ฉกาของทัพทอง (หลงยังไงก็ไม่รัก)
นิยายเรื่อง ฉกาของทัพทอง นามปากกา...มาศอุไร
วางจำหน่าย ในรูปแบบนิยายออนไลน์ (ebook)
แพลตฟอร์มที่วางจำหน่าย : Meb ธัญวลัย นายอินทร์ Ookbee
สามารถ เข้าอ่านเนื้อหา ฉบับเต็มได้ตาม แพลตฟอร์มนิยายชั้นนำทั่วไป อาทิเช่น...
( Dek-d , readAwrite , ธัญวลัย , Hongsamut , fictionlog )
-----------------------------------------------------
*ลิงค์สำหรับเข้าโหลดซื้อนิยาย ebook (นามปากกา กนกรส มาศอุไร กัมพู) -
- https://www.mebmarket.com/index.php?action=search_book&type=all&search=%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%AA&auto_search_id=&page_no=1
-----------------------------------------------------
*สามารถเข้าอ่านนิยาย ฉกาของทัพทอง(ฉบับเต็มได้ที่ ธัญวลัย) ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยนะคะ -
- https://www.tunwalai.com/story/783162
------------------------------------------------------
*แฟนเพจ: กนกรส* https://www.facebook.com/กนกรส-1742298989361370/
อ่านต่อได้ที่ https://board.postjung.com/1551064
3
(หลงยังไงก็ไม่ใช่เมีย...)
ตอนเช้าแบบนี้อากาศภายนอกเรือนหลังใหญ่ค่อนข้างเย็นสบาย ด้วยมีลมเย็นจากทางชายป่าซึ่งมีต้นไม้ขึ้นหนาทึบโชยเอื่อยมาเรื่อยๆ ทำให้คนกำลังนอนหลับสบายภายในเรือนนั้นถึงขั้นหลับเป็นตายโดยไม่รู้สึกตัวสักนิดตอนนี้เรือนร่างอรชรขาวลออกำลังถูกล่วงล้ำด้วยลำอวบสอดทะยานเข้าออกอยู่ภายในโพรงแสนคับแน่น
หน้าอกอวบใหญ่เกินกว่ารูปร่างเล็กกะทัดรัดถูกรวบเข้าไปดูดเลีย
กลิ่นกายเด็กสาวหอมกรุ่นติดปลายจมูกโด่ง รสชาติของนมทั้งเต้าสล้างก็หวานหอม ยิ่งได้ดื่มได้เลียก็ยิ่งติดใจ...เห็นทีถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆตัวเขาเองจะกลายเป็นบ้าเข้าสักวัน...บ้าเพราะเขายังลุ่มหลงเด็กสาวฉกา จนวันๆเห็นแต่เนื้อนมไข่ลอยวนอยู่ในส่วนของหัวสมองแทนการเห็นพวกสัตว์ป่าที่เขาออกล่า...
นายพรานหนุ่มใหญ่ซึ่งมีฐานะเป็นถึงหัวหน้าหมู่บ้านสามโคกหัวเราะหึๆให้กับความคิดในใจ เขาโก้งบั้นท้ายขึ้นสูงยามตอกทะยานลำดุ้นเข้าสู่ภายในร่างเล็กของเด็กสาว แรงเสียดเสียวส่งให้เขาคำรามลั่น
ถึงกระนั้นฉกาก็ยังไม่รู้สึกตัวตื่น
“อืม...ซีดดดดดดด...เสียว แล้วก็ดีเป็นบ้า”
นายบ้านทัพทองกระทุ้งเอวสอบด้วยจังหวะหนักหน่วง
เขาขยับตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมดันร่างงามให้นอนคว่ำหน้าลงกับฟูกหนา ใบหน้างามบิดเบ้ทว่าดวงตาทั้งสองข้างยังปิดสนิท ริมฝีปากบวมเจ่อแดงก่ำเปล่งเสียงร้องครางกระเส่าตามสัญชาตญาณ
ขี้เซาเสียจริงเมียกู...
ความคิดพลั้งเผลอในใจทำให้ทัพทองนิ่วหน้า หัวใจข้างซ้ายเขากระตุกรุนแรง นัยน์ตาดำสนิทหรี่มองแผ่นหลังขาวนวลมันเยิ้มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ละเลยเลื่อยมาจนถึงใบหน้าอ่อนเยาว์งดงาม จนบังเกิดอารมณ์หงุดหงิดฟุ้งซ่าน
เพราะคำที่พลั้งเผลอเมื่อสักครู่ ทัพทองคิดว่ามันเป็นเรื่องบ้าบอสิ้นดี
หนุ่มใหญ่ที่ยังไม่พร้อมจะมีเมียจึงส่งแรงกระเด้าเข้าใส่ร่องสวาทถี่ยิบ...
เมีย!เขาอย่างนั้นเหรอ? บ้าน่ะสิ ตับ ตับ ตับ
เขาคิดว่าฉกาจะมาเป็นเมียเขาได้อย่างไรกัน เด็กสาวผู้นี้ก็แค่ผู้หญิงซื้อหามาด้วยเงินจำนวนหนึ่ง เด็ดหน่อยตรงความสาวแล้วก็ความสดนอกนั้นก็ไม่เห็นจะมีคุณค่ากับคำนี้ตรงไหน
ครั้นแรงกระแทกส่งเข้าออกรูเล็กค่อนข้างจะหนักหน่วง ฉกาจึงผวาตัวตื่นพร้อมส่งเสียงร้องระโหยด้วยความทรมาน
“อืม...นายพราน....ฉกาเจ็บจ้ะ...”
น้ำเสียงแหบพร่าเรียกคืนสติของผู้เป็นนายเหนือหัวของหมู่บ้านสามโคก แววตาคมกล้าหรี่มองเจ้าหล่อนเขม็ง แรงขยับตอกตำจึงทอนน้ำหนักลงโดยทันที หากริมฝีปากหยักได้รูปกลับพ่นประโยคหนึ่งที่ทำให้ฉกาถึงกับหน้าขาวซีด ตัวแข็งทื่อ
“อย่ามาทำเป็นสะดีดสะดิ้ง มึงมันก็แค่ผู้หญิงบ้านสามดอก โดนกูกระเด้าเอาแรงแค่นิดหน่อย ดันทำมาเป็นสำออย...”
ดึงความโมโหเข้าข่มความรู้สึกพลุ่งพล่าน ต่อให้ลุ่มหลงในเรือนกายงดงามนี้มากสักแค่ไหน ฉกาก็ไม่ใช่เมียเขาอยู่ดี
นายพรานคนพาลเร่งสาวสะโพกสอบกระชั้นถี่ ลมหายใจของฉกาหอบถี่ สมองยังคงมึนงงกับประโยคกล่าวหา เธอไปเป็นสาวบ้านสามดอกตั้งแต่ตอนไหน ก็เป็นนายพรานเองมิใช่หรือออกโรงปกป้อง ช่วยเธอให้หลุดพ้นจากขุมนรกไม่ต้องถูกขายเข้าบ้านหลังนั้น
หรือว่านายพรานจะลืม...
ฉกากล้ำกลืนความรู้สึกเสียใจไว้ในก้นบึ้ง
หรือไม่ก็นี่อาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่านายพรานกำลังนึกเบื่อหน่ายต่อร่างกายของเธอแล้ว เด็กสาววัยยังไม่พ้นวัยยี่สิบปีดีนึกใจหาย
ไม่...เธอจะไม่มียอมให้เป็นเช่นนั้นเด็ดขาด
เธอไม่อยากเป็นเหมือนพี่ส้มแป้น วันๆคอยเอาแต่คร่ำครวญชะเง้อคอคอยหาแต่พรานทัพทองราวกับคนบ้า สุดท้ายผู้ชายก็หาได้ชายตากลับมาสนใจ ปล่อยให้นั่งเหงากอดตัวเองลำพัง
ฉกาสูดลมหายใจเข้าอกลึก รวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดโย่งก้นงามสอดรับแรงประสานจากทางด้านหลัง ฝ่ามือน้อยควานหาท่อนขาแข็งแกร่ง เอี้ยวใบหน้าเรียวรูปไข่มาทางด้านหลัง ส่งนัยน์ตาเว้าวอน
“ให้ฉกาทำให้นะจ๊ะ...”
นายพรานหนุ่มใหญ่พยักหน้าลง อารมณ์หงุดหงิดกลับมาคงเดิม
หนุ่มใหญ่ชักลำอวบออกจากรูฉ่ำน้ำเสียงดังบ๊วบ
เอ็นร้อนยังคงแข็งโด่ขึ้นเป็นท่อนยาว บนลำอวบเคลือบไปด้วยน้ำคาวขาวขุ่น ก่อนทัพทองจะเป็นฝ่ายเอนตัวลงนอนราบบนพื้นฟูก ปล่อยให้เจ้าของเรือนร่างอรชรขยับลุกขึ้นมาคร่อมทับอยู่บนลำตัว
มือน้อยของเธอคว้าลำดุ้นแข็งเป็นลำโด่เสียบเสือกเข้ารูน้อยๆของตัวเอง
“อืม...อา...”
แรงเสียดสีภายในร่องรักเสียวปราด ลำดุ้นครูดไปตาผนังถ้ำบอบบางจนเนื้อตัวของฉกาสั่นเทา เธอเปล่งเสียงครางผิวแก้มนวลเนียนนั้นร้อนเห่อ มือหยาบสากระคายคว้าเอานมสองเต้ามาบีบขยำ
“เร่งเข้าหน่อย เช้านี้กูมีธุระต้องเร่งไปทำกับไอ้ทองก้อน...”
ว่าจบก็ดันศีรษะโน้มมาด้านหน้า ดึงนมเต้าหนึ่งมาดูดทำตัวเป็นทารกตัวน้อย ปล่อยให้อาวุธคู่กายถูกสวมสอดกระแทกขึ้นลงมาหนักๆ เลือดในตัวเขาร้อนระอุ แล่นพล่านถูกอกถูกใจกับการถูกปรนเปรอจากสาวน้อย
“อ๊า...เพิ่มแรงอีกนิด น้ำกูใกล้จะแตกแล้ว”
แรงควบขี่บนลำตัวหนั่นแน่นเพิ่มระดับหนักหน่วงตามคำร้องขอ ใบหน้าสาวน้อยเหยเก ยิ่งออกแรงกระแทกรุนแรงรูแคบของเธอก็ยิ่งบีบรัด เจ็บเสียว ฉกากัดฟันกรอดแอ่นลำตัวโน้มนมอีกเต้าให้เขาสลับดูดดื่ม
“นายบ้านทัพโว้ย!...ไอ้ทองก้อนมาถึงแล้วจ้ะ...”
เสียงห้าวทุ่มดัดจริตทำให้เป็นเสียงอ่อนเสียงหวานดังขึ้นมาจากชานหน้าเรือน เป็นเสียงของไอ้ทองก้อนมันมาตามนัดหมายของนายบ้าน
สาวน้อยฉกาเกือบหยุดชะงักกับเสียงเรียกหา หากมือหยาบกลับรวบเอวคอดกิ่วไว้มั่นพร้อมเป็นฝ่ายตะบันสะโพกแข็งแรงเข้าใส่ในร่องคับแน่นนั่นซะเอง ศีรษะน้อยโยกโย้ไปตามแรงสะเทือน ฉกาเกร็งช่วงก้นยามเมื่อเธอเดินทางมาถึงแดนสวรรค์ ปลดปล่อยน้ำเชื้อในโพรงนุ่มมากล้น ฉกาเสียวกระสันไปพร้อมๆกับนายพรานหนุ่มใหญ่ ร่างน้อยเอนลงซบกับแผ่นอกกว้าง พยายามปรับลมหมายใจให้เหมือนเดิม
“รอกูประเดี๋ยว ขออาบน้ำผลัดผ้าสักหน่อย...”
นายพรานทัพทองตะโกนบอกคนตรงชานเรือน ดันร่างอวบอิ่มให้นอนราบบนพื้นฟูก มือหยาบยังเผลอไผลฟอนเฟ้นเต้าสล้าง โน้มใบหน้าคมคาย กดกลีบปากร้อนจูบกลีบปากอวบอิ่มสีกุหลาบ ก่อนไฟราคะจะรามทุ่งไปไกล
ฉกาจึงดันร่างหนาใหญ่ของนายพรานออกห่าง
“พี่ทองก้อนรอนายพรานอยู่นะจ๊ะ...”
“อืม...ขออีกนิด กูยังไม่อิ่มดีเลย”
สิ้นคำนั้นท่อนเนื้อแข็งโป๊กซึ่งยังไม่คิดอ่อนตัวลงจึงจ้วงแทงเข้ารูเล็กอันเดิมอย่างพอเหมาะพอเจาะ ฉกาผวาเฮือกรัดร่างหนาเอาไว้แน่น เธอครางเสียงแห้งระโหย หากเพราะรู้ว่าภายนอกตรงชานเรือนยังมีคนนั่งรออยู่ เธอจึงต้องสกัดกั้นเสียงครางเอาไว้อย่างแผ่วเบา เบียดเสียดนวลเนื้อ ตวัดเรียวเท้ารัดเอวสอบในยามถูกเขากระทุ้ง
ทองก้อนเหลือบสายตามองบานประตูห้องที่ปิดมิดชิดพร้อมกับระบายลมหายใจหนักหัวอกหัวใจ แอบหลงรักคนมีเจ้าของ จึงต้องมานั่งเจ็บอยู่เพียงลำพัง
เสียงตำน้ำพริกเพิ่งจะเงียบหายกลับดังขึ้นมาอีกระลอก
น่าอิจฉานายพรานชะมัด ได้เสพสุขกับฉกาทุกค่ำคืน
ตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่เฝ้ารอเวลา ภาวนาขอให้นายบ้านสามโคกเบื่อหน่ายสาวน้อยฉกาของเขาซะที เฝ้ารอมาหลายเพลาก็ไม่เห็นทีท่านายบ้านจะเบื่อ มีแต่จะขลุกตัวไม่เคยห่างหายจากสาวน้อย
หรือว่านายพรานคิดจะเอาฉกายกให้เป็นเมีย ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ไอ้ทองก้อนคนนี้ก็คงต้องอกช้ำระกำใจ...
หนุ่มฉกรรจ์หน้าม่อยลง หัวใจเขาเจ็บหน่วง
ก่อนความคิดทองก้อนจะเตลิด บานประตูไม้ก็แย้มออกกว้าง สาวน้อยฉกาเดินสีหน้าเหนื่อยล้าออกมา ถึงกระนั้นเธอก็ยังอุตส่าห์มีน้ำใจฉีกยิ้มทักทาย
“พี่ทองก้อน...ประเดี๋ยวฉันจะไปยกน้ำมาให้ดื่มนะจ๊ะ”
“ขอบใจมากฉกา แต่พี่ไม่รบกวนเอ็งหรอก พี่ไม่กระหายน้ำ”
“คงจะกระหายตีนกูนี่กระมัง คนกำลังขึ้นสวรรค์ เสือกดันทะลึ่งจะมาขัดจังหวะกันซะได้...” นายพรานทัพทองเดินหน้ามุ่ยตามสาวน้อยฉกาออกมาด้านนอกห้อง บนบ่ายังพาดผ้าขาวม้าเตรียมตัวจะลงไปอาบน้ำ
ท้องก้อนกลืนน้ำลายลงคอ ยิ้มแหย่ส่งให้
“ถ้าอย่างนั้นให้ฉันไปรอนายบ้านตรงท้ายป่าก็แล้วกันนะ...”
“ไม่ต้อง...กูอาบน้ำไม่นาน เสียเวลา...เดี๋ยวเดินไปพร้อมกันนี่แหละ”
นายพรานทัพทองก้าวพรวดลงบันไดเรือนมา โดยมีฉกาเดินตามหลังมาไม่ห่าง
“เอ็งไม่ต้องตามกูลงมาอาบน้ำด้วยหรอก ประเดี๋ยวลำกูมันเสือกเกิดคึกคะนองขึ้นมา คงไม่ต้องออกไปทำธุระกันก็คราวนี้”
“จ้ะ...” ฉการับคำ ผิวแก้มทั้งสองข้างร้อนฉ่า เธอไม่กล้าหันกลับไปมองทางพี่ทองก้อน คิดว่าประโยคเมื่อกี้ของนายพรานเขาเองก็คงได้ยิน...
----------------------------------
พอมีเวลาว่าง ฉกาก็จัดการเก็บกวาดเรือนจนสะอาดสะอ้าน เธอทำเช่นนี้จนเป็นเรื่องกิจวัตรประจำวัน ดังนั้นแล้วเรือนหนุ่มโสดเมื่อสมัยก่อนเคยรกร้างเพราะขาดการดูแลเอาใจใส่จริงจัง มาบัดนี้จึงดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ระรื่นหูระรื่นตา
ยามทัพทองกลับเข้าบ้านเขาเลยมักอารมณ์ชื่นบานเป็นพิเศษ
มองไปทางมุมไหนก็ไม่ดูขัดตา
ฉกาไม่เคยเกียจคร้านทำงานบ้าน แม้นนายพรานจะไม่เคยสั่งไว้สักคำ ส่วนเรื่องอาหารการกิน เด็กสาวเองก็เป็นคนทำทุกมื้อไม่เคยขาด
โดยเครื่องปรุงอาหารส่วนใหญ่นายพรานทัพทองจะเป็นฝ่ายหามาทิ้งไว้ให้เธอทำ ฉกามีฝีมือทางด้านนี้เลยถูกปากคนกิน นายพรานจึงไม่ค่อยแวะยามถูกชักชวนจากลูกบ้าน
พอแดดเริ่มแรง ฉกาวางมือจากไม้กวาดทำจากลากของต้นไม้ เดินเข้ามาในห้อง รวบรวมเอาเสื้อผ้าใช้แล้วใส่ตะกร้าหวาย กระเตงเข้าเอวก่อนจะเดินมายังริมธาร กวาดตาดูตรงพื้นที่ว่างเปล่าโดยเด็กสาวมักจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับสาวๆในหมู่บ้านสามโคก
อันที่จริงก็เป็นบรรดาพวกที่เคยถูกพาตัวมาคอยรับใช้นายพราน ผู้หญิงพวกนี้จึงมีความรู้สึกเจ็บแค้นเคืองโกรธเธอมากเป็นพิเศษ
ฉกาจึงไม่อยากพาตัวเองสุ่มเสี่ยงถูกทำร้าย หลบได้ก็หลบ เลี่ยงได้ก็เลี่ยง ถ้าหากเกิดเหตุสุดวิสัยหลบเลี่ยงไม่ทันขึ้นมาจริงๆ เธอก็เพียงใช้น้ำคำหวานหูพูดจาเอาอกเอาใจสาวๆเหล่านั้นเสีย
หรือต่อให้จะถูกด่าถูกว่า ถูกดูแคลนสารพัด ฉกาก็ทำเป็นเป็นหูทวนลม ไม่เคยนึกอยากต่อปากต่อคำ หรือกระทั่งอาจหาญลุกขึ้นสู้กับผู้ใด รู้จักสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรื่อยมา จากที่เคยเป็นที่น่าหมั่นไส้สำหรับสาวๆในหมู่บ้าน ตอนนี้หลายคนปรับเปลี่ยนความรู้สึกมาเอ็นดูฉกาแทน
ทว่าเห็นทีคงจะยกเว้นนางตำลึงกับส้มแป้น สองแม่ลูกผูกใจเจ็บเพราะเคยถูกฉกาหลอกให้รอคอยนายบ้าน เมื่อครั้งกระนู้น...
****************