึงเวลาสุขสันเยี่ยงนั้น เขาต้องใช้คำพูดหลอกล่อนางแมวป่าตัวละอ่อนเสียก่อน
‘ไม่ต้องกลัวไปหรอก ไอ้สิ่งนี้ของข้า มันไม่เคยฆ่าใครตายสักที นอกจะให้ความสุขจนล้นทะลักเท่านั้น เชื่อข้าเถอะสาวน้อย...’ เจ้าแห่งป่าหนุ่มขยับเข้ามาใกล้ รวบข้อเท้าเล็กด้วยสองมือยกขึ้นมาจูบด้วยกิริยานุ่มนวล
ละแวงน้อยสะท้านหวามไหวต่อสิ่งที่ถูกกระทำ เสียวลึกเข้าไปถึงแก่นกลางหัวใจดวงน้อย ขนในกายเธอลุกชัน อามันต์จูบเท้าเล็กขาวสะอาด เหลือบสายตาเร่าร้อนขึ้นมองเจ้าของเรือนกายอ่อนนุ่ม
‘เอ็งทั้งสวย แล้วก็มีกลิ่นหอมถูกใจข้ายิ่งนัก’
เอ่ยจบก็วางเท้าเล็กขาวสะอาดลงบนพื้นเตียงไม้ เอื้อมมือปลดชุดงามซึ่งเป็นเพียงชิ้นผ้าผืนเล็กๆออกจนเหลือเพียงกายสาวผุดผาด
แววตาหื่นพราวระยับ อู้ว!ผิวขาวเรียบเนียนน่ากินไปทุกสัดส่วน โดยเฉพาะสองกลีบชบา ทั้งอวบใหญ่แล้วก็ปราศจากไรขนให้ระคายตา
ละแวงน้อยสุดแสนจะอาย เจ้าหล่อนรีบหนีบเรียวขาเข้ามากำบังของสงวนทว่าก็ไม่เป็นผล...
---------------------------------------
อามันต์หวนนึกถึงช่วงเวลาแห่งความสุขสมในอารมณ์ ในตัวเขาชักจะเริ่มรู้สึกร้อนรุ่ม
ก็แหม่นะ...นางผู้นี้ช่างหวานหอมยั่วน้ำลายเขาเป็นนักหนา กินเท่าไรก็
ไม่ทำให้อิ่มท้อง ตะกละตะกลามกินจนเกือบรุ่งสว่างเลยทีเดียว
มาเผลอหลับเอาแรงได้หน่อย เสียงไอ้พวกตัวป่วนในป่าก็ดังเข้าหู พาทำให้เขาต้องตื่นขึ้นมาอย่างรำคาญ
“นายๆ เช้าแล้ว เช้าแล้ว...ตื่นๆ นาย ”
เสียงไอ้บาบูไอ้ลิงจอมทะเล้นตะโกนก้องไปทั่วทั้งผืนป่า มันห้อยโหนอยู่บนกิ่งก้านต้นสักป่า จากต้นหนึ่งไปสู่อีกต้นอย่างไม่อยู่นิ่งตามปกติวิสัยสัญชาตญาณความเป็นลิงนั่นเอง
อามันต์แทบอยากกระโจนออกไปเขกกะโหลกมันให้เจ็บสักที โทษฐานแหกปากไม่ดูตาม้าตาเรือ ไม่รู้มันจะแหกปากส่งเสียงดังไปทำไม เขาก็เห็นอยู่หรอกว่ามันเช้าแล้ว ก็แสงจากดวงตะวันด้านนอกเล่นส่องผ่านรอยแง้มซึ่งทำจากใบทางมะพร้าวสานเป็นแพยาวเหยียดเข้ามาส่องสว่างถึงภายใน
เจ้าแห่งป่าเงยหน้าสู้แสงระยิบแพรวพราว หยีตามองผ่านแสงจากดวงอาทิตย์เลยผ่านไปยังทิวเขาไกลโพ้น ก่อนจะดึงแววตากลับมายังเจ้าของเรือนร่างงดงาม ขาวอวบอิ่มเป็นยองใย
บนเรือนกายเจ้าหล่อนมีเพียงผ้าผืนบางปกปิดหมิ่นเหม่ โชว์เนินเต้าสล้างแลเห็นอยู่รำไร ปิดไว้เพียงส่วนหัวจุกนม มุมปากของเจ้าป่าหนุ่มกระตุก นึกชื่นชอบนางผู้นี้อยู่ครามครัน
ทั้งนมต้มหรือก็เต่งตรึง ตอนใช้มือนวดขยำให้ความรู้สึกเต็มไม้เต็มมือดีนักแล พลูสาวสองกลีบเคมก็ช่างอวบใหญ่ขาวนวลตาไร้ที่ติ ร่องรูภายในนั้นแน่นกระชับบีบรัดลำเอ็นเขาจนแทบบ้าคลั่ง
คลั่งไม่คลั่งก็ดูเอา เมื่อคืนนี้เล่นเอาเขาหมดเรี่ยวหมดแรงเชียวแหละ...
พอมาหลอมรวมเข้ากับลีลารักเร่าร้อนของสาวเจ้า เลยยิ่งทำให้อามันต์รู้สึกติดใจยังไม่ปรารถนาให้ความสุขนี้สิ้นสุดลงเพียงแค่ผ่านพ้นค่ำคืนเดียว อย่างน้อยๆเช้านี้คงต้องลิ้มลองรสสวาทของนางผู้นี้ต่ออีกสักน้ำสองน้ำ เอาให้นางผู้นี้หวนกลับเข้าฝูงไม่เป็นกันไปเลยทีเดียว
ทั้งที่อาวุธประจำกายเพิ่งจะได้นอนสงบนิ่งไปเมื่อราวครึ่งชั่วโมงนี้แท้ๆ พอได้เห็น ได้กลิ่นกายหอมแปลกประหลาด อามันต์กลับเกิดอารมณ์ปรารถนารุนแรงขึ้นมาอีกจนได้
ความเย้ายวนในเรือนร่างอวบอิ่ม ทำให้เจ้าป่าหนุ่มอดใจต่อไปอีกไม่ไหว เขาจึงโน้มตัวเข้าหา เป่าลมร้อนรดผิวแก้มนวลใส พร้อมกับส่งมือหยาบลูบไล้ผิวกายลื่นมือโผล่พ้นขอบผ้าห่มราวกับแพรเนื้อดีอีกชิ้น
“เช้าแล้ว ไยเจ้าถึงได้นอนขี้เซานักนะเล่าแม่สาวน้อยคนงาม...”
“อุ๊ย!นายท่าน...”
ละแวงน้อยลืมตาโพลง พอมองเห็นว่าเป็นผู้ใดเจ้าหล่อนเลยฉีกปากยิ้มหวานหยด พร้อมกลับพลิกกายขาวนวลลออเป็นยองใยมาทางคนปลุก จงใจเปิดเปลือยหน้าอกคู่งามซึ่งประดับด้วยเม็ดมณีสีหวานให้เขาได้เห็น
อามันต์หรี่นัยน์ตาหื่นกระหายจับจ้องสองเต้าอวบใหญ่ ลำคอรู้สึกแห้งผากขึ้นมากะทันหัน ถ้าได้ดูดนมตอนเช้าจะทำให้ร่างกายเขาจะแข็งแรงกระปรี้กระเปร่า มีเรี่ยวแรงเดินสำรวจในป่าได้เป็นวันๆ
ชายหนุ่มเลียกลีบปากแห้งผาก เรียกร้องในสิ่งที่คิดไว้ในหัวกับแม่สาวน้อยคนงาม นางที่หาใช่มนุษย์ธรรมดา
“ข้ารู้สึกหิวน้ำ...คอแห้งเป็นผุยผง ถ้าได้ดื่มน้ำสักนิดคงจะทำให้ดีขึ้น”
ปลายนิ้วสะอาดค่อยๆเลื่อนผ่านขึ้นมาด้านบน เป้าหมายนั้นคือสองเต้างามซึ่งกำลังกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงสะท้อนของการหายใจ สัมผัสวูบไหวบนเนื้อตัวทำให้ส่วนหัวจะงอยตั้งแข็งชูชัน ละแวงน้อยเสียดเสียวปั่นป่วนไปทั่วสรรพางค์กาย
“นายท่านกระหายน้ำหรือจ๊ะ...ข้าจะรีบลุกไปจัดเตรียมให้เดี๋ยวนี้...”
ละแวงหมายจะเอาใจ หล่อนใช้ลำแขนยันกายลุกขึ้นหากก็ถูกกดไว้ด้วยสองมือใหญ่ร้อนระอุที่สักครู่เตรียมจะจู่โจมเป้าหมายสำคัญ
“ไม่ต้องหรอก เจ้าแค่นอนลงนิ่งๆ แล้วก็ให้ข้าจับเจ้าซดน้ำตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเป็นพอ...”
จบคำพูดนั้นมือหยาบกระด้างซึ่งกำลังตรึงสองหัวไหลมนไว้ ออกแรงดันร่างเน่งน้อยให้นอนราบลงบนพื้นรองด้วยผ้าหนาหลายชั้น ละแวงรับรู้ได้ทันทีเจ้าป่าหนุ่มหล่อเหลากระหายน้ำจากสิ่งใดในตัวเธอ ยิ่งทำให้ร่องสาวขับน้ำเสียวออกมาจนชุ่มโชก
“ฉันก็หิวน้ำจากตัวท่านเช่นเดียวกันจ้ะ...” ละแวงน้อยกล้าพูดขอออกไปตรงๆ เพราะว่าเมื่อคืนเขาสั่งให้เธอพูดถึงความต้องการ
“ดี...เดี๋ยวข้าจะป้อนน้ำให้เอ็งดื่มเยอะๆ “
ในช่วงจังหวะเจ้าป่าหนุ่มขยับตัว ลำอวบของเขาสะบัดกระทบร่องก้นกระทุ้งอารมณ์ซ่านสยิวให้แล่นปรูดปราด จากที่มันนอนนิ่งสงบมาได้ไม่นานกลับผยองตัวอวบใหญ่ ทำเอาหัวจิตหัวใจสาวงามที่ชื่อละแวงถึงกับเต้นระส่ำ
ในหัวพลันนึก...ช่างน่าเอาลิ้นลิ้มเลียแล้วดูดแรงๆเสียเหลือเกิน
อามันต์โหนลำตัวกำยำขึ้นคร่อมอยู่เหนือร่างงดงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์ เขารู้ว่าเจ้าหล่อนหาใช่มนุษย์ธรรมดา แต่เป็นพวกนางสางสาวของสัตว์ในป่าลึกที่แปลงกายมายั่วยวน
เจ้าหล่อนคงจะอยากได้ญาณทิพย์วิเศษจากตัวเขา เหมือนอย่างที่พี่สาวอีกหลายตัวของเจ้าหล่อนเคยได้ อามันต์มีสิ่งนี้และเขาใช้มันเพื่อเป็นการตอบแทนความสุขให้พวกอมนุษย์สาวๆ
“แต่นายท่านอย่าดูดตรงนั้นแรงนักนะจ๊ะ...เอ่อ...ฉันรู้สึกว่ามันจะระบมแล้วก็แสบด้วยล่ะจ้ะ...” จะไม่ให้ระบมได้อย่างไรไหว เขาเล่นขยับโยกสอดลึกเข้าร่องรูบริสุทธิ์เธอจนแทบไม่ได้หยุดพัก ทำเอาผนังด้านในบวมช้ำ ถ้าจะโดนซ้ำอีกทีมีหวังคงจะเหลือแค่ซากตอนกลับเข้าฝูงเป็นแน่แท้
ดังนั้นผู้ก่อเหตุมีหรือจะทนนิ่งเฉย อามันต์จึงเปลี่ยนท่าด้วยการลงมานั่งด้านข้างร่างงามอรชร
“ไหนมาให้ข้าดูหน่อยสิ กลีบหอยของเจ้าระบมจริงหรือไม่...”
ผู้กระทำเหลือบสายตาหื่นลงมองเนินโหนกอวบอูมไม่ต่างจากพลูส้มโอ ก็เห็นว่าเป็นสีแดงจริง เขาทำปากขมุบขมิบร่ายคาถา โน้มตัวจนใบหน้าคมคร้ามเกือบแตะโดนแคมสวาท ใช้ปลายนิ้วใหญ่สองข้างแยกรอยผ่าที่ตรงส่วนหัวประดับเม็ดทับทิมสีหวานแล้วเป่าลมร้อนเข้าใส่
“อูย!...” นางละแวงน้อยเกิดอาการหวิวไหว หลังจากนั้นความรู้สึกแสบร้อนก็หายไปในพริบตาเดียว
สิ่งสวยงามลอยเด่นอยู่ตรงหน้า อามันต์ไม่ยอมลามือง่ายๆ ปลายนิ้วที่กำลังถ่างร่องสาวออกกว้างเลื่อนขึ้นไปขยี้เม็ดทับทิมระรัว เร่งผลิตน้ำหวานให้ไหลออกมาจนล้นเอ่อปากรูเล็ก ก่อนชายหนุ่มจะแลบลิ้นยาวแล้วลงมือปาดปลายลิ้นไปตามรอยแยกฉ่ำน้ำ ดูดเลียควักน้ำหวานจนนางละแวงน้อยเสร็จสมร่างเกร็งกระตุกไปอีกครา
อามันต์จึงลุกขึ้นนั่งตัวตรงพร้อมกับดึงเอานางละแวงน้อยขึ้นมาคร่อมทับไว้บนตักแกร่ง จูบกลีบปากอิ่มหนักๆอย่างหมั่นเขี้ยว น้ำลายไหลเปรอะเปื้อนไปทั่วกลีบปาก
“น้ำในตัวเอ็งนี้มันช่างหอมหวาน ดื่มกินเท่าไรก็ไม่ทำให้รู้สึกหายกระหายสักที”
“อย่างอย่างนั้น นายท่านก็ต้องดื่มน้ำในตัวของฉันให้เยอะๆเลยนะจ๊ะ...ดื่มให้อิ่ม ฉันก็ไม่ขัดข้อง” ยิ่งเขาสมสู่กับเธอบ่อยครั้ง ญาณในตัวเธอก็จะยิ่งแข็งแรง
เมื่อค่ำคืนนี้ก็ทำให้เธอได้ประจักษ์ ไม่เสียแรงที่ตนหาทางหลบหลีกออกมาจากฝูงแมวป่า ก่อนจะดั้นด้นเดินทางไกลมาถึงป่าอาถรรพ์ หวังจะได้เสพสมกับเจ้าแห่งป่าหนุ่มผู้นี้ตามคำเล่าลือของพวกสัตว์ร่านราคะในป่าลึก หากภูตหรือสางตนใดได้เสพสมกับเจ้าป่าหนุ่มผู้นี้ ร่างกายจะยิ่งเพิ่มญาณวิเศษให้มีอายุยืนคงกระพัน
พอได้ฟังบ่อยๆตัวนางแมวป่าในวัยละอ่อนเองก็อยากลิ้มลองในรสสวาทสักหน ทั้งที่จริงตัวเองนั้นตนก็มีชายที่ปรารถนามอบชีวิตให้เขาดูแล เขามีชื่อว่าเรือง เป็นถึงลูกชายหัวหน้าฝูง เขาเองอายุมากกว่าเธอเพียงไม่กี่ปี
ตอนละแวงหลบหนีมา ละแวงก็ไม่ได้บอกเขาหรอก เพราะเรืองกำลังเรียนรู้การขึ้นเป็นจ่าฝูงต่อจากพ่อของเขา
ละแวงหนีมาคนเดียวโดยไม่เกรงกลัวต่ออันตราย ต่อให้เส้นทางมาป่าอาถรรพ์จะลำบากแยกเข็ญสักเพียงใด ทว่าพอได้มาถึงที่หมายและพอได้ลิ้มลอง ก็ทำให้รู้ซึ้งในคำกล่าวขานที่ว่านั้นหาได้เกินจริงสักนิด
ฝ่ามือน้อยวางพลาดไว้บนหน้าอกเปลือยกำยำ แสร้งเอียงหน้าทำเป็นเอียงอาย จงใจกดนิ้วขยี้ลงบนจะงอยสีน้ำตาลเข้ม อามันต์ถึงกลับปล่อยส่งเสียงครางลึก นัยน์ตาดำขลับเปล่งแสงประกายหิวโหย หัวนมถูกเขี่ยเบาๆเรียกแรงกระสันให้โหมกระพือ
“อา...” อามันต์กัดฟันแน่น ทอดสายตาหื่นมองสาวเจ้าพึงพอใจ
“ดูจากลีลาของเจ้าทั้งคืน เห็นทีข้าคงจะอิ่มยากอยู่สักหน่อย”
นางแมวป่าซึ่งกลายร่างเป็นหญิงงามถึงกับคลี่ยิ้มสมใจ ยกศีรษะขึ้นจากหน้าอกหนั่นแน่นพร้อมอ้าปากแล้วดูดจุกนมสีเข้ม อามันต์เกร็งแผ่นหลังกระตุกงึกๆ อาการเสียวแล่นปราดไปทั่วทั้งตัว เจ้าหล่อนดูดสลับทั้งซ้ายขวาก่อนจะปล่อยยอดอกของชายชาตรีรูปงามออกจากปากจิ้มลิ้ม กลับมาใช้ปลายนิ้วเขี่ยเล่นเช่นเดิม
“ข้าพร้อมให้ท่านกินได้นานเท่าที่นายท่านต้องการ...หรือจะตลอดช่วงอายุขัยเลยฉันก็ไม่มีปัญหา”
“นมเจ้าช่างใหญ่โตน่าดูดเลีย...” อามันต์เปลี่ยนเรื่องคุย สำหรับเขาไม่เคยมีความคิดจะหยุดที่สาวคนไหนทั้งนั้น
“ถ้างั้นก็เชิญนายท่านดูดนมข้าให้สมใจเถิดเจ้าค่ะ”
นางแมวป่าแอ่นลำตัวโค้งมาทางด้านหลัง จนหัวนมสีหวานพุ่งชูชัน ปะทะสายตาหื่นกระหายของนายป่าหนุ่มหล่อเหลา มือหนึ่งยกฐานนมป้อนให้ถึงปากหยักได้รูป
เจ้าแห่งป่าไม่รอช้า เขากดริมฝีปากร้อนขยี้ลงบนจะงอยเม็ดงามด้วยเกิดอารมณ์กำหนัดเต็มที่ ส่งอีกมือฟอนเฟ้นเนินเนื้อเต่งตรึง บีบขยำจนเนื้อขาวปลิ้นทะลักระหว่างง่ามนิ้วมือ ส่งผลให้นางแมวป่าจอมยั่วครางเสียงกระเส่ารัญจวน
“อา...นายท่านข้าเสียวหัวนม...”
ดวงตาดำขลับเลื่อนลอยเคว้งคว้าง เจ้าตัวดันกลีบอูมฉ่ำน้ำสัมผัสลำดุ้นเนื้อขรุขระเกิดจากเส้นเลือดพันล้อมเหยียดขยายจนสุดปลายลำ
-------------------------------------
จังหวะเร่าร้อนดำเนินไปอย่างบ้าคลั่ง ลำดุ้นขนาดเท่าข้อมือดำผุดดำว่ายภายในแอ่งน้ำหฤหรรษ์ ละแวงตัวน้อยไหวโยกไปตามแรงกระแทกกระทั้น สุขสมทุกครายามรูเล็กของเธอถูกครูดไถด้วยอาวุธสุดแสนร้ายกาจของชายหนุ่มซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นถึง เจ้าแห่งป่าดงดิบ...
ปรัก ปรัก ปรัก
เสียงโหนกเนื้อกระทบเข้าหากันเป็นจังหวะระรัว อามันต์โหย่งตัวกดลำอวบย้ำๆจนลาวาร้อนไหลทะลัก แล้วใช้ปลายนิ้วล้วงเอาน้ำขาวขุ่นป้อนส่งให้ถึงปากนางแมวสาวยั่วสวาท ละแวงถูกสอนให้ดูดจึงรู้ว่าควรทำเช่นไรกับปลายนิ้วในปากตนเอง
เสียงดูดนิ้วจึงดังขึ้น จ๊วบ จ๊วบ สร้างอารมณ์ปั่นป่วนในโพรงอกของเจ้าป่าหนุ่มเป็นอย่างดี เขาชักนิ้วชุ่มน้ำลายออกแล้วเปลี่ยนเป็นการก้มลงจูบปากอวบอิ่มเจ่อบวมแทน สอดปลายลิ้นร้อนว่ายวนลิ้มลองกลิ่นน้ำรักของสาวเจ้า โดยสะโพกหนั่นแน่นยังคงกระหน่ำหวดเข้าหารูสวาทไม่หยุดพัก
“อะ...อะ...อะ...อะ...อูย...เสียว” ละแวงครางเสียงกระเส่า แอ่นหน้าอกสล้างให้มือใหญ่บีบเคล้นเล่นหัวจะงอย
อามันต์ถอนจูบซุกใบหน้าหื่นกระหายแทนฝ่ามือที่บีบขยำเต้างาม อ้าปากดูดหัวจุกนมแสนหวานจนแก้มตอบ
ลำอวบถูกบีบรัดถี่ระยับ ผนังภายในร่องสวาทคงหดตัวเพราะเจ้าของกำลังเสร็จสมไปอีกคราว
“อร๊าย!...อูย...อูย...”
“เสร็จรอบนี้ข้าจะพาเอ็งไม่หาความสุขท่ามกลางธรรมชาติด้านนอกดีไหม...” ปากถามเสียงอู้อี้ด้วยบัดนี้ปากยังไล้เลียอยู่บนฐานทรวงงาม ปลายจมูกกดนาบไปบนผิวเนื้อเรียบลื่นให้ความรู้สึกเหมือนดอมดมกลีบของดอกกุหลาบ ละแวงที่เพิ่งน้ำแตกไปหยกๆผงกศีรษะงึกๆตอบรับ เม็ดเหงื่อยังโทรมไปทั่วทั้งผิวกายเพราะว่าเธอนั้นตื่นมาเจอศึกหนักของจริง
“ดีจ้ะ...” เขาว่าอย่างไรละแวงก็ว่าตามนั้น ละแวงไม่มีสมองจะคิดอะไรในตอนนี้ทั้งนั้น เพราะมันมีแต่เรื่องกามราคะอยู่ในหัว
น้ำเธอแตกไปไม่รู้กี่หนต่อกี่หน ส่วนนายป่าหนุ่มน่ะเหรอ...เขาทั้งอึด ทั้งทน ขย่มโยกเธอเป็นชั่วโมงกว่าน้ำเขาจะแตกออกมา
น้ำรักเขาเยอะมาก ฉีดพ่นเข้าใส่ในร่องสาวเธอทีทำเอารู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วสรรพางค์กาย ทำเอาเธอเสร็จติดๆกันตอนเขาฉีดน้ำเข้าใส่ก็มี
“ว่านอนสอนง่ายแบบนี้ ข้าจะมอบความสุขให้เอ็งมากๆ”
“ฉันพร้อมรับความสุขจากนายท่าน”
สีหน้านางแมวป่าตัวน้อยแม้นจะดูเหน็ดเหนื่อยทว่ากลับเปื้อนไปด้วยความสุขจนล้นอก อามันต์รวบปลายเท้าเล็กดันให้พับลงด้านข้างโดยลำทวนขนาดยาวใหญ่ยังคงทิ่มแทงในรูเล็กราวกับพายุ ชายหนุ่มเร่งจังหวะระรัว หมายจะพาตัวเองไปถึงฝั่งฝันเร็วๆ นิ้วข้างหนึ่งจึงถูกส่งลงไปขยี้ย้ำตรงเม็ด
เขาหมายตาใต้ต้นไพรฟ้าไว้ว่าจะพานางแมวตัวน้อยไปขย่มรักตรงนั้นอีกสักรอบถึงจะปล่อยให้เจ้าหล่อนกลับเข้าฝูง จะลากให้หญิงสาวร่วมสวาทกับเขาอีกสักคืนเห็นทีคงจะไม่ได้ ไอ้ลิงบาบูจอมกวนประสาทคงมีธุระสำคัญ เขาเห็นมันห้อยโหนเถาวัลย์ไม่ห่างจากกระท่อม จังหวะสวาทครั้งสุดท้าย อามันต์จึงกัดฟันรีดเรี่ยวแรงทั้งหมด แล้วกระหน่ำลงน้ำหนักตอกสะโพกสับเข้าหาร่องฉ่ำน้ำรักจนร่างละแวงน้อยบิดเกร็งแทบแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“อร๊าย! / โอ้ว!”
เพียงอึดใจต่อมาอามันต์อุ้มร่างอ่อนระทวยลงมาเหยียบยังผืนป่า ลิงบาบูที่เห็นร่างเปลือยเปล่าของทั้งสองรีบกระโจนหนีแทบไม่ทัน มันโหนเถาไม้หลบเข้าโพรงกระรอกป่าไปพร้อมกับเสียงบ่นงึกงำตามประสาลิงแก่แดดที่เห็นการกระทำของเจ้าป่าจนชินชา มาเอาสาวให้ตามันเป็นกุ้งยิงอีกแล้วนะนาย...
“เออ...ขออีกน้ำเดียว เดี๋ยวข้าจะเรียก”
อามันต์ตะโกนเสียงแหบพร่าบอกเจ้าลิงจอมกวนประสาท แล้วเอี้ยวตัวมาจัดการกับนางแมวสาวแสนสวย
“นายท่านจะทำตรงนี้หรือจ๊ะ...” ละแวงหันรีหันขวางมองความเขียวขจีของแมกไม้นานับชนิด ปลายจมูกเล็กสูดกลิ่นหอมของป่าก็ทำให้หวนคิดถึงบ้านซึ่งเป็นป่าจากทางฝั่งเหนือของตัวเองขึ้นมาครามครัน
คิดถึงพี่เรืองซึ่งไม่รู้ป่านนี้จะฝึกฝนวิชาไปถึงไหน
“ทำตรงนี้แล้วข้าจะส่งเอ็งกลับเข้าฝูง...” อามันต์พูดราวกลับล่วงรู้ความคิดของนางแมวสาววัยละอ่อน
“แต่ฉันยังอยากอยู่รับใช้นายต่อ ให้ฉันอยู่ที่ป่านี้ต่ออีกสักหน่อยได้ไหมล่ะจ๊ะ?...” ต่อให้ตอนนี้ละแวงจะรู้สึกคิดถึงป่าทางฝั่งเหนือ หากทว่ารสชาติของคาวสวาทก็ยังทำให้เจ้าหล่อนตัดใจไปไม่ลง
อามันต์ส่ายหน้า
“ข้ามีธุระต้องไปจัดการ คงร่วมรักกับเอ็งทั้งวันไม่ได้”
“น่าเสียดายจัง...” ละแวงตัดพ้อเสียงเบา
“อย่ามัวพูดจาให้หมายความ ลำอวบข้ามันอยากมุดเข้ารูเอ็งใจจะขาด”
ละแวงเหลือบสายตามองดุ้นเนื้อขนาดยาวชี้โด่เด่มาทางตัวเองก็กลืนน้ำลาย ไม่ต้องสอนนางละแวงตัวน้อยก็จัดการทรุดตัวนั่ง คว้าเอาสิ่งน่าสะพรึงกลัวอมเข้าไว้ในปาก ถึงจะได้เพียงครึ่งทว่าสัดส่วนที่เหลือสาวน้อยหัวไวก็จัดการได้อย่างไม่ยากเย็น
อามันต์ครางเสียวเพราะถูกดูดดุ้นเนื้อรุนแรง เลือดในกายร้อนรุ่มเดือดพล่านเพียงแค่อาวุธร้ายถูกรวบเข้าไปดูดอม มือเรียวสอดเข้าหาเส้นผมนุ่มสลวยเป็นฝ่ายควบคุมจังหวะเข้าออก โดยปลายหัวเห็ดพ่นเอาน้ำรักไหลซึมให้ละแวงน้อยได้ดูดกินจนอิ่มแปล้ พวงไข่สวรรค์แกว่งไกวไปตามแรงโยกของริมฝีปากอิ่มกระทบใบหน้าบิดเบี้ยว จนกระทั่งอามันต์ใกล้จะแตะขอบสวรรค์เขาจึงดันศีรษะงามถอยห่างออกมาจากดุ้นเนื้อแข็งโด่ ดึงหัวไหล่มนให้ลุกขึ้นยืน ดันร่างเน่งน้อยให้ยืนหันหลังโน้มตัวไปด้านหน้าโดยสองแขนเรียวยันโคนต้นไพรป่าเอาไว้
ลำดุ้นถูกสวดกระแทกเข้าใส่รูสวาทเสียงดังกึก
“โอ้ว!...ซีด...อร้าย...”
ละแวงถึงกับครางเสียงลั่นป่า ภายในร่างเธอทั้งจุก ทั้งเสียว น้ำรักไหลย้อยออกมาทันควัน เสียวสยิวจนขนในกายลุกชัน อามันต์พอได้ส่งแก่นกายเข้าไปพำนักในรูเล็กแสนคับแคบได้สำเร็จ เขาโน้มตัวไปด้านหน้าแนบเรือนกายกำยำคร่อมทับแผ่นหลังขาวนวลเนียนโดยส่งมือหยาบทั้งสองข้างนวดคลึงเต้าหย่อนยานไปตามแรงโน้มถ่วง พร้อมกับสาวบั้นท้ายกระแทกกระทั้นในจังหวะระรัว
ปรัก ปรัก ปรัก ทั้งสองยืนขย่มโยกกันอย่างเมามันจนตะวันเริ่มเคลื่อนย้ายขึ้นมาเป็นแนวตั้งตรง โดยละแวงยังถูกจับให้ยืนโก่งก้นงอนงาม รับแรกกระทุ้งหนักๆจากดุ้นเนื้อชิ้นโต
บาบูที่รอจนหลับคอพับคออ่อนในโพรงกระรอกมาสะดุ้งตื่นเพราะเสียงร้องโหยหวนของผู้เป็นเจ้าเหนือชีวิต
อามันต์เงยหน้าคำราม ฉีดน้ำรักขาวขุ่นพ่นเข้าใส่ภายในร่องสวาทของนางแมววัยละอ่อน...
รอบนี้เขาคงต้องตัดใจจริงๆซะที พอเขารีดน้ำจนหมดทุกหยาดหยด ละแวงเองที่ทำท่าจะทรุดฮวบลงบนพื้นก็ถูกรวบเอวไว้ด้วยมือที่แข็งแรง อามันต์กดริมฝีปากร้อนไปบนแผ่นหลังเนียนเหลือมมันวาวไปด้วยเม็ดเหงื่อ ทันใดนั้นร่างงดงามอ่อนปวกเปียกก็หายวับไปในอากาศทันที...
“ข้าต้องขอบใจเอ็งมากๆนะ นางละแวงตัวน้อย เอาไว้ถ้าเอ็งได้ตบแต่งเป็นเมียไอ้หนุ่มหน้าอ่อนนั่นคราใดข้าจะไปให้พรเอ็งถึงในฝูง...”
อามันต์เอ่ยปากส่งไปตามกระแสจิต โดยไม่ลืมร่ายคาถามอบพลังให้นางแมวยั่วสวาทเป็นการตอบแทน...
บาบูที่ชะโงกหัวมามองจึงโหนตัวกระโดดหายลับไปยังกระท่อม แล้วกลับมาอีกทีพร้อมด้วยผ้าชิ้นหนึ่งถือไว้ในมือ มันห้อยตัวลงมาจากบนกิ่งไม้ แล้วกระโดดลงมานั่งหมอบลงบนแทบเท้าของเจ้าป่าอย่างรู้หน้าที่ โดยในมือที่มีชิ้นผ้ายื่นส่งให้ผู้เป็นนายเหนือชีวิตสัตว์ป่าทั้งหลาย...
“มีนายพรานหลายคน กำลังอาจหาญบุกกันเข้ามาจับสัตว์เล็กสัตว์น้อยไปเพื่อแล่เนื้อขายทางป่าชื้นฝั่งนู้น...” อาบู รีบบอกในสิ่งร้อนใจ ขืนชักช้ากว่านี้พวกพ้องของมันคงมีอันเป็นไปอีกหลายชีวิต
แววตาของอามันต์เปลี่ยนเป็นทะมึนน่ากลัว เร่งตวัดผ้าคุ้มสะโพกปิดสิ่งอุจาดตาเรียบร้อยก่อนจะส่งสัญญาณด้วยมือ เถาวัลย์เส้นหนึ่งจึงถูกส่งโยนลงมาตรงหน้า เขายึดไว้ก่อนจะโหนตัวไปยังทิศทางดังกล่าว…
------------------------------------------------------